“ผมอยากเห็นการโต้เถียงกันถึงอนาคตเมืองระยองอย่างเปิดกว้าง พร้อมคำถามใหม่ๆ ที่ท้าทาย”

“ผมไม่เคยชอบไปโรงเรียนตอนเด็กมากๆ เหตุเพราะโดนครูทำโทษด้วยไม้เรียวจากเรื่องที่ไร้สาระ และถ้าเราตั้งคำถามครู ก็มักจะโดนด่าว่าเป็นเด็กเถียงผู้ใหญ่…เลยคิดว่าถ้าโตมา ผมอยากเป็นครูที่ดีกว่านี้ และนั่นทำให้พอเลือกเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ผมจึงเลือกคณะครุศาสตร์ (ครุศาสตร์อุตสาหกรรม คอมพิวเตอร์ศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ)

จนเรียนจบออกมา ก็คิดว่าการเป็นแค่ครูยังไม่พอ ถ้าเราอยากออกแบบโรงเรียนหรือวิธีการสอนหนังสือในแบบของเราได้ ก็ควรต้องเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน (หัวเราะ) หากระหว่างนั้นช่วงคาบเกี่ยวก่อนเรียนจบ ผมได้ชวนเพื่อนๆ ที่มีความคิดแบบเดียวกันมาตั้งกลุ่ม Dot to Dot ทำงานด้านการพัฒนาหลักสูตรการศึกษา โดยมีเป้าหมายอยากสร้างโรงเรียนที่สร้างเด็กๆ ให้เข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่น และเข้าใจถึงความหลากหลายในสังคม ดยใช้แนวคิด transformative learning พอได้ทำกลุ่มนี้ ก็เปลี่ยนวิธีคิดผมไปอีกว่า ไม่ต้องเป็น ผอ. โรงเรียนก็ได้ สิ่งที่ต้องการจริงๆ คือการมีพื้นที่การเรียนรู้ที่ไม่ยึดติดอยู่แต่กับกรอบการศึกษาเดิมๆ

ที่ผ่านมา Dot to Dot ทำงานร่วมกับองค์กรที่สนับสนุนการศึกษานอกห้องเรียนหลากหลายกลุ่ม กระทั่งได้มีโอกาสร่วมเวิร์คช็อปกับ บริษัท ระยองพัฒนาเมือง จำกัด และเรามีมุมมองด้านการศึกษาเรียนรู้แบบเดียวกัน จนนำมาสู่การจัดตั้ง Converstation บนถนนยมจินดา

Converstation คือพื้นที่ที่เราตั้งใจให้คนที่เข้ามาใช้ไม่คิดว่ามาเรียนหนังสือ แต่มาทำกิจกรรมสนุกๆ ที่แต่ละคนสนใจ มาร่วมพูดคุย ทำเวิร์คช็อปในเนื้อหาเฉพาะ อ่านหนังสือ เล่นบอร์ดเกม หรือดูหนัง โดยมีกระบวนกร (facilitator) ที่คอยอำนวยความสะดวกในกิจกรรมต่างๆ และชักชวนให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมถอดบทเรียนที่ได้

การมาทำกิจกรรมกับเราจึงไม่ใช่การมาเรียน แต่พอทำเสร็จ ผู้ร่วมกิจกรรมอาจได้รู้… รู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้ทำ รวมถึงได้รู้จักตัวตนของพวกเขาเอง 

กลุ่มที่มาร่วมกิจกรรมกับเราเป็นเด็กมัธยมปลายในระยองเป็นหลัก หลายคนทำกิจกรรมหนึ่งแล้ว ก็กลับมาทำอีกกิจกรรมหนึ่ง ทำๆ ไปก็เกิดกลุ่มก้อนที่มาพูดคุยกันว่าถึงเรื่องย่านยมจินดา เรื่องเมืองระยอง ไปจนถึงไอเดียที่เขาอยากเห็นในการพัฒนาเมืองนี้ 

แนวคิดเรื่อง City Curator ที่เราใช้เป็นเครื่องมือในการทำโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้กับ บพท. ก็มาช่วงเวลานั้นครับ จากกิจกรรมตามความสนใจของแต่ละคน พอได้รวมกันมันก็ทรานส์ฟอร์มมาสู่กิจกรรมที่อยากทำเพื่อขับเคลื่อนเมือง ผมก็ชวนเด็กๆ กลุ่มนี้มาเรียนรู้บ้านเมืองของเราเองกัน กลไกการบริหารจัดการเป็นยังไง ปัญหาของเมืองตอนนี้คืออะไร และเราจะมีส่วนในการดูแลหรือพัฒนาเมืองของเราได้อย่างไร จาก City Curator เลยพัฒนาไปสู่ City Mover ในที่สุด

ทั้งนี้ ผมก็พยายามติดตั้งกลไกการเรียนรู้นี้ไปสู่ระดับชุมชนทั่วระยองด้วย เพราะคิดว่าถ้าคนรุ่นใหม่ในชุมชนมีความแอคทีฟแบบเดียวกัน แต่ละย่านก็จะมีคนