“ตอนอยู่ในโรงเรียน หนูเรียนและทำข้อสอบได้ดี ซึ่งครูหลายคนก็บอกว่าเราน่าจะไปเรียนต่อสายวิทย์ ไปเรียนต่อหมอได้แน่ๆ ซึ่งตอนนั้นเราอายุแค่ 9 ขวบเอง ไม่ได้คิดอะไร จนวันหนึ่งแม่มาบอกว่าจะให้ออกจากโรงเรียนมาเรียนที่บ้านเป็นเพื่อนน้อง หนูก็ดีใจนะ เพราะไม่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนแล้ว (หัวเราะ)
แต่เอาเข้าจริง อึดอัดมากๆ ค่ะ เพราะเราเรียนอยู่บ้าน ก็ย่อมขี้เกียจเป็นธรรมดา ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่สักพักเพื่อให้เรารับผิดชอบต่อบทเรียน เรียนคือเรียน พักคือพัก ซึ่งต่อมาหนูพบว่าจริงๆ การเรียนที่บ้าน ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเรียนแต่ที่บ้านอย่างเดียว หลายครั้งแม่ก็พาเราไปร่วมกิจกรรมนั่นนี่ ไปห้องสมุด ไปจนถึงเข้าห้องทดลองวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนด้วย เพราะแม่เห็นว่าเราสนใจวิทย์ ก็ไปขอให้ครูหรือนักศึกษาในมหาวิทยาลัยช่วยสอน ก็ได้ทดลองจนหายอยากเลย
จุดเปลี่ยนจริงๆ ตรงที่หนูพบว่าเราชอบเรียนศิลปะ ซึ่งไม่ใช่แค่การวาดรูปให้เหมือน แต่เป็นการใช้จินตนาการ หรือการเอาความคิดในหัวออกมาเป็นภาพ ซึ่งหนูชอบที่จะได้คิดและพบว่าพอได้เรียนวิชานี้แล้วหนูไม่เบื่อเลย อยู่บ้านเฉยๆ ไม่อ่านหนังสือก็วาดรูป เวลาทำโครงงานกับเพื่อน เราก็อาสาเพื่อนว่าจะวาดรูป ทำงานออกแบบ หรือจัดองค์ประกอบศิลป์ให้ ก็ค้นพบตัวเองว่าจริงๆ เราชอบทำงานศิลปะ
ไม่ได้มองว่าตัวเองจะเป็นศิลปิน หรือจะเรียนจบเพื่อเป็นศิลปินเลยนะ เราแค่อยากใช้ศิลปะในการทำงานมากกว่า ซึ่งความที่เราสนใจเรื่องไอทีหรือการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย เลยคิดว่าน่าจะไปทางนี้ เราชอบใช้โปรแกรม Blender ทำงานสามมิติ อยากทำงานพวกออกแบบเกมหรือแอปพลิเคชั่นอะไรแบบนี้ พอเรียนจนเทียบชั้น ม.6 ได้ หนูก็เลยตัดสินใจจะไม่สอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่สมัครคอร์สเรียนออนไลน์พวกทักษะหรือหลักสูตรเฉพาะด้านนี้เพื่อเก็บ certificate ไปพร้อมกับพัฒนาทักษะ และสะสมพอร์ทฟอลิโอ หนูคิดว่างานด้านนี้ต้องการทักษะและความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย แนวทางนี้จึงน่าจะตอบโจทย์กว่าการเรียนปริญญาค่ะ”
อเล็กซ์ – อเล็กซานดร้า วรรษชล ชลอร์
#WeCitizensTh #LearningCity #ChiangMai
หมายเหตุผู้เรียบเรียง: ช่วงปี 2563 อเล็กซ์ได้ร่วมกับเพื่อนๆ ที่เป็นเด็กบ้านเรียนด้วยกันทำโปรเจกต์ Ancestral Lens แอปพลิเคชั่นส่งเสริมการเรียนรู้ระดับนักเรียนในด้านประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ผ่านการทำ AR แลนด์มาร์คทางประวัติศาสตร์อย่าง วัดเชียงมั่น วัดเจดีย์หลวง และวัดพระสิงห์ ซึ่งอเล็กซ์รับหน้าที่เป็นดีไซน์เนอร์ปั้นโมเดลสามมิติของสถาปัตยกรรมในวัดทั้งสามแห่ง ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 22 ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…