“ผมเกษียณจากราชการทหารก่อนกำหนดเมื่อปี พ.ศ. 2544 ตอนอายุ 48 ปี พื้นเพเป็นคนลพบุรี แต่มีโอกาสได้มาประจำการที่ลำปางและมีครอบครัวที่นี่ ก่อนหน้านี้ผมไปประจำการอยู่ตามชายแดนในยุคที่รัฐบาลยังรบกับคอมมิวนิสต์ ก่อนจะลาออกราว 3-4 ปี ผมพบว่าปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของประเทศเรา หาใช่เรื่องลัทธิทางการเมืองอย่างที่เคยเข้าใจ แต่เป็นเรื่องยาเสพติดและเยาวชน ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างสังคมไทย หลังออกจากราชการผมเลยเริ่มต้นก่อตั้ง ‘มูลนิธิเติมน้ำใจให้สังคม’
ผมจำไม่ได้ว่ามีทักษะของการเป็นวิทยากรติดตัวมาตอนไหน แต่ความที่ผมประจำการในหลายพื้นที่และเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านจึงมีข้อมูลเชิงลึก ก็เลยมักเล่าประสบการณ์และถอดบทเรียนจากการทำงานที่ต่างๆ ให้คนอื่นฟัง สิ่งนี้ได้ผลกว่าการจับอาวุธ โดยเฉพาะกับเรื่องยาเสพติด ที่ผมเห็นว่าเครื่องมือที่ใช้เผชิญหน้าปัญหานี้ได้ดีที่สุดคือการเสริมความเข้มแข็งในด้านการศึกษาและสถาบันชุมชน
แต่นั่นล่ะ มันไม่ใช่แค่คุณเอาชาวบ้านมารวมตัวกัน แล้วคุณก็ไปสอนเขา ซึ่งเมื่อก่อนผมก็คิดแบบนั้น ปรากฏว่ามันไม่ได้ผล เขาไม่ฟังคุณจริงๆ หรอก ถ้าเป็นภาษากระบวนการแบบนี้ เรียกว่าการมองแบบแยกส่วน มองชุมชน เห็นผู้ใหญ่บ้าน เห็นเยาวชน เขาฟังจบก็จบกัน ไม่มีกลไกอะไรต่อ เหมือนฉากในภาพยนตร์เรื่องอวตาร ที่นางเอกเอาจมูกมาจรดพระเอกแล้วบอกว่า You don’t see me. นั่นเลยครับ
///
พันเอก สันดุสิต ดีบุกคำ
ประธานเครือข่ายลำปางรักษ์เมืองเก่า
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…