ช่วงปี 2560 ผมมีอาการเส้นเลือดในสมองแตก ร่างกายครึ่งซีกขยับไม่ได้ ลูกชายใช้เจ้าจูมงที่เป็นม้าที่คุ้นเคยกับผมมากที่สุดมาเป็นหมอทำอาชาบำบัด

“ตอนหนุ่มๆ ผมเป็นช่างกลึงในอู่ซ่อมรถ แต่มีความฝันมาตลอดว่าอยากขับรถม้า พอเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งเลยซื้อม้ามาเลี้ยงก่อน จำได้ว่าซื้อมาตัวละ 900 บาท สมัยสัก 50 ปีก่อน ลำปางยังมีรถไม่เยอะ เลยมีคนเอาม้ามาขี่เล่นกลางถนน ผมก็เอามาขี่เล่นด้วย ทำความคุ้นเคยกับมันไป จากนั้นก็ไปเรียนวิธีการขับรถม้าจากคนที่ขับมาก่อน จนลูกชายขึ้น ม.1 ผมจึงตัดสินใจลาออก แล้วหันมาขับรถม้าเต็มตัว

สมัยนั้นรถม้าในลำปางเป็นที่นิยมมาก มีคนขับในเมือง 300 กว่าคัน ช่วงที่ผมหัดขี่ม้าใหม่ๆ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เปิดเมืองโบราณที่สมุทรปราการในปี 2515 เธอก็มากว้านซื้อรถม้าไปที่นั่น 200 กว่าคัน ไปทั้งรถ ทั้งม้า และสารถี พอรถม้าหายไปเยอะ ก็เลยเป็นโอกาสให้คนขับรถม้ารุ่นใหม่ๆ มาแทนที่ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น วันๆ นึงผมวิ่งได้ 4 รอบ รอบใหญ่จะได้เงิน 30 บาท เฉลี่ยได้ประมาณ 120-150 บาท ซึ่งดีเลยนะตอนนั้น ก็ขับรถม้าเลี้ยงครอบครัวและส่งลูกเรียนหนังสือได้

พอขับนานๆ ไป ผมก็เลยคุ้นเคยกับนิสัยของม้า เหมือนเป็นไปเองแล้ว ผมมักใช้เวลาไม่นานในการทำความเข้าใจบุคลิกของม้าแต่ละตัว นั่นทำให้ผมได้งานรับฝึกม้าก็เริ่มฝึกให้คนในลำปางก่อน จากนั้นมีเศรษฐีคนหนึ่งอยู่มาเลเซียเขาซื้อม้าพันธุ์ดีมาตัวหนึ่ง แต่มันพยศมาก เขาพยายามจะเอารถไปเทียม มันถีบพังหมด เขาก็จ้างผมไปอยู่ที่มาเลเซีย ผมก็ค่อยๆ ฝึกไป ใช้เวลาเดือนเศษๆ ก็เข้าที่

ม้าจะมีอายุเฉลี่ย 25-30 ปี เราจะเริ่มฝึกขี่ม้าตอนเขาอายุ 2 ปี จากนั้นพออายุราว 2 ปีครึ่งก็ค่อยฝึกกับรถม้า ถ้าเทียบกับอายุคนก็คูน 4 เข้าไป จะเท่ากับเด็กอายุ 8 ขวบ ถ้าฝึกให้มาขับรถม้า ก็จะพาเขาไปขี่ในเส้นทางในเมือง ให้เขาจดจำเส้นทาง และดูว่าม้าแต่ละตัวมีบุคลิกยังไง บางตัวไม่ยอมเข้าทางแคบ บางตัวก็กลัวเสียงพลุ หรือบางตัวไม่วิ่งกลางคืนเลย เพราะตกใจที่มีแสงลอดใต้เท้าทำให้เขาเห็นเงาตัวเอง ปกติจะใช้เวลาฝึกอย่างน้อยหนึ่งปี แต่ผมจะรับฝึกอยู่ที่ประมาณหนึ่งเดือน จากนั้นก็ให้เจ้าของมาทดลองขับต่อ ก็เหมือนขับรถล่ะครับ คุณมาเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถประมาณหนึ่งเดือนเพื่อเรียนรู้ทักษะเบื้องต้น หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะขับรถคันนี้ยังไง 

  

ผมขับรถม้ามาสามสิบกว่าปีแล้ว ผ่านม้ามาเกือบ 100 ตัว เจออุบัติเหตุมาแทบทุกรูปแบบ เคยเจอกระทั่งคนเมาขับรถมาชนม้าเราตาย ซึ่งผมเสียใจมากๆ ผมเคยเลี้ยงพร้อมกันมากสุดประมาณ 10 ตัว แต่ตอนนี้มีอยู่ 4 ตัว ชื่อจูมง รัษฎา สงกรานต์ และใหม่ ช่วงปี 2560 จู่ๆ ผมก็มีอาการเส้นเลือดในสมองแตก ร่างกายครึ่งซีกขยับไม่ได้ บั้ม (สุพจน์ ใจรวมกูล) ลูกชายต้องออกจากงานมาช่วยดูแล และมาขับรถม้าแทน ก็ได้เขานี่แหละที่พาผมไปหาหมอ และใช้เจ้าจูมงที่เป็นม้าที่คุ้นเคยกับผมมากที่สุดมาเป็นหมอทำอาชาบำบัด เขารู้ว่าผมรักม้า เลยคิดว่าการรักษาด้วยวิธีการนี้น่าจะได้ผล ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ ร่างกายผมค่อยๆ ฟื้นฟูจนกลับมาขับรถม้าได้อีกครั้ง บั้มเสียสละมากทีเดียว ซึ่งทุกวันนี้เขาก็กลายเป็นกำลังหลักของครอบครัว ขับรถม้า และทำกิจกรรมนั่นนี่เกี่ยวกับม้าเพื่อหาเงินเข้าบ้าน

