ธรรมชาติแปรเปลี่ยนไป วัฒนธรรมก็เปลี่ยนไปอีก แล้วเราจะอนุรักษ์ยังไงนี่แหละคือปัญหา

“ขลุงเป็นเมืองที่สงบ ไม่ทะเลาะวิวาท ไม่แตกแยก คือก็มีแหละ แต่ไม่ขัดแย้งกันมากนัก เพราะเรามีบรรพบุรุษที่เป็นโรงเรียนศรีหฤทัยซึ่งปีนี้ก็ครบ 75 ปี (สถาปนาโรงเรียนวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2490) ก็หลอมรวมคนคริสต์ พุทธ คนที่อยู่ในตลาด 30% คนนอกอีกประมาณ 60% ทั้งไร่หนองบอน นาวง ฉะนั้นวัฒนธรรมตรงนี้จึงหลอมรวมความหลากหลายของเชื้อชาติของคนขลุงมารวมกัน

ในอดีต การที่เด็กพุทธเด็กคริสต์ทะเลาะกันเรื่องพระเอ็ง พระข้า โรงเรียนก็จะช่วยหลอม เพื่อนผมมีหลายกลุ่ม ทะเลาะกันเดี๋ยวก็ดีกัน เพราะก็ต้องมานั่งเรียนด้วยกัน นโยบายของทางคริสตจักร พอถึงวันสำคัญทางศาสนาก็ให้ทุกคนอยู่ด้วยกันหมด ณ วันนี้ก็มีชั่วโมงศีลธรรม เชิญพระมาเทศน์ บาทหลวงมาให้ข้อมูล แล้วเราก็พาเด็กไปร่วมทำบุญ ร่วมงานประเพณีอยู่แล้ว ฉะนั้นความขัดแย้งเรื่องของเยาวชนก็ไม่ค่อยมี บรรพบุรุษก็เอื้อเฟื้อกัน แต่งงานข้ามวัฒนธรรมก็เยอะ วัดวันยาวบน วัดวันยาวล่าง มาทอดบุญกฐินผ้าป่าที่นี่ก็เคยทำกันอยู่ เวลาคริสต์มาส ประเพณีใหญ่ของศาสนาคริสต์ ก็เชิญพระไปให้ชาวพุทธได้ชื่นชม แสดงความอวยพรยินดี ช่วงที่ยังไม่มีโควิด สงกรานต์เราก็มีรดน้ำดำหัว เชิญตัวแทนองค์พ่อชิ่น พระเยซู ขึ้นรถไปแห่ สรงน้ำพระพุทธรูป พระคริสต์ รวมทั้งกินเจ บางทีพวกเราไปทำบุญ ไปไหว้เจ้าฮุดโจ้ว สองศาสนาของเมืองขลุง ก็เป็นเรื่องปกติ รู้สึกว่าไม่แปลกแยก ทำให้อะไรๆ ของเมืองขลุงดูราบรื่น กลมกลืน ปัญหาก็มีเป็นเรื่องปกติ ชุมชนคาทอลิกกับเทศบาลก็ต้องเกี่ยวพันกัน แม้กระทั่งนักการเมืองก็ต้องมาหาเสียงกับกลุ่มคาทอลิก พวกเราเหนียวแน่น ถ้าเสียงตรงนี้แตกเมื่อไหร่ เทให้ใคร โอกาสแพ้ชนะเป็นไปได้

บ้านเรามีของดีหลายอย่าง เพียงแต่การส่งเสริมไม่ต่อเนื่อง ภาครัฐเคยลงมาทำแต่ไม่สำเร็จ เช่นเคยพยายามทำตลาดน้ำตรงเกาะลอย แต่เนื่องจากพื้นที่เป็นน้ำขึ้นน้ำลง ทำได้เฉพาะช่วงน้ำขึ้น ช่วงน้ำลงจัดไม่ได้คนก็ไม่มา มันก็ไม่ได้อารมณ์เหมือนตลาดน้ำที่น้ำไหลตลอดทั้งปี แล้วขณะนี้การท่องเที่ยวระดับชาติลงมา เพราะเรามีหมู่บ้านไร้แผ่นดิน มีเรือนั่งไปตลอด นักท่องเที่ยวเยอะ มีบริการท่องเที่ยว คนทั้งประเทศรู้จักหมดแล้ว ผมก็โตมาตรงแถวนั้นแหละ พวกเรา กับทะเล คลอง ชุมชน มันเป็นเรื่องปกติ สมัยก่อนเดินทางด้วยเรือ เราไม่มีน้ำ ก็เอาปลาไปแลกน้ำ เอากุ้งไปแลกส้มโอ เขาเอาส้มโอให้เรากิน เราขอน้ำเขากิน แบ่งกัน เอื้อเฟื้อกัน ณ วันนี้ก็เปลี่ยนไป มีเรือขายน้ำ เวลาหน้าแล้งต้องซื้อน้ำกินน้ำอาบ

