“จากที่คิดว่าเราไม่มีอะไรผูกพันกับกาฬสินธุ์ แต่พอได้ย้ายมาทำงานที่นี่ ผ่านมา 25 ปีแล้ว ครูก็แทบไม่มีความคิดจะย้ายไปสอนที่ไหนอีกเลย”

ครูเป็นคนอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ค่ะ อำเภอห้วยเม็กอยู่ด้านตะวันตก ชายขอบสุดของจังหวัด ติดกับอำเภอชื่นชมของจังหวัดมหาสารคาม

ความที่สมัยก่อน รถสาธารณะยังไม่ได้ครอบคลุมเส้นทางเหมือนทุกวันนี้ ครูเลยเลือกเรียนมัธยมที่โรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม ในอำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเดินทางจากบ้านเราไปสะดวกกว่าในตัวอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนจะไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย จึงกลายเป็นว่า แม้เราเกิดที่กาฬสินธุ์ แต่ก็ไม่ได้มีความทรงจำหรือประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับเมืองนี้สักเท่าไหร่

อย่างไรก็ตาม หลังเรียนจบ ครูก็ดันสอบบรรจุได้ที่โรงเรียนเทศบาล 2 วัดสว่างคงคา อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ในปี 2541 ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้มีความคิดอะไรกับเมืองเมืองนี้นัก รู้แค่ว่ามันเงียบสงบ ไม่ค่อยเจริญ และไม่น่ามีอะไรดึงดูดเท่าไหร่ แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่ ผ่านมา 25 ปีแล้ว ครูก็แทบไม่มีความคิดจะย้ายไปสอนที่ไหน

อะไรทำให้เป็นแบบนั้น? ก่อนอื่นเลย ครูสอนวิชาภาษาไทยเป็นหลัก และด้วยธรรมชาติของครูภาษาไทย ทำให้ได้มีโอกาสศึกษาภูมิประวัติศาสตร์ของเมือง คติชนวิทยา รวมถึงศิลปะและวรรณกรรมท้องถิ่น เลยได้รู้ว่ากาฬสินธุ์มี ผญาอีสาน คำสอย (วรรณกรรมมุขปาฐะ) หมอลำ ไปจนถึงวัฒนธรรมภูไท ที่ล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในอีสาน ครูสนใจสิ่งเหล่านี้ และพบว่าศาสตร์เหล่านี้กำลังเลือนหายไปจากยุคสมัย ในฐานะครูภาษาไทย ก็เลยอยากมีส่วนอนุรักษ์ไว้ให้เด็กๆ ได้เข้าใจถึงคุณค่า

กับอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือกาฬสินธุ์เป็นเมืองที่ผู้คนน่ารัก ไม่ค่อยมีบรรยากาศของการแข่งขัน และค่าครองชีพก็ไม่สูงมาก ครูอยู่ที่นี่แล้วสบายใจ ก็สร้างครอบครัวอยู่ยาวที่นี่เลย

ส่วนบทบาทของการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมกาฬสินธุ์ของครู นอกจากคอยสอนและอธิบายให้เห็นถึงคุณค่าและความหมายของสิ่งเหล่านี้ ให้เด็กๆ ได้ซึมซับและเข้าใจ ก็พยายามจะร่วมมือกับโครงการต่างๆ จากหน่วยงานภายนอกที่มีความตั้งใจอยากฟื้นใจเมือง เช่นที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์เคยพยายามจัดตั้งกลุ่มมัคคุเทศก์น้อย เพื่อให้พวกเขานำชมนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ ครูก็ส่งเด็กๆ เข้าไปร่วมกิจกรรม โดยช่วงปี 2545-2550 โครงการนี้เฟื่องฟูมาก แต่เสียดาย ด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง โครงการจึงไม่ถูกต่อยอด

หรือล่าสุดที่ทางเทศบาลปรับปรุงชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ ให้กลายเป็นหอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งจัดแสดงทั้งผลงานศิลปะร่วมสมัย และภาพสามมิติที่บอกเล่าถึงทรัพยากรทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในแต่ละอำเภอของจังหวัด แม้พื้นที่นี้จะไม่เกี่ยวกับวิชาที่ครูสอนโดยตรง แต่ครูก็จะชักชวนให้เด็กๆ ได้เข้าไปดู ไปศึกษาเรียนรู้พื้นที่นี้เสมอ เพราะหอศิลป์แห่งนี้มันอยู่ใกล้ๆ เอง เด็กๆ ได้คลุกคลีกับศิลปะบ่อยๆ เข้า มันก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาเอง

ในขณะที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์หวังให้หอศิลป์ที่เปิดใหม่แห่งนี้ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแวะชมทุกครั้ง ก่อนออกเดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑ์สิรินธร เขื่อนลำปาว หรือสะพานเทพสุดาที่อยู่นอกเมือง ครูก็อยากให้เด็กๆ ได้ใช้หอศิลป์ในฐานะจุดนัดพบ หรือพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมการเรียนรู้ตามความสนใจของแต่ละคนด้วย”  

