การบูรณะสวนน้ำปิงจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของตลาดต้นลำไยและตลาดวโรรสให้มีกลับมามีชีวิตชีวา

“กาดต้นลำไยและกาดวโรรส เริ่มต้นในเวลาไม่ห่างกันมากนัก แต่เดิมพื้นที่ของกาดวโรรสหรือ ‘กาดหลวง’ เคยเป็นสุสานเก่าของเจ้านายฝ่ายเหนือ จนปี 2452 พระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ย้ายสุสานไปไว้ที่วัดสวนดอก เพื่อพัฒนาที่ดินให้กลายเป็นตลาด ส่วนกาดต้นลำไย ความที่อยู่ติดริมน้ำ บริเวณนี้จึงเป็นที่เลี้ยงและอาบน้ำช้างของเจ้าเมืองเชียงใหม่ จนอุตสาหกรรมค้าไม้และการค้าทางเรือบนลำน้ำปิงเฟื่องฟู จากที่เลี้ยงช้างก็ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยห้องแถวเล็กๆ ที่ต่อมากลายมาเป็นตลาดขนาดใหญ่แห่งใหม่ของเมือง

แม้จะตั้งอยู่ใกล้กัน แต่ตลาดทั้งสองแห่งก็ต่างมีรูปแบบเฉพาะที่ต่างกันออกไป ทำให้ไม่เคยแย่งลูกค้ากัน กาดวโรรสจำหน่ายผ้าสำเร็จรูป เสื้อผ้า ของฝาก และสินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนกาดต้นลำไยขายพืชผลทางการเกษตร วัตถุดิบประกอบอาหาร และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือดอกไม้ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าที่นี่เป็นตลาดดอกไม้สดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ถ้ากรุงเทพฯ มีปากคลองตลาดอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เชียงใหม่ก็มีกาดต้นลำไยอยู่ริมแม่น้ำปิง

กล่าวได้ว่าแผงขายดอกไม้ในกาดต้นลำไยเป็นตัวกลางที่ทำให้ดอกไม้เบ่งบานอยู่นอกแปลงหรือนอกกระถางทั่วเมืองเชียงใหม่ แต่ละวันเกษตรกรเจ้าของสวนดอกไม้ทั่วภาคเหนือจะส่งดอกไม้มาที่นี่ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้านำไปขายปลีกที่แผงในตลาด มะลิจะถูกร้อยเป็นมาลัยนำไปขายตามแผงเล็กๆ เพื่อรอให้คนมาซื้อไปบูชาพระตามวัดทั่วเมือง ส่วนดอกไม้จากแปลงบนดอยบางส่วนจะถูกส่งไปยังร้านรับจัดดอกไม้ หรือบรรจุกล่องส่งต่อไปยังกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ รวมถึงธุรกิจโรงแรมหรือเกสท์เฮ้าส์อีกหลายแห่งในเมืองก็รับดอกไม้จากที่นี่เพื่อไปตบแต่งสถานที่ เป็นต้น

นอกจากนี้ตรงข้ามกับแผงขายดอกไม้ บริเวณฟุตปาธริมแม่น้ำ ยังเป็นจุดจอดรถประจำทางไปยังจังหวัดลำพูน และอำเภอต่างๆ ของเมืองเชียงใหม่อีกด้วย เรียกได้ว่าย่านตลาดแห่งนี้เป็นเหมือนประตูเข้าออกเมือง หรือจุดเชื่อมของการเดินทางและการขนส่งสินค้า แบบเดียวกับที่มันเคยเป็นในยุคการค้าทางเรือเมื่อศตวรรษก่อนยังไงยังงั้น

นั่นทำให้เมื่อผมทราบว่าจะมีการบูรณะสวนน้ำปิง สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่เยื้องตลาดต้นลำไย ตรงข้ามกับศาลเจ้าปุงเถ่ากง ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะมันจะสามารถรองรับทั้งคนที่มาเดินตลาด คนที่มาไหว้ศาลเจ้า และคนที่มารอขึ้นรถประจำทางไปพร้อมกัน ยิ่งเมื่อทราบว่าภายในสวนจะจัดให้มีลานกีฬาและกิจกรรม ก็ยิ่งตอบโจทย์คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้อีกด้วย

ขณะเดียวกันผมมองว่าการบูรณะสวนแห่งนี้ไม่เพียงช่วยเสริมภาพลักษณ์ของย่านตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองแห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวา แต่ถ้าเราทำสวนแห่งนี้สำเร็จ ที่นี่จะเป็นต้นแบบให้ย่านอื่นๆ ของเมือง ให้ผู้คนเห็นว่าการมีสวนสาธารณะที่ดีและใช้งานได้จริง จะทำให้ย่านนั้นๆ มีความน่าอยู่มากขึ้นมาด้วย

และที่สำคัญ ความที่เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว สวนแห่งนี้จึงมีความพร้อมจะเชื่อมโยงกิจกรรมทางน้ำอย่างการนั่งเรือหางแมงป่องแบบในอดีต ไปจนถึงพายเรือคายัคชมแม่น้ำ สร้างภาพของความหลากหลายในจุดที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ที่มีทั้งภาพของธุรกิจการค้า การคมนาคมขนส่ง ความเชื่อความศรัทธา ไปจนถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และนันทนาการ รวมถึงการมีอยู่ของตลาดดอกไม้สดแห่งเดียวในภาคเหนือ ที่นี่จะกลายเป็นย่านที่เปี่ยมเสน่ห์มากๆ ครับ”

///

อดิศร สุจริตรักษ์

ตัวแทนผู้ค้าขายในตลาดต้นลำไย

#WeCitizensTh  #LearningCity  #ChiangMai

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

THE INSIDER : ณัฐธิยาภรณ์ อ้วนวงศ์ นักวิจัยโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ร้อยเอ็ด และนักวิเคราะห์นโยบายและแผน กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…

5 days ago

WeCitizens : The Concept

ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…

7 days ago

WeCitizens เมืองร้อยเอ็ด : ก้าวสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด

WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…

1 month ago

City View : ๑๐๑ เมืองรองที่ไม่เป็นรองใคร

ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…

2 months ago

๑๐๑ สานพลังผู้คนเพื่อกำหนดทิศทางเมือง

สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…

2 months ago

THE MAYOR : บรรจง โฆษิตจิรนันท์ : นายเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง

"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…

2 months ago