“ผมเคยเป็นผู้จัดการร้านเหล้าที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นงานที่ทำระหว่างเรียนปริญญาตรีจนกระทั่งเรียนจบ จากนั้นก็ไปลองใช้ชีวิตและทำงานหลายอย่างที่แอลเอ ราว 2 ปี ก่อนกลับมาหางานทำที่เชียงใหม่อีกสักพัก แล้วกลับมาอยู่บ้านที่พะเยาก็ได้รู้จักอาจารย์โป้ง (ปวินท์ ระมิงค์วงศ์) ซึ่งเป็นอาจารย์สอนศิลปะอยู่ที่มหาวิทยาลัยพะเยา
อาจารย์โป้งเป็นอีกคนที่ทดลองใช้ชีวิตมาหลายที่ก่อนจะมาปักหลักที่พะเยา ผมกับอาจารย์โป้งเห็นตรงกันว่าพะเยายังขาดพื้นที่สร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ เราจึงร่วมหุ้นกันเปิด Junk Yard เป็นทั้งบาร์และอาร์ทสเปซ มีกิจกรรมฉายหนัง แสดงงานศิลปะ และดีเจ นั่นคือเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วครับ ช่วงนั้นสนุกมาก มีคนรุ่นใหม่เข้ามาใช้พื้นที่อย่างหลากหลาย
หลังทำ Junk Yard ผมก็ออกมาเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสอง และเริ่มแบรนด์ผลิตเสื้อผ้าของตัวเองชื่อ Lakeland Life เพราะอยากมีเสื้อผ้าแบบ custom ที่ตอบโจทย์กับการใช้งานของเรา และอีกอย่างคือพะเยายังไม่มีร้านแบบนี้ ที่ตั้งชื่อว่าเลคแลนด์ก็ตามตัวเลยครับ ร้านเราอยู่ริมกว๊านพะเยา และเมืองเราก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกว๊าน คิดไกลๆ ว่าอยากให้แบรนด์นี้มันเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ในเมือง
ซึ่งความเป็นแบรนด์แบบนี้มันก็ต่อยอดได้หลายอย่าง เพราะหลังจากธุรกิจเสื้อผ้าอยู่ตัว ผมก็ทำ Lakeland Store ขายสินค้ามือสอง Lakeland Café เป็นร้านกาแฟและขนมที่ทำร่วมกับแฟน ตามมาด้วย Lakeland Camp ที่เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่ ซึ่งอันหลังนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน
ที่ทำกิจกรรมท่องเที่ยวนี่จะว่าบังเอิญก็ใช่ คือมีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งเขาทำทัวร์กับเพื่อนที่กรุงเทพฯ แล้วเขาเอาเรือคายัคมาฝากผมไว้ ผมก็เลยยืมเขาเอาไปพายเล่นในกว๊าน ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดมาก่อนว่าที่ผ่านมาในกว๊านเรามีแต่คนพายเรือไปไหว้พระกับหาปลา แต่จริงๆ เราพายคายัคชมวิวชิลๆ ก็ได้ จากนั้นก็มีคนมาถามว่าขอเช่าเรือ หรือให้เราพาเขานั่งเรือเล่นได้ไหม ผมก็บอกว่าได้สิ ส่วนเรื่องเงินแล้วแต่จะให้
ตั้งแต่นั้นก็เลยเหมือนเป็นชมรมพายเรือในกว๊านยามเย็นเลยครับ (หัวเราะ) จากเรือคายัค ก็เป็นแพดเดิ้ลบอร์ด รวมถึงกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ อย่างเดินขึ้นดอยหนอกและดอยหลวง หรือ trekking ในเส้นทางอื่นๆ รอบกว๊าน ส่วนทีมงานก็ใช้คนรุ่นใหม่ที่รู้จักกันมา กลายเป็นว่าจากตัวเมืองที่คนรุ่นใหม่ไม่รู้จะไปทำกิจกรรมที่ไหน ทุกเย็นเขาก็มาร่วมกับเรา ได้รายได้จากการทำทัวร์อีกต่างหาก
ทุกวันนี้ชีวิตผมค่อนข้างลงตัวนะครับ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่รู้ว่าเราชอบอะไร และได้ทำสิ่งที่ชอบที่บ้านเกิดของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ได้ทำพื้นที่ที่อย่างน้อยก็อาจช่วยจุดประกายคนรุ่นใหม่ หรือทำให้เมืองมีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่บ้าง เพราะสุดท้ายถ้าเมืองเราดี หรือมีพื้นที่ที่ทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกมีความหวัง พวกเขาจะกลับมาเอง เพื่อหาวิธีจะใช้ชีวิตอยู่ และร่วมขับเคลื่อนให้บ้านเกิดของเขาเป็นที่สำหรับพวกเขาต่อไป”
พันธกานต์ กันต์โฉม
เจ้าของแบรนด์ Lakeland Life และเจ้าของร้าน Lakeland Café
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…