ที่อยู่ตอนนี้ก็ดี แต่ที่คับข้องใจคือเรื่องน้ำ ถ้ามีน้ำประปาเข้าถึงได้ก็ดี เวลาหมดหน้าฝนชาวบ้านต้องไปซื้อน้ำแพงมาก แทงก์นึงประมาณ 350 บาท ปกติประมาณ 170 บาท บางบ้านอยู่กัน 6-7 คน เพราะหน้าแล้ง 3-4 เดือนฝนไม่ตกเลย

“ผมเป็นคนในหมู่บ้าน จริงๆ ดั้งเดิมเป็นชื่อหมู่บ้านโรงไม้ หรือหมู่บ้านปากน้ำเวฬุ ศาลเจ้าตรงนี้เขาเรียกศาลเจ้าปากน้ำเวฬุ พอมีโฮมสเตย์เขาเลยเปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านไร้แผ่นดิน เพราะว่าบ้าน สะพาน ปลูกในน้ำหมด อยู่กัน 200 กว่าหลังคาเรือน อีกฝั่งแม่น้ำก็เป็นพื้นที่เดียวกัน แต่อยู่บ้านนากุ้ง ฝั่งนี้อยู่หมู่ 2 บ้านโรงไม้ ตำบลบางชัน ประชากรก็มีเป็นพันได้นะครับ ทั้งเด็ก คนแก่ คนโต อยู่กันเหมือนพี่ๆ น้องๆ รู้จักกันหมด บางทีบ้านนู้นบ้านนี้ก็ไปกินข้าวได้

ผมทำอาชีพประมง พอหมู่บ้านทำโฮมสเตย์ ก็มารับจ้างขับเรือเป็นอาชีพเสริม ส่วนใหญ่คนที่ทำโฮมสเตย์ก็เป็นคนในหมู่บ้าน เขาอยากทำ แต่บ้านผมไม่ได้ทำ รับจ้างขับเรือก็เรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับแขกที่มา ตอนนี้ถ้าทำประมงอย่างเดียว ถามว่า อยู่ได้มั้ย ก็อยู่ได้นะ พอกินพอใช้ จริงๆ ก็จับปลากินได้ ไม่ต้องซื้อ การประมงไม่ได้ทำทุกวัน ขึ้นอยู่กับจังหวะของน้ำ น้ำนึงทำประมาณ 7-8 วัน เดือนนึงก็ทำ 10 กว่าวันเอง แล้วก็หยุด มีเวลาว่าง เราก็วิ่งเรือ ถ้าเป็นแต่ก่อนไม่มีโฮมสเตย์ ก็พักผ่อนอยู่บ้าน เวลานักท่องเที่ยวเข้ามาก็ไม่ได้วุ่นวาย กิจกรรมท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน เขามาโฮมสเตย์ไหน ก็พักที่โฮมสเตย์นั้น มากินข้าวกลางวัน ไปเดินเที่ยว อาจจะช่วยชาวบ้านซื้อของฝากอะไรบ้าง บางคนอยากไหว้เจ้าก็มีคนพาไปส่ง พอถึงเวลาเขาก็ลงแพออกไปเล่นน้ำ ดูเหยี่ยว กลับมากินอาหารเย็น เป็นปู อาหารทะเลล้วนๆ ถึงตอนเช้าก็ข้าวต้มทะเล กาแฟ แล้วก็นั่งเรือกลับ

ที่อยู่ตอนนี้ก็ดี แต่ที่คับข้องใจคือเรื่องน้ำ ถ้ามีน้ำประปาเข้าถึงได้ก็ดี แต่ทีนี้มันก็ไม่ได้ง่ายๆ ใช้งบประมาณเยอะ เวลาหมดหน้าฝน ชาวบ้านไปซื้อน้ำแพงมาก เรือไปเอาจากฝั่งมา ช่วงที่แพงๆ แทงก์นึงประมาณ 350 บาท ปกติประมาณ 170 บาท ขึ้นไปเท่าตัว ชาวบ้านก็ใช้น้ำประหยัดๆ ก็เก็บน้ำในโอ่งอยู่ แต่นานๆ ก็ไม่พอ บางบ้านอยู่กัน 6-7 คน เพราะเวลาหน้าแล้ง 3-4 เดือนฝนไม่ตกเลย หลังจากพฤศจิกายน ก็แล้งยาวถึงมีนาคมเลยนะ สภาพสิ่งแวดล้อม การประมงก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาล อย่างกุ้งกุลาดำมีเฉพาะช่วงหน้าหนาว หน้าอื่นก็ไม่มีอยู่แล้ว ก็น้อยลงกว่าเมื่อก่อน สมัยก่อนหาได้เยอะ สมัยนี้หาได้น้อยลงกว่าเก่า แต่ดีที่ได้ราคาเพิ่มขึ้น อย่างเมื่อก่อนเคยขาย สมมติ กิโลละ 100 ตอนนี้อาจจะได้ 150-160 บาท มันทดแทนกัน ที่นี้หมู่บ้านก็จะลำบากเรื่องเดินทาง ต้องใช้เรืออย่างเดียว แล้วน้ำมันก็แพง ค่าครองชีพขึ้น ไปกลับท่าเรือปลายจันท์-ขลุง ก็ประมาณเกือบ 40 กิโลเมตร ไกลนะ ขานึงเกือบ 20 กิโล ดีที่ทุกบ้านมีเรือประมงของตัวเอง แล้วก็มีเรือรับจ้าง คนในหมู่บ้านก็เดินทางกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร”

ชยพล สืบวงษ์ชัย
ชาวประมง-คนขับเรือ หมู่บ้านไร้แผ่นดิน

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

4 days ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

6 days ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

6 days ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

1 week ago

[THE CITIZENS] อัญมณี มาตยาบุญ<br />ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ ลำพูน ซิตี้ แลป

“ก่อนหน้านี้เราเป็นสถาปนิก และกระบวนกรจัดประชุมสัมมนาด้านวิชาการ โดยหลัก ๆ จะอยู่เชียงใหม่ ช่วงปี 2562 เรากลับลำพูนและเห็นเทศกาล River Festival Lamphun ริมแม่น้ำกวง รู้สึกตื่นตามาก ๆ ไม่เคยคิดว่าเราจะได้เห็นโชว์แสง…

1 week ago