ตั้งอยู่ในอำเภอแกลง ห่างจากเทศบาลนครระยองราว 57 กิโลเมตร ตำบลปากน้ำประแสเดิมเคยเป็นหมู่บ้านประมงพาณิชย์ที่แสนคึกคักและรุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งในแถบภาคตะวันออก หากปัจจุบันด้วยกฎหมายการประมงที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้การประมงแบบเดิมซบเซาราวพลิกฝ่ามือ อย่างไรก็ตาม ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ และประวัติศาสตร์ที่เชื่อมร้อยกับพื้นที่และชุมชน ทำให้ปากน้ำประแสเปลี่ยนโฉมหน้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด สถานที่ที่คุ้มค่าแก่การขับรถมาเยือนจากตัวเมืองระยองเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศของการพักผ่อนที่ไม่เหมือนที่ไหน และเหล่านี้เป็นเหตุผลว่าทำไม
สะพานประแสสิน
สะพานประแสสินมีสถานะกลายๆ ของการเป็น ‘ประตู’ ทางเข้าเมือง (ตำบลปากน้ำประแส) สะพานที่ทอดยาวซึ่งมาพร้อมทางจักรยานและทางเดินเท้าแห่งนี้ เป็นจุดชมวิวชุมชนปากน้ำประแสและท้องทะเลอันกว้างใหญ่สุดสายตา ตบไฟเลี้ยวและจอดรถข้างทาง เดินลงมาสูดอากาศ ชมทิวทัศน์ และสัมผัสบรรยากาศสุดผ่อนคลายก่อนเข้าไปชมชุมชนอันสงบงามด้านใน
อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส
อดีตเรือรบของราชนาวีที่เข้าร่วมรบในสงครามเกาหลี ภายหลังที่เรือถูกปลดประจำการ เรือลำนี้ก็ถูกนำมาจอดเทียบท่าที่ปากน้ำประแส เป็นอนุสรณ์สถานที่เชื่อมร้อยประวัติศาสตร์ระหว่างไทยและเกาหลี ซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้าชมและถ่ายรูปด้านใน ทั้งนี้ยังสามารถชมวิวของอ่าวไทยจากมุมสูงบนตัวเรือได้ด้วย
เส้นทางศึกษาธรรมชาติทุ่งโปรงทอง
เส้นทางศึกษาธรรมชาติทุ่งโปรงทอง เป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปภายในป่าโกงกางทุ่งโปรงทองพื้นที่ 6,000 ไร่ เดินชมต้นโกงกางน้อยใหญ่ที่ร่มรื่นและรายล้อมทางเดินราวกับอุโมงค์ธรรมชาติอย่างไม่ทันหายเหนื่อย ก็จะพบทุ่งโปรงทองแผ่กว้างละลานตาแบบที่หาจากที่ไหนไม่ได้ในระยอง
ชุมชนปากน้ำประแส 100 ปี
แม้จะมีอายุต่อท้ายชื่อชุมชนถึง 100 ปี แต่อันที่จริงชุมชนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ชุมชนปากน้ำประแสเคยเป็นศูนย์กลางความเจริญในยุคประมงพาณิชย์เมื่อทศวรรษก่อน หากปัจจุบันชุมชนบ้านไม้ที่เรียงรายอยู่ริมน้ำแห่งนี้ กลายเป็นแลนด์มาร์คทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เปี่ยมด้วยบรรยากาศแบบชุมชนอันงดงามในยุคก่อน ภายในชุมชนเป็นที่ตั้งของ ‘บ้านพิพิธภัณฑ์ปากน้ำประแส’ จัดแสดงภาพถ่ายชุมชนในสมัยก่อน รวมถึงแหล่งเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับวิถีชุมชนและความเป็นไปของปากน้ำประแส
ชิมอาหารพื้นบ้านจากร้านตำรับดังชุมชน
ปิดท้ายที่การชิมอาหารพื้นบ้านจากหลากร้านดังในชุมชน ผลิตผลจากประมงพื้นบ้านโดยชาวชุมชน ร้านเจ๊หน่องแซ่บเว่อร์ เป็นร้านเด็ดภายในชุมชน 100 ปี เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ และเมนู ‘ข้าวผัดประแส’ อาหารจานอร่อยที่ใครมาเยือนต้องไม่พลาด รวมถึงเมนูอย่าง จ๊อเคย ข้าวเกรียบเคย หมึกกระตอยผัดดำ ฯลฯ (เปิดอังคาร 10.00-20.00 น.) ร้านเจ๊มัณเรือรบ ร้านอาหารทะเลที่ตั้งอยู่ริมชายทะเลแสนชิล จากร้านยังสามารถชมทิวทัศน์ของเกาะแก่งต่างๆ ทั้งเกาะมันนอก มันใน และมันกลาง แกล้มกับเมนูเด็ดๆ อย่างหอยตลับผัดฉ่า ปลากะพงทอด ปูไข่ดอง ฯลฯ (เปิดทุกวัน 7.00-21.00 น.) และครัวย่าฉิม อีกร้านอาหารพื้นบ้านภายในชุมชนประแส เสิร์ฟอาหารทะเลจากชาวประมงประแส มีเมนูเด็ดๆ อย่าง แกงป่าปลาเห็ดโคน หมึกปลัด หมึกกะตอยน้ำดำ และแกงส้มผักกระชับ (เปิดทุกวัน 15.00-21.00 น.)
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…
“ไม่ว่าเชียงรายจะพัฒนาสู่เมืองในนิยามใดเป้าหมายเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าผู้คนไม่รู้จักเรียนรู้ต้นทุนของเมือง และไม่รู้จักปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลง” “เวลาพูดถึงเครื่องมือการพัฒนาเมือง ความยากของเชียงรายคือ เราต้องรับมือกับความท้าทายหลายมิติ และไม่อาจละทิ้งประเด็นใดได้เลย เชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ (Brown City) ที่กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจซบเซาเหมือนหลายเมืองทั่วประเทศ ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับสังคมสูงวัย (Silver City) รวมถึงภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อม…
“เราหวังให้ที่นี่เป็นมากกว่าห้องสมุดแต่เป็นพื้นที่กลางให้ผู้คนทุกช่วงวัยได้มีความสุขร่วมกัน” “ห้องสมุดเสมสิกขาลัย เกิดจากดำริของ ศ. นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว นายแพทย์คนสำคัญผู้บุกเบิกการแพทย์ชนบท และผู้ร่วมจัดทำแผนสาธารณสุขแห่งชาติ ห้องสมุดแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ดินของท่านซึ่งมอบให้เทศบาลนครเชียงรายนำไปใช้เป็นสาธารณประโยชน์ห้องสมุดเปิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของท่าน (เกิดปี 2454…