“โรงเรียนหลายแห่งในบ้านเราอาจมีพิพิธภัณฑ์ แต่มีโรงเรียนไม่กี่แห่งที่ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีชมรมโบราณคดีที่มีเด็กนักเรียนคอยช่วยดูแลพร้อมกับนำชมพิพิธภัณฑ์ และทำกิจกรรมด้านโบราณคดีในจังหวัด อย่างโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี
ชมรมนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 36 ปีก่อน โดยอาจารย์ธำรง เตียงทอง มีชื่อเดิมว่าชมรมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ท่านมองเห็นว่าราชบุรีเป็นเมืองที่มีพื้นที่สำคัญทั้งในยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคประวัติศาสตร์ จึงอยากปลูกฝังให้นักเรียนได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมือง แล้วอาจารย์ท่านก็เริ่มสะสมวัตถุโบราณต่างๆ พร้อมกับมีชาวบ้าน และหน่วยงานต่างๆ นำมาบริจาคด้วย พออาจารย์ท่านเกษียณ ท่านก็เปิดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ (เบญจมราชูทิศพิพิธภัณฑ์)
จริงๆ ครูกิ๊ฟ (ผู้พูด) เป็นครูภาษาอังกฤษค่ะ แต่ความที่เด็กๆ ในชมรมเขาต้องทำสคริปต์นำชมพิพิธภัณฑ์เป็นภาษาอังกฤษ พวกเขาก็มาให้ครูช่วยเช็คความถูกต้องให้ ครูก็ช่วยเขาเรื่อยๆ จนผูกพัน ซึ่งพอดีกับครูที่เป็นหัวหน้าที่ปรึกษาชมรมคนเก่าเขาลาออกไป ครูก็เลยกลายมาเป็นแทน ตอนนี้มีครูที่เป็นทีมงานทั้งหมด 7 ท่าน และมีนักเรียนที่เป็นสมาชิกชมรมประมาณ 140 คน
สมาชิกชมรมทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย เราเป็นชมรมที่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียน และความที่มีเด็กๆ อยากเข้าชมรมมาก จึงต้องมีการสอบเข้า ทั้งการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ ปีๆ หนึ่งเราจะรับนักเรียนได้แค่ประมาณ 40 คน พอเข้ามาเราก็มีเสื้อช็อปเป็นเครื่องแบบ จะมีการเข้าค่ายโบราณคดีทุกปี ไปกางเต็นท์ และทำกิจกรรมด้านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในพื้นที่จริงของราชบุรี ถ้าคนไหนผ่านค่ายแล้วก็จะมีอาร์มประดับเสื้อ สะสมทุกครั้ง คล้ายๆ ลูกเสือ ซึ่งศิษย์เก่าที่จบไปแล้วก็มีสิทธิ์เข้าร่วมค่ายกับเราด้วย การออกค่ายครั้งหนึ่งนี่มีสมาชิกที่เรียนอยู่ครึ่งหนึ่ง และศิษย์เก่าอีกครึ่งหนึ่ง จัดทีครั้งหนึ่งนี่มีคนร่วมประมาณ 300 คนเลยนะคะ คึกคักมากๆ
ส่วนค่าใช้จ่ายในชมรมเราไม่ได้เบิกจากโรงเรียนเลยค่ะ ส่วนหนึ่งเป็นการเก็บออมของนักเรียน ทำกิจกรรมเล่นดนตรีเปิดหมวก หรือเปิดบูทขายของในเทศกาลต่างๆ ของเมือง คือนอกจากชมรมเราจะทำให้เด็กๆ มีความรู้เรื่องโบราณคดีพื้นฐาน สามารถทำทะเบียนจัดเก็บวัตถุโบราณ และนำชมพิพิธภัณฑ์ของโรงเรียนได้ เด็กๆ ทุกคนก็จะมีความรับผิดชอบในการเก็บออม และสามารถทำกิจกรรมเชิงสังคมพร้อมกันด้วย
นอกจากนี้ ความที่พิพิธภัณฑ์ของเราอยู่ในเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภาคกลางของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน) เด็กๆ จึงได้มีโอกาสไปดูงานพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นแห่งอื่นๆ รวมถึงไปร่วมงานเทศกาลพิพิธภัณฑ์ ขณะเดียวกัน ก็ได้พี่ๆ นักศึกษาโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยศิลปากร มาอบรมเรื่องการทำงานกับโบราณวัตถุให้เรา
เนื่องจากชมรมเราก่อตั้งมาเพราะมองเห็นว่าราชบุรีเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้อยู่แล้ว พอคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยศิลปากรทำโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ เราก็เลยยินดีที่จะร่วมโครงการด้วยอย่างมาก เช่น เขาลงพื้นที่สำรวจเมือง เราก็ส่งเด็กๆ ร่วมด้วยทุกครั้ง มีการจัดเวิร์คช็อป ประกวดออกแบบผังเมือง หรือประกวดออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยว เราก็ไปร่วมด้วย ซึ่งเด็กๆ ของเรายังได้รางวัลชนะเลิศมาด้วย ครูกิ๊ฟก็ดีใจ เพราะไม่ใช่ว่าเราได้รับรางวัล แต่ดีใจที่ได้เห็นเด็กๆ ของเรามีความกระตือรือร้น มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมีมุมมองต่อการพัฒนาเมืองของเรา
ที่ครูปลื้มใจจริงๆ ไม่ใช่การได้เห็นเด็กๆ สอบเข้าคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากรได้ เพราะแม้จะเป็นชมรมโบราณคดี ความสำเร็จจริงๆ ของชมรม คือการได้เห็นเด็กๆ ของเรามีทักษะในการค้นคว้าข้อมูล มีทักษะการจัดการต่างๆ ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องให้ครูมาช่วย และมีความเสียสละเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตต่อไปในอนาคต”
กมลภัทร ตนุเลิศ
ครูที่ปรึกษาชมรมโบราณคดี โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี
https://www.facebook.com/AclubBJ
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…
“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…
“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…
“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม) จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…
“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…