“ผมมีบ้านอยู่ที่นี่ครับ แต่ไปทำงานที่อื่น ไม่ได้อยู่ขอนแก่นมา 17 ปีแล้ว คือ พึ่งกลับมาได้ไม่นาน พอมาถึงก็รู้สึกแปลกใจพอสมควร เพราะขอนแก่นเปลี่ยนไปเยอะมาก พัฒนาขึ้นมีอะไร ๆ ที่เหมือนเมืองใหญ่ ๆ มี ผมจึงมาเริ่มทำร้านกาแฟ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่า คนจะกินกันเยอะไหมนะ คนจะอินรึเปล่า แบบที่เราเห็นเทรนด์ในเมืองอื่น ๆ ไปมา ๆ ช่วงที่ 5 ปีที่ผ่านมาร้านกาแฟกลายเป็นแฟชั่นของคนเมืองขอนแก่น คนพากันมาถ่ายรูปซะส่วนใหญ่ มาดื่มกาแฟจริงจังก็พอมี ไม่เยอะ แต่ดูแนวโน้มแล้วดีขึ้นครับ เหมือนคนเริ่มเข้าใจ ซึ่งก็ตรงกับที่เราคิดไว้ตอนเปิดร้านว่ากลุ่มลูกค้าของเรา คือ คนที่ชอบกาแฟ รักการดื่มกาแฟ และจริงจังกับมัน
ร้านของเราเปิดแต่เช้าครับ 7 โมงครึ่ง คือ เปิดแต่ไม่ค่อยมีลูกค้า เราก็หวังว่าคนมาวิ่งที่บึงน่าจะแวะมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มาก เมื่อก่อนเคยเปิด 9 โมง ตอนนี้เปลี่ยนมาเปิดเช้าขึ้นเพราะต้องเลี้ยงลูก เลยปรับเวลาเป็นเปิดแต่เช้าตรู่แล้วปิดร้านเร็วหน่อยจะได้มีเวลาดูแลเขา
ถ้าให้พูดถึงขอนแก่น ผมคงมองไม่ได้ลึกซึ้งเท่าคนในตลาด หรือคนที่เขาอยู่ในเมืองมานาน ๆ แบบไม่ย้ายไปไหน อย่างที่บอกว่าผมแปลกใจที่เมืองพัฒนาไปมาก มากแบบมีทุกอย่าง มีห้าง มีโรงแรม ย่านธุรกิจ แต่สิ่งที่ขาดและจำเป็นมาก ๆ คือ ขนส่งสาธารณะ แบบวิ่งวนรอบเมืองและเชื่อมไปอำเภอรอบนอก จริงอยู่ว่าเดี๋ยวนี้ในเมืองมี Grab แต่มันก็ไม่ใช่ของพื้นฐานอย่างรถประจำทาง ยิ่งพอจะออกจากเมืองเชื่อมไปอำเภอรอบ ๆ ก็เริ่มลำบากละ การอยู่ขอนแก่นจึงต้องมีรถ ส่วนข้อดีของการพัฒนาอย่างเรื่องสวนสาธารณะขอนแก่นมีสวนและบึงอยู่กระจายรอบเมือง เป็นที่โล่ง มีต้นไม้ เป็นสวนที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต ตอบโจทย์การกระจายตัวของเมือง และบริการคนที่อยู่รอบ ๆ ได้ดีทีเดียว ใกล้ที่ไหนไปที่นั้น
ส่วนเรื่องรถรางเบา ผมมองว่าถ้าทำได้จริง ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ ผมยังไม่ได้ตามอ่านข้อมูลมากนัก เลยไม่รู้ว่าตกลงตอนนี้โครงการเขาเดินหน้าไปถึงไหนกันแล้ว แต่มองว่ามันน่าจะตอบโจทย์เรื่องการขนส่งภายในเมืองขอนแก่นได้แน่ ๆ ถ้ามีขึ้นจริง ๆ อาจจะมีช่วงแรก ๆ ที่น่าจะมีปัญหาเรื่องการจราจรนิดหนึ่ง เพราะคนน่าจะยังไม่ชิน ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องประชาสัมพันธ์เยอะขึ้น เพราะอย่างตอนนี้ พูดตรง ๆ นะครับ ผมก็ยังแทบจะไม่ค่อย หรือได้รับรู้เรื่องข่าวผ่านการประชาสัมพันธ์แบบจริงจัง ได้ยินข่าวคนเขาคุยกันมาเฉย ๆ ยังไม่เห็นรูปร่าง ไม่รู้ว่าจะเริ่มสร้างสถานีตรงไหน หรือใช้ถนนเส้นไหนในการเดินรถ แต่ถ้าถามว่ารอคอยไหม ก็อยากให้มีคนทำ อยากให้เมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น”
พิณยพงศ์ ชลหาญ
เจ้าของร้านกาแฟ prodigy
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…