“ผมเป็นคนบ้านโต้น เข้ามาหางานในเมืองขอนแก่นตอนอยู่อายุ 18 ความรู้เรื่องตัดผ้า ผมมาหัดเอาตอนมาทำงานเป็นลูกจ้างเขา จนสามารถเปิดร้านตัดผ้าของตนเองปี 2516 ตอนนั้นเป็นแผงลอยอยู่แถวธนาคารออมสิน ก่อนจะย้ายมาตั้งที่นี่ตอนปี 2521 ชื่อร้าน ‘ฮาร่า’ ผมก็เอาชื่อจากโรงงานชื่อดังยุคนั้น ถ้าใครรู้สึกคุ้นๆ หู ก็เข้าใจถูกแล้ว เป็นชื่อของโรงงานตัดผ้าที่กรุงเทพ ที่มีการรวมตัวสหภาพแรงงานนั่นแหละ
ทีแรกผมเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมาเป็นช่างตัดผ้าหรอก ถามว่าชอบไหมก็คงต้องบอกว่าชอบ เพราะทำมานานแล้ว เพลินจะหยุดก็หยุดไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) ปีนี้อายุก็ 80 แต่ยังพอทำได้ก็ทำไป ที่ร้านยังมีลูกค้าประจำแวะมาตลอดส่วนใหญ่เป็นพวกข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ งานเลยจะหนักไปทางพวกเครื่องแบบ ตำรวจ ทหาร ชุดข้าราชการ และก็มีสูท ทั้งสูทตัด กับสูทที่มีปักตราองค์กรตรงกระเป๋าหน้าอก จริงๆ ร้านที่เก่ากว่าร้านของลุงก็มีอยู่นะอยู่ในตลาดเทศบาล แต่ที่นี่คนก็จะรู้จักกันอยู่เพราะเราเปิดอยู่ริมบึงแก่นนครมาตั้งแต่ถนนยังไม่ดีแบบนี้
ตอนที่มาทำร้านตรงนี้ ที่นี่มีบ้านอยู่แค่ 9 หลัง มีแต่ไฟฟ้า น้ำประปาไม่ต้องถามถึง ริมบึงไม่ได้เป็นสวนสวย ๆ แบบนี้ จะมีก็เพียงเก้าอี้ไม้ผุ ๆ ให้นั่งรับชมวิวช่วงเย็น ๆ ริมบึงจะมีคนหาปลา ทอดแหก็มี เมื่อก่อนจะมียอขนาดใหญ่อยู่ตามมุมบึง ถึงหน้างานเทศกาลริมบึงก็จะคึกคักขึ้นมาที อย่างงานลอยกระทง งานสงกรานต์ โดยเฉพาะงานสงกรานต์ หนุ่มสาวจะพากันลงเล่นน้ำกันในบึงสนุกสนานเฮฮากันมาก
รู้ไหมว่าบึงแก่นนครสวยที่สุดตอนไหน ในสมัยที่ไฟฟ้ายังมีไม่มาก บึงจึงจะสวยที่สุดตอนคืนเดือนหงาย เพราะมีพระจันทร์ 2 ดวง บนฟ้ากับกลางบึง ยิ่งช่วงลอยกระทงเดือน 12 จะยิ่งสวยเป็นพิเศษ เพราะน้ำในบึงจะขึ้นมาถึงถึงขอบตลิ่ง เด็กๆ จะออกมาขี่จักรยาน ผู้ใหญ่ออกมาเดินเล่นรับลม ถ้าเป็นช่วงวันลอยกระทงคนจะยิ่งแน่น เรียกเดินแทบไม่ได้ เมื่อก่อนที่บึงจะมีการลอยกระทงปีหนึ่งสองหน คือ ลอยกันวันออกพรรษาเดือน 11 และลอยวันลอยกระทงเดือน 12 อีกหน บึงแก่นนครสมัยก่อนน้ำใสกว่านี้ เป็นความใสที่ไม่ได้ใสแบบใสแจ๋ว แต่เป็นใสแบบมีสีเหลืองขุ่นๆ และสะอาด คนใช้อาบ ซักเสื้อผ้า และใช้ทำอาหาร พอหน้าน้ำน้ำก็เยอะจนล่นปริ่ม พอหน้าแล้งก็มีสันทรายขึ้นให้เราเดินข้ามไปบ้านฝั่งนู้นได้เลย ปลากับกุ้งชุกชุม เดี๋ยวนี้น้ำไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วเพราะบ้านเรือน โรงแรม ร้านอาหารตั้งอยู่ริมบึงกันเยอะ พอการพัฒนาเข้ามาอะไรก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เรียกว่ามีทั้งที่เจริญขึ้น บางอย่างก็เสื่อมลง ลุงกับป้าก็รอดูอยู่นะ เห็นว่าจะมีรถรางมาวิ่งรอบบึง เห็นเขามาประชุมเอาแผนเอาภาพมาให้ดู เราก็รอดูคิดว่ามันน่าจะดีกันการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจแถวนี้”
สุเทพ และเพ็ญศรี เงาพระฉาย
เจ้าของร้านฮาร่า ร้านตัดเสื้อริมบึงแก่งนคร
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…