“บ้านผมอยู่อีกฝั่งของสถานีรถไฟ ในชุมชนดั้งเดิมก่อนจะมีการสร้างสถานีรถไฟเมื่อเกือบร้อยปีก่อน แต่เดิมหาดใหญ่จะใช้คลองเป็นเส้นแบ่งเมือง แต่พอมีรถไฟ ทางรถไฟก็กลายเป็นเส้นแบ่งความเจริญ
ในฐานะที่ผมเป็นคนหาดใหญ่และสถาปนิกผังเมือง ต้องบอกว่าหาดใหญ่เติบโตแบบไร้ทิศทางมานาน จริงอยู่ที่ผังเมืองในยุคหลังรถไฟนี่มีประสิทธิภาพมาก แต่พอเมืองเจริญขึ้นตามยุคสมัย มีผู้คนต่างถิ่นมาอาศัยอยู่ร่วมกันมากๆ รูปแบบเมืองเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้วจึงไม่ตอบโจทย์
ขณะเดียวกันนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็พยายามลงทุนกับที่ดินใหม่ที่อยู่ชานเมืองซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า จึงเกิดชุมชนเมืองใหม่กระจายตัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อบวกรวมกับการที่รัฐไม่ได้มีแผนพัฒนามารองรับ เมืองจึงไม่ compact โดยในภาพรวม รัฐก็ต้องเสียค่าสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการขยายตัว และเมื่อย้อนกลับมาในพื้นที่หนาแน่นใจกลางเมือง เราไม่มีแม้แต่รถประจำทางสาธารณะที่เชื่อมชุมชนเมืองต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยสถานะแบบนี้จึงบีบให้คนหาดใหญ่ต้องใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก จนนำมาซึ่งปัญหาการจราจร หาดใหญ่จึงเป็นเมืองที่ดูภายนอกมีความเจริญ แต่กลับขาดไร้โครงสร้างอันแข็งแรงรองรับไว้
ในอีกนัยหนึ่ง โครงการคลองเตยลิงก์จึงเป็นเหมือนการกลับมาทบทวนการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ในใจกลางเมืองหาดใหญ่ใหม่ ผ่านการพัฒนาให้เป็นเมืองเดินได้ (Walkable City) ขนส่งสาธารณะ และสวนสาธารณะ รวมถึงการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของผู้คนและสถานที่ และการเผยแพร่ประวัติศาสตร์เมือง ผ่านโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ ซึ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เมืองสักเมืองมีความน่าอยู่อาศัย เป็นมิตรกับทั้งผู้คนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว
ที่ผมสนใจพิเศษคือการเปลี่ยนสถานะของคลองเตย ซึ่งเป็นลำคลองระยะทาง 11 กิโลเมตรตัดผ่านกลางเมืองหาดใหญ่ คลองสายนี้ถูกละเลยจากผู้คนมาตลอด เพราะหน้าที่ของมันคือการระบายน้ำเสีย คนหาดใหญ่หลายคนจึงจำมันในฐานะคลองน้ำเน่า ขณะที่คนในพื้นที่เองก็มองว่ามันเป็นคลองหลังบ้าน การเปลี่ยนจากคลองหลังบ้านที่ถูกละเลย ให้กลายเป็นคลองหน้าบ้านที่ผู้คนในชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ได้ในเชิงสันทนาการ และคนจากที่อื่นก็มาใช้ได้ในฐานะทางสัญจร สิ่งนี้มันจึงไม่ใช่แค่การให้กรมโยธาธิการและผังเมืองมาปรับปรุงภูมิทัศน์มัน แต่เราต้องใช้ความร่วมมือจากภาคประชาชนมาร่วมพลิกฟื้นมันด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
อันที่จริงโครงการคลองเตยลิงก์นี่ถูกคิดมาก่อน กทม. จะปรับปรุงคลองโอ่งอ่างอีกนะครับ แถมสภาพเดิมของคลองโอ่งอ่างก็ดูจะหนักหนากว่าคลองเตยของเราอีก คลองโอ่งอ่างเปลี่ยนแปลงได้ ผมก็คิดว่าคนหาดใหญ่ก็เปลี่ยนคลองเตยได้ จากสิ่งที่คนมองว่าเป็น waste เมื่อคลองกลับมามีชีวิต มันยังช่วยเสริมชีวิตชีวา และคุณภาพชีวิตให้คนในย่าน และจะกลายเป็นต้นแบบในการพลิกฟื้นเมืองหาดใหญ่ต่อไปในอนาคต”
สุภกร อักษรสว่าง
สถาปนิกและนักวิจัยโครงการคลองเตยลิงก์
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…