การพัฒนาเป็นเมืองเรียนรู้ให้คนเข้ามา ทางราชการก็ทำอยู่ แต่อาจจะไม่มีทิศทางเท่าไหร่ คุยกันหลายคณะ แต่คุยเสร็จก็จบ นี่คือปัญหา หาคนทำต่อเนื่องจริงจังไม่ได้ ชาวบ้านเองก็อยากทำ ถ้าติดตลาดขึ้นมา คนเข้ามา ก็ค้าขายได้ เป็นประโยชน์ เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว รถทัศนาจรเข้ามาเป็นร้อยคันเพื่อมาซื้อผลไม้ถึงที่ เกษตรกรได้ผลประโยชน์เต็มๆ ตอนนี้โลจิสติกส์ถึงกันหมด อยู่ตรงไหนคุณก็กินทุเรียนได้ จะเอาเท่าไหร่ก็บอก เดี๋ยวส่งไปให้ ง่ายมาก นี่คืออดีตของตลาดขลุง เพราะฉะนั้นคนขลุงจะมีความสุขมากช่วงฤดูผลไม้ ได้ตังค์เยอะขึ้น ขายทุเรียนกวน ผลไม้ ขายชะลอมอย่างเดียวก็ได้วันนึงเป็นร้อย เพราะในอดีตไม่มีถุงพลาสติกไง เนี่ย ธรรมชาติแปรเปลี่ยนไป วัฒนธรรมก็เปลี่ยนไปอีก แล้วเราจะอนุรักษ์ยังไง นี่แหละคือปัญหา ภาคไหนจะเป็นคนกระตุ้นให้อนุรักษ์กลับมาเรื่องของเก่า ซึ่งเด็กรุ่นหลังก็ไม่เอาแล้ว ไม่อยู่ด้วย ไปอยู่ที่อื่น กรุงเทพฯ ต่างประเทศ นี่คือปัญหาของชุมชนที่คนในพื้นที่ช่วงอายุไม่ต่อเนื่อง มีช่องว่างของวัย การผลักดันคนรุ่นใหม่ หาเวทีให้ได้คุยกัน จะ talk only แต่อย่างน้อยก็ยังได้คุยกัน มาแชร์ จุดประกายใครสักคนหนึ่งได้ งานในโลกนี้ไม่ได้ทำสำเร็จง่ายๆ เอดิสันทดลองตั้งกี่พันครั้งล่ะ กว่าจะสำเร็จ เราเป็นลูกหลานชุมชน ทำมานาน บางทีมันก็เหนื่อย เป็นเรื่องปกติ แต่เราก็ทิ้งไม่ได้ ต้องจับต่อไป พื้นที่ขลุงใครจะคิดว่าเมืองเก่าจะเจริญได้ขนาดนี้ ก็เกี่ยวกับเศรษฐกิจบูมขึ้นมา คนส่วนใหญ่ของพื้นที่ก็เอาจริงเอาจัง ทุกคนได้ประโยชน์”

อำพัน เจริญรูป
ประธานกองทุนคุณพ่อชิ่น เพื่อศรีหฤทัย

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

2 weeks ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

2 weeks ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

2 weeks ago

[The Citizens]<br />รัชฎาพร นรนวล

เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…

2 weeks ago

[The Citizens]<br />อัญชลี หนูรักษ์

การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…

2 weeks ago

[The Insider]<br />พัชรากร ขุนทอง

แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…

2 weeks ago