คนในชุมชนพูลสุขนี่ปะทะกับนักท่องเที่ยวร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นย่านการค้า การบริการ

            “ชุมชนพูลสุขเป็นชุมชนเก่าแก่ของเทศบาลเมืองหัวหินที่จัดตั้ง 40 กว่าปีมาแล้ว ประธานชุมชนตอนนี้เป็นรุ่นที่ 6 แล้ว เป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง อัตลักษณ์ของชุมชนพูลสุขมีอารยสถาปัตย์หลายอย่าง เป็นชุมชนดั้งเดิมของเมืองหัวหิน เป็นชุมชนชายทะเล อาชีพหลักคือทำประมงเรือเล็ก มีทำปลาเค็ม หมึกเค็ม แปรรูปส่งขายที่ตลาดฉัตรไชย เป็นชุมชนการฝีมือ ทำเปลือกหอยจากแม่อรุณ คงดี จำหน่ายนักท่องเที่ยว พัดใบตาลของคุณย่าอ้น ดรุณี ใบเกตุ มีกลุ่มหัวหินถิ่นมนต์ขลังของแม่อรุณ ซึ่งเน้นการละเล่นพื้นบ้านหลายๆ การละเล่นมารวมกัน เช่น ประเพณีผีพุ่งไต้ การละเล่นอีอึ่งยึด ผีอึ่งอ่าง ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้ไปแสดงที่ชายหาดเพื่อเสริมสร้างความสุขให้หัวหินกลับมามีความสุขอีกครั้ง

               พื้นเพเราเป็นคนชะอำ มาประจำการที่นี่ 10 ปี ตอนมาใหม่ๆ ชุมชนกับเทศบาลฯ ปฏิสัมพันธ์กันไม่มากสักเท่าไหร่ เรามาก็เสริมทางด้านอาชีพ การท่องเที่ยว ในซอยพูลสุขมีบาร์เบียร์เยอะ เราก็ไปจัดตั้งกลุ่มสตรีหรรษาบาร์เบียร์ให้เขา กลุ่มสตรีที่ตอนกลางคืนทำกิจการงานบริการ กลางวันเขาไม่มีอะไรทำ เราก็ไปเสริมอาชีพให้ทำการฝีมือบ้าง ผ้ามัดย้อมบ้าง ในซอยบิณฑบาตก็มีสินค้าของกลุ่มสตรีไปขายเล็กๆ น้อยๆ แล้วเมืองท่องเที่ยวมีคนต่างถิ่นเข้ามามาก คนท้องถิ่นต้องปรับตัวมากขึ้น คนในชุมชนพูลสุขนี่ปะทะกับนักท่องเที่ยวร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นย่านการค้า การบริการ ถามว่าคนดั้งเดิมจริงๆ ของชุมชนพูลสุข ส่วนใหญ่ย้ายถิ่นฐานขึ้นไปอยู่บนเขา ที่เหลือส่วนใหญ่ทำอาชีพค้าขาย บ้านเช่าเปลี่ยนเป็นสถานบริการไปเกือบทั้งหมด คือไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยแล้วด้วยสภาพแวดล้อม ถามว่าเรื่องลักเล็กขโมยน้อยมีมั้ย ก็ไม่หรอกค่ะ เพราะอยู่ใกล้สถานีตำรวจ มียามมีอะไรมากมาย แล้วชุมชนนี้ราตรีไม่หลับไหล อึกทึกครึกโครมตลอดเวลา แต่ในความมีบาร์เบียร์ บางคนเขาก็เห็นว่าผู้หญิงกลางคืนคือผู้หญิงหาสตางค์ แต่คือเป็นอาชีพของเขา แล้วเขาก็ไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับคนไทย ใจเขามุ่งไปนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถามว่ามันย้อนแย้ง คนไทยจะรังเกียจเขาหรือเปล่า แต่ก่อนเราไม่รู้ แต่ ณ ปัจจุบัน จากการสัมผัส เราก็ไปบาร์เบียร์บ่อย เพราะต้องไปดูกลุ่มสตรีหรรษา เราว่าเขาเข้ากันได้ดี ชุมชนก็ได้รายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบาร์เบียร์ด้วย มีการเปิดใจมากขึ้นที่จะยอมรับกันและกัน

               แต่ละชุมชนมีอัตลักษณ์ของเขาอยู่ เช่น ชุมชนบ่อฝ้ายเป็นชุมชนเก่าแก่ มาชุมชนริมหาด อัตลักษณ์เขาก็ทำการประมง อาชีพทำหอย ตากปลาเค็ม ปลาหมึก เขาก็ยังคงของเขาอยู่อย่างนั้น ที่โดดเด่นคือชุมชนชายทะเล ชุมชนพูลสุข ชุมชนแนบเคหาสน์ ซึ่งเรียงอยู่ติดกันเลย แต่คุณภาพชีวิตต่างกัน ชุมชนแนบเคหาสน์เป็นชุมชนคนรวยทั้งหมด ส่วนชุมชนที่ยังมีพื้นบ้านอยู่บ้าง มีประมงอยู่บ้าง ก็มีชุมชนสมอเรียง พูลสุข ชายทะเล ซึ่งมีโรงแรม บ้านพัก ร้านอาหาร ประปราย ถามว่าเมืองหัวหินได้รายได้จากตรงไหนเยอะ ได้จาก 3-4 ชุมชนนี้แหละ แล้วรายได้มากอีกที่ชุมชนริมหาด ชุมชนหัวดอน ชุมชนตะเกียบ รายได้ดีกว่าทางนี้อีก เพราะตรงนี้พื้นที่จำกัด แน่นแล้ว เลยไปขยายทางโน้นซึ่งดีกว่า แล้วก็ชุมชนศาลเจ้าพ่อเสือ ถ้าเข้าไปจะเห็นว่าสลัมเลย คุณภาพชีวิตไม่เหมือนเลย ชุมชนหัวหินมีหลายสเต็ปมาก