พัชรินทร์ พิมพะจันทร์
รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 กาฬสินธุ์พิทยาสิทธิ์

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

อ่านเสียงแก่งคอย เสียงของเมืองที่ก้าวข้ามบาดแผลประวัติศาสตร์มาสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

WeCitizens ชวนผู้อ่านเรียนรู้เมืองแก่งคอย เมืองประวัติศาสตร์ที่มีบาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในวันนี้ แก่งคอยเปลี่ยนบาดแผลแห่งประวัติศาสตร์เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอ่านความคิด วิถีชีวิตผู้คนแก่งคอยได้ที่ WeCitizens : เสียงแก่งคอย, สระบุรี - WeCitizens Flip PDF…

1 year ago

ฟังเสียงนครสวรรค์ เมืองศูนย์กลางแห่งภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน

WeCitizens ชวนผู้อ่านเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ เมืองที่อยู่กึ่งกลางระหว่างภาคเหนือและภาคกลาง เมืองที่เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางทางน้ำในอดีต นครสวรรค์จึงเป็นเมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในฐานะของเมืองที่เป็นศูนย์กลาง (Hub) ทั้งด้านการค้า การคมนาคม และนำมาซึ่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะชาวจีนโพ้นทะเล E-book ฉบับเสียงนครสวรรค์ฉบับนี้ จะพาผู้อ่านทุกคนไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวนครสวรรค์ วัฒนธรรมชาวจีนและเทศกาลตรุษจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศและนานาชาติ และไปฟังเสียงผู้คนชาวนครสวรรค์ที่มองบ้านเมืองของตนเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน…

1 year ago

แก่งคอย…ย้อนรอยสงครามโลกเปลี่ยนบาดแผลประวัติศาสตร์สู่เมืองเรียนรู้ตลอดชีวิต

นอกจากจะถูกจดจำจากเพลงดังที่มีชื่อเดียวกับชื่ออำเภอของ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพลงฮิตของคาราบาว ซึ่งสื่อถึงที่มาของชื่อ ‘แก่งคอย’ อย่าง ‘แร้งคอย’ หากไม่ใช่คนในพื้นที่ อาจนึกภาพไม่ออกว่าอำเภอของจังหวัดสระบุรีที่เป็นปากทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และประตูสู่ภาคอีสาน มีความสำคัญอย่างไร? ไม่เพียงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการขนส่งสินค้าผ่านแม่น้ำป่าสักและทางรถไฟ อำเภอแก่งคอย ยังเป็นจุดเริ่มต้น (ต่อจากอำเภอเมืองสระบุรี)…

1 year ago

ขอนแก่นโมเดล
The Legacy of City Development

เพราะเมือง คือ ผู้คน และผู้คน คือ ตัวแปรสำคัญที่สุดในการพัฒนาเมือง ความเจริญงอกงามทางวัฒนธรรมหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาตรฐานคุณภาพชีวิต จึงขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความสามารถ และความร่วมมือร่วมใจของคนในเมืองเป็นฐานสำคัญ กว่าทศวรรษที่ ‘ขอนแก่นโมเดล’ เป็นโมเดลการพัฒนาเมืองที่ได้รับการยอมรับ และพูดถึงในฐานะแนวคิดและปฏิบัติการการพัฒนาเมืองที่ก้าวหน้ามากที่สุด…

1 year ago

“ขอนแก่นเราไม่ใช่เป็นเมืองที่นั่งรอคนเข้ามาทำนู่นนี่ให้”

เมืองขอนแก่น ผู้คน กับการเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป           ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ อยู่ไกลโพ้นจากชายทะเล แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อ หรือทรัพยากรธรรมชาติสำคัญก็น้อยนิด แต่มีคนที่เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเมืองกลุ่มใหญ่ที่กล้าคิดกล้าฝัน พยายามทำทุกลู่ให้ความหวังเป็นจริงได้ นี่คือปัจจัยที่ทำให้ช่วงเวลาเพียงกึงศตวรรษนำพาเมืองขอนแก่น เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด  ‘ผู้คน และความร่วมมือ…

1 year ago

“สำนึกรักท้องถิ่น ถือเป็นหัวใจสำคัญของจิตสำนึกของคนขอนแก่น”

“เมื่อพูดถึงเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบของเทศบาลนครขอนแก่น เราดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ที่ว่า ‘พัฒนาเมืองสู่สากล สร้างสังคมแห่งความสุข’ การที่เมืองจะพัฒนาได้และสร้างสังคมที่เป็นสุข ต้องเริ่มที่ ‘คน’ คนที่เป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาเมือง ยกตัวอย่างในกรณีที่เปรียบเทียบง่าย ๆ เช่น ถ้าเราจะพัฒนาขอนแก่นเป็นเมือง…

1 year ago