ทำไมผมจึงรักม้าหรอครับ ไม่รู้เหมือนกัน อาจเพราะเป็นคนลำปางและเห็นม้ามาตั้งแต่เด็กเลยผูกพัน อย่างวันไหนว่างๆ ไม่ได้ขับรถม้า ผมก็จะนั่งเล่นบนรถม้า หรือตอนที่ป่วยหนักๆ ผมก็ขอให้บั้มพาผมไปให้อาหารพวกมัน ตัวเองก็ป่วยนะ แต่อดห่วงไม่ได้ ม้าคือชีวิตของผม ไม่มีม้า ผมก็อาจไม่มีอาชีพ ไม่มีครอบครัวที่ดีอย่างวันนี้”

ประจักษ์ ใจรวมกูล
คนขับรถม้าอาวุโสชาวลำปาง

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

อ่านเสียงแก่งคอย เสียงของเมืองที่ก้าวข้ามบาดแผลประวัติศาสตร์มาสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

WeCitizens ชวนผู้อ่านเรียนรู้เมืองแก่งคอย เมืองประวัติศาสตร์ที่มีบาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในวันนี้ แก่งคอยเปลี่ยนบาดแผลแห่งประวัติศาสตร์เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอ่านความคิด วิถีชีวิตผู้คนแก่งคอยได้ที่ WeCitizens : เสียงแก่งคอย, สระบุรี - WeCitizens Flip PDF…

1 year ago

ฟังเสียงนครสวรรค์ เมืองศูนย์กลางแห่งภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน

WeCitizens ชวนผู้อ่านเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ เมืองที่อยู่กึ่งกลางระหว่างภาคเหนือและภาคกลาง เมืองที่เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางทางน้ำในอดีต นครสวรรค์จึงเป็นเมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในฐานะของเมืองที่เป็นศูนย์กลาง (Hub) ทั้งด้านการค้า การคมนาคม และนำมาซึ่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะชาวจีนโพ้นทะเล E-book ฉบับเสียงนครสวรรค์ฉบับนี้ จะพาผู้อ่านทุกคนไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวนครสวรรค์ วัฒนธรรมชาวจีนและเทศกาลตรุษจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศและนานาชาติ และไปฟังเสียงผู้คนชาวนครสวรรค์ที่มองบ้านเมืองของตนเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน…

1 year ago

แก่งคอย…ย้อนรอยสงครามโลกเปลี่ยนบาดแผลประวัติศาสตร์สู่เมืองเรียนรู้ตลอดชีวิต

นอกจากจะถูกจดจำจากเพลงดังที่มีชื่อเดียวกับชื่ออำเภอของ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพลงฮิตของคาราบาว ซึ่งสื่อถึงที่มาของชื่อ ‘แก่งคอย’ อย่าง ‘แร้งคอย’ หากไม่ใช่คนในพื้นที่ อาจนึกภาพไม่ออกว่าอำเภอของจังหวัดสระบุรีที่เป็นปากทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และประตูสู่ภาคอีสาน มีความสำคัญอย่างไร? ไม่เพียงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการขนส่งสินค้าผ่านแม่น้ำป่าสักและทางรถไฟ อำเภอแก่งคอย ยังเป็นจุดเริ่มต้น (ต่อจากอำเภอเมืองสระบุรี)…

1 year ago

ขอนแก่นโมเดล
The Legacy of City Development

เพราะเมือง คือ ผู้คน และผู้คน คือ ตัวแปรสำคัญที่สุดในการพัฒนาเมือง ความเจริญงอกงามทางวัฒนธรรมหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาตรฐานคุณภาพชีวิต จึงขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความสามารถ และความร่วมมือร่วมใจของคนในเมืองเป็นฐานสำคัญ กว่าทศวรรษที่ ‘ขอนแก่นโมเดล’ เป็นโมเดลการพัฒนาเมืองที่ได้รับการยอมรับ และพูดถึงในฐานะแนวคิดและปฏิบัติการการพัฒนาเมืองที่ก้าวหน้ามากที่สุด…

1 year ago

“ขอนแก่นเราไม่ใช่เป็นเมืองที่นั่งรอคนเข้ามาทำนู่นนี่ให้”

เมืองขอนแก่น ผู้คน กับการเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป           ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ อยู่ไกลโพ้นจากชายทะเล แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อ หรือทรัพยากรธรรมชาติสำคัญก็น้อยนิด แต่มีคนที่เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเมืองกลุ่มใหญ่ที่กล้าคิดกล้าฝัน พยายามทำทุกลู่ให้ความหวังเป็นจริงได้ นี่คือปัจจัยที่ทำให้ช่วงเวลาเพียงกึงศตวรรษนำพาเมืองขอนแก่น เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด  ‘ผู้คน และความร่วมมือ…

1 year ago

“สำนึกรักท้องถิ่น ถือเป็นหัวใจสำคัญของจิตสำนึกของคนขอนแก่น”

“เมื่อพูดถึงเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบของเทศบาลนครขอนแก่น เราดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ที่ว่า ‘พัฒนาเมืองสู่สากล สร้างสังคมแห่งความสุข’ การที่เมืองจะพัฒนาได้และสร้างสังคมที่เป็นสุข ต้องเริ่มที่ ‘คน’ คนที่เป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาเมือง ยกตัวอย่างในกรณีที่เปรียบเทียบง่าย ๆ เช่น ถ้าเราจะพัฒนาขอนแก่นเป็นเมือง…

1 year ago