               หน้าที่ของกองสวัสดิการสังคมคือดูเรื่องคุณภาพชีวิต สภาพจิตใจและสังคม รัฐสวัสดิการ เบี้ยยังชีพ ชุมชนก็มีผู้ด้อยโอกาสเยอะ ตกเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐานเยอะมาก เพราะด้วยคนพื้นเพเก่าของหัวหิน เขาไม่ได้ยากจนอะไร แต่คนต่างถิ่นที่มาอาศัยอยู่ นี่แหละคือภาระอันหนักอึ้งของเทศบาลฯ ถ้าดูปีสองปีที่ผ่านมา ชาวบ้านมีปัญหาเยอะมาก ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมมีการปลดพนักงานหลายร้อยคน รัฐก็ช่วยบ้างเล็กน้อย ในส่วนของประชาชนก็มีปัญหา มาขึ้นทะเบียนกับเรา แต่เราก็ต้องไปลงเยี่ยมดูว่าเขายากจนจริงหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นมาจนถึง ณ ปัจจุบัน สถานการณ์กระเตื้องขึ้นมาเกือบ 80% แล้ว ตอนนี้นักท่องเที่ยวเข้า ศุกร์เสาร์อาทิตย์นี่เต็ม โรงแรมหาไม่ได้ แต่แต่ก่อน สักคนนึงไม่มี โรงแรมร้าง คือดูแค่ตรงนี้พอ แต่คนเที่ยวเยอะ กำลังซื้อน้อย เป็นทั้งประเทศ อย่างเราไปเที่ยวเราก็เซฟนะ คนมาเที่ยวคืออยากมาดูหัวหินถิ่นมนต์ขลัง เมืองแห่งความรักความอบอุ่น พอเขามาเขาก็ไม่ค่อยกล้าซื้อมาก หนึ่ง หัวหิน ของแพง ตลาดฉัตรไชยคึกคักแค่ช่วงเช้า ไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน ตลาดโต้รุ่งอยู่ถัดมา แต่ก่อนรายได้ต่อร้านเป็นหมื่นสองหมื่น เดี๋ยวนี้คนเดินเยอะ แต่บางวันได้หลักพัน บางวันได้หลักร้อย เมื่อเช้าแม่ค้าก็มานั่งพูดว่า คนเยอะ แต่ของขายไม่ดีเหมือนเก่า การเงินก็ยังไม่สะพัดเท่าไหร่ แต่คุณภาพของนักท่องเที่ยวที่มาก็ดีกว่า

               ศูนย์เรียนรู้ก็มีของชุมชนพูลสุขกับศูนย์เรียนรู้หัวหินถิ่นมนต์ขลัง มันไม่ได้เสริมสร้างรายได้ แต่เสริมสร้างด้านจิตใจ ถ้าเสริมสร้างรายได้ด้วย ฐานะการเงินก็จะฟูขึ้น มันเยียวยากันคนละอย่าง ทำให้จิตใจดีขึ้น คิดไปถึงอดีตว่าตอนนั้นเป็นอย่างนั้น ความสุขมันก็เกิด แต่เงินในกระเป๋ายังไงเราไม่รู้ จริงๆ คนหัวหินเขาไม่ต้องการอาชีพเสริม เพราะเขาเชื่อว่ารายได้ประจำอื่นเขาดีกว่า ไปรับจ้างตรงโน้นตรงนี้ วันละ 300 บาท 500 บาท เขาได้ดีกว่ามานั่งหลังขดหลังแข็งทำหอยวันนึงได้ 60 บาท 80 บาท ทีนี้ถ้าพูดถึงศูนย์เรียนรู้ วัตถุดิบของหัวหินมีอะไร มีทรายกับหอย วัตถุดิบพัดใบตาลก็ของชะอำเพชรบุรี นอกเสียจากทำอาหารอบแห้ง อาหารทะเล ปลาเค็ม ของชุมชนสมอเรียง มีนักท่องเที่ยวอยากมาทำอาหารทะเลแห้ง มีโรงแรมประสานงานมา เราก็พาพวกป้าๆ ยายๆ ไปสาธิต แสดงโขน รำให้ฝรั่งดู ป้าก็ได้รายได้ เขาก็มีความสุขของเขาด้วย มีจัดประกวดมิสรีไซเคิล คนแก่ๆ ก็มากัน ตอนหลังท่านนายกฯ (นพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน) มีนโยบายฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมขึ้นมา จัดงานเทศกาลสงกรานต์ ลอยกระทง ไฮไลต์ก็เป็นประเพณีพื้นบ้าน กีฬา ดนตรี เป้าหมายคือหัวหินเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ระดับโลก”

รัมภา จำลองราช

ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองหัวหิน

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

THE INSIDER : ณัฐธิยาภรณ์ อ้วนวงศ์ นักวิจัยโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ร้อยเอ็ด และนักวิเคราะห์นโยบายและแผน กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…

1 week ago

WeCitizens : The Concept

ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…

1 week ago

WeCitizens เมืองร้อยเอ็ด : ก้าวสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด

WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…

2 months ago

City View : ๑๐๑ เมืองรองที่ไม่เป็นรองใคร

ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…

2 months ago

๑๐๑ สานพลังผู้คนเพื่อกำหนดทิศทางเมือง

สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…

2 months ago

THE MAYOR : บรรจง โฆษิตจิรนันท์ : นายเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง

"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…

2 months ago