“สมัยก่อนถ้าเป็นคนที่อื่นมาอยู่สระบุรี จะภาคเหนือหรืออีสาน เขาก็จะเรียกว่าคนลาวหมดครับ พอเมืองสระบุรีเริ่มเติบโตเพราะมีโรงงานอุตสาหกรรมมาตั้ง คนจากที่อื่นก็ย้ายมาทำงานที่นี่กันเยอะ
อย่างตลาดที่ผมขายของอยู่ทุกวันนี้ในเทศบาลเมืองแก่งคอย ก็เป็นตลาดที่ขยายมาจากตลาดเทศบาลฝั่งตรงข้าม ก็มีพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่มาตั้งแผงขายบนถนน จนเทศบาลเขาก็ผ่อนผันให้เป็นตลาดชั่วคราว โดยให้ขายแค่ช่วงเย็น ความที่คนต่างถิ่นมาขายตรงนี้เยอะ เลยเรียกต่อๆ กันว่าตลาดลาวมาจนถึงวันนี้
ก่อนหน้านี้ ผมทำงานบริษัทบริษัทผลิตสุขภัณฑ์ของแบรนด์ต่างประเทศที่มาเปิดโรงงานในแก่งคอย ผมเจอแฟนที่บริษัท แม่ของแฟนขายขนมไทยอยู่ตลาดลาวนี่ ขายมา 50 ปีแล้ว มีขนมชั้น ขนมหม้อแกง ขนมวุ้น และข้าวเหนียวมะม่วงตามฤดูกาล รวมถึงกระยาสารท แล้วแฟนก็ลาออกมาช่วยขาย รวมถึงทำกับข้าวใส่ถุงมาขายข้างๆ ร้านของแม่ ขายมา 20-30 ปีแล้ว
พอผมเออร์ลี่รีไทร์จากบริษัท ก็มาช่วยแฟนขายกับข้าว บางวันก็เอากับข้าวและขนมจากแม่ยายบางส่วนไปขายที่ตลาดโต้รุ่งด้วย เพราะต้องยอมรับว่าช่วงหลังๆ มันมีตลาดเกิดขึ้นเยอะ คอยดักคนที่ทำงานโรงงานรอบๆ แถมหาที่จอดรถง่ายกว่า เขาก็เข้ามาซื้อในตัวเมืองแก่งคอยน้อยลง เราก็เลยเอาของที่เราทำไปหาลูกค้าบ้าง ส่วนในตัวเมืองนี้ก็มีกำลังซื้อจากคนที่อยู่ในเขตเทศบาลอยู่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาไหว้พระวัดแก่งคอย โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์นี้ รถติดยาวบนถนนหน้าวัด ตลาดเราที่ขายตั้งแต่บ่ายสามโมงลงมาก็ได้อานิสงส์ไปด้วย
ควบคู่ไปกับการช่วยแฟนขายกับข้าว ผมก็ทำงานสังคมโดยเป็นประธานชุมชนสันติสุข ชุมชนที่ตลาดแห่งนี้และวัดแก่งคอยตั้งอยู่ด้วย และความที่ทำงานตำแหน่งนี้ เลยได้ร่วมกับทาง บริษัท สระบุรีพัฒนาเมือง จำกัด ทำโครงการวิจัยบ้าง รวมถึงโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้นี้ด้วย
ก็ไปร่วมอบรม ไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทุกคนมีโจทย์เดียวกันคือต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำยังไงให้ย่านการค้าเก่าแก่ในเขตเทศบาลมันฟื้น รวมถึงหาวิธีดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ที่เป็นลูกหลานคนแก่งคอยกลับมาทำงานที่บ้าน เพื่อทำให้เมืองมีชีวิตชีวา
ก็มองกันหลายวิธี แต่ส่วนตัวผมนะ ผมว่าถ้าเราทำแก่งคอยให้ดึงดูดการท่องเที่ยวได้ ก็น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เยอะ เพราะเรามีถนนมิตรภาพตัดผ่าน ใครจะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเขาใหญ่ หรือไปภาคอีสานต้องผ่านเราหมด จะทำยังไงไม่ให้เขาผ่านไปเฉยๆ แวะเข้ามาไหว้พระ มาเดินตลาด หรือมาเดินถนนคนเดินบ้างอะไรแบบนี้
ซึ่งก็มีแนวโน้มที่ดีนะครับ เพราะวัดแก่งคอยเขาก็พยายามสร้างจุดดึงดูดตลอด มีถ้ำพระยานาค มีพระธาตุอินทร์แขวนจำลอง มีเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อลาเป็นจุดขาย คนก็เริ่มมาเยอะ แต่ก็คิดกันว่าน่าจะมีแม่เหล็กเพิ่มขึ้น หรือกิจกรรมสักอย่างที่ทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจแวะพักสักหนึ่งคืน คือแก่งคอยก็มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติไม่น้อยนะครับ เป็นจุดปีนเขาและกีฬากลางแจ้งที่ได้รับความนิยม เพียงแต่มันยังเฉพาะทางอยู่ ถ้ามีอะไรเพิ่มกว่านี้ก็คงดี
ถามว่าแก่งคอยมีอะไรที่นักท่องเที่ยวอาจจะยังไม่รู้อีก จริงๆ แล้ว เมืองเรานี่อาหารอร่อยเยอะนะครับ สามารถทำเส้นทางตระเวนกินยังได้ มีร้านโรงสีกาแฟที่เขาทำคาเฟ่ในโรงสีเก่า ร้านราดหน้า ร้านข้าวมันไก่นี่ก็ดัง ส่วนตลาดโต้รุ่งที่ขายตอนเย็น ก็มีร้านอร่อยๆ เยอะ
ส่วนตลาดลาวนี้ก็ด้วยครับ ร้านแม่ยายผมเอง ‘ขนมหวานแม่อนงค์’ ใครมาก็ต้องแวะซื้อขนมกลับไป ไม่ได้แนะนำเพราะเป็นร้านแม่ยายหรอกนะครับ ร้านนี้เขาขึ้นชื่อจริงๆ (หัวเราะ)”
จิระวัฒน์ ตั้งใจ
ประธานชุมชนสันติสุข เทศบาลเมืองแก่งคอย
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…