“ผมมักจะถามนักวิจัยที่ทำหน้าที่ประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้โรงงานต่างๆ ในระยองทุกคนว่า คุณเป็นคนระยอง หรือมีญาติพี่น้องอยู่ในระยองหรือเปล่า?
เพราะผมทำงานด้านสิ่งแวดล้อมจึงรู้ดี เวลาที่บริษัทใดก็ตามในระยองมีโครงการจะขยายโรงงานหรือเปิดโรงงานเพิ่ม หน่วยงานภาครัฐก็จะต้องว่าจ้างที่ปรึกษาที่เป็นนักวิจัยให้มาทำหน้าที่ตรวจสอบว่าโรงงานใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีมาตรการจัดการมลภาวะผ่านเกณฑ์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ซึ่งมันเป็นเรื่องย้อนแย้งที่นักวิจัยเหล่านั้นส่วนใหญ่ ก็ได้รับว่าจ้างโดยกลุ่มทุนและบริษัทที่จะขยายกิจการพร้อมกัน ดังนั้น ท้ายที่สุด พวกเขาก็จะประเมินให้โครงการที่เปิดใหม่เกือบทั้งหมดผ่านเกณฑ์อยู่ดี
ผมจึงมักถามพวกเขาว่ามันไม่ใช่แค่การประเมินให้ผ่านเกณฑ์ไปตามหน้าที่ แต่ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงที่คนระยองต้องประสบด้วย ขณะเดียวกันก็พยายามจะบอกกับเจ้าของโรงงานอยู่เสมอว่าบางทีคุณลดกำไรลงมาหน่อย และใส่ใจเรื่องการทำ eco factory บ้าง สร้างกำไรในเชิงความยั่งยืนคืนให้แก่คนในเมือง ระยองตอนนี้มีโรงงานอยู่ราว 4,000 โรง ถ้าแต่ละโรงใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมจริงๆ ไม่ใช่แค่การทำไปตามข้อกำหนดกับภาครัฐ ผู้คนในเมืองก็จะเผชิญกับมลภาวะน้อยลงกว่านี้เยอะ
จริงอยู่ที่ระยองเป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัว หรือ GDP สูงที่สุดในประเทศ โรงงานขนาดใหญ่หลายแห่งทำกำไรมหาศาลและจ่ายภาษีคืนกลับให้รัฐบาลเยอะมากๆ อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรที่ไม่ได้ทำงานในภาคอุตสาหกรรม ระยองก็ยังมีคนเสี่ยงชีวิตขายของตามสี่แยก มีแรงงานที่ต้องปากกัดตีนถีบ มีชาวบ้านที่มีคุณภาพชีวิตไม่ดีอีกมากมายเต็มไปหมด เมืองเรายังมีความเหลื่อมล้ำอยู่มาก
ในฐานะที่ผมทำงานสำนักงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ซึ่งมีบทบาทหลักในการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ก็พยายามชวนหน่วยงานอื่นๆ ช่วยกันคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้พี่น้องที่อยู่นอกระบบอุตสาหกรรมมีรายได้ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเราต่างเห็นตรงกันว่าการท่องเที่ยวและภาคการเกษตรนี่แหละจะช่วยสร้างงานสร้างอาชีพ ยกระดับผู้คนในเมืองเราได้ ระยองมีแหล่งท่องเที่ยวครบครันทั้งพื้นที่ธรรมชาติ ป่าโกงกาง ชายหาด เกาะแก่ง ภูเขา รวมถึงพื้นที่ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกันกับภาคเกษตรที่เรามีสวนทุเรียนและสวนผลไม้ที่ให้ผลผลิตอร่อยๆ ดึงดูดผู้คนได้มากมาย แต่ต่อให้เรามีทรัพยากรดีแค่ไหน ถ้าเมืองยังถูกจดจำว่ามีสภาพอากาศเป็นพิษหรือน้ำทะเลปนเปื้อนคราบน้ำมัน ก็ไม่มีประโยชน์
ดังนั้น ควบคู่ไปกับการกวดขันและสร้างจิตสำนึกให้กับโรงงานแต่ละแห่ง ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดระยองจึงพยายามทำโครงการต่างๆ เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นโครงการชายหาดติดดาว ที่ทำร่วมกับกรมควบคุมมลพิษและกรมโรงงานอุตสาหกรรม จัดประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อมของแต่ละชายหาดในระยอง และสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่นั้นๆ เพื่อช่วยกันดูแลพื้นที่เพื่อให้ได้รับ 5 ดาว สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวไปด้วยอีกทาง
หรือการพัฒนาระยองให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่ไปกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกมิติ ซึ่งนี่เป็นภาพฝันที่ผมอยากให้ระยองเป็นเลยล่ะ
อย่างไรก็ตาม การจะทำให้ระยองเป็นแบบนั้นได้ หน่วยงานที่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมก็จำเป็นต้องทำการประเมินมาตรฐานหลายด้าน และตรงนี้เองที่ผมพบว่าเกณฑ์การประเมินบางอย่างอาจไม่สอดคล้องกับบริบทของเมืองระยอง เช่น ค่าปนเปื้อนในน้ำ เราไม่อาจนำเกณฑ์ของระยองที่มีแม่น้ำสายเล็กและระบายได้ช้า ไปเทียบกับอยุธยาหรือสมุทรปราการที่มีแม่น้ำสายใหญ่ซึ่งละลายมลภาวะได้ดีกว่าอย่างเจ้าพระยา เพราะแม้จะผ่านเกณฑ์เหมือนกัน แต่แม่น้ำเจ้าพระยาก็อาจมีมลภาวะตกค้างน้อยกว่าแม่น้ำระยอง เป็นต้น
ผมจึงมองว่าพร้อมไปกับการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เรื่องการกำหนดเกณฑ์การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับบริบทของเมืองต่างๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ ขณะที่จิตสำนึกต่อส่วนรวมของผู้ประกอบการและผู้ประเมินผลกระทบก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อการบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
ผมเชื่อจึงว่าแม้จะเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่ถ้ามีการจัดการที่ดี เมืองอุตสาหกรรมนั้นก็เป็นเมืองที่น่าอยู่ได้ และเราทุกคนสามารถทำให้ระยองเป็นแบบนั้นได้”
ครรชิต ศรีนพวรรณ
ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…
“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…
“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…
“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม) จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…
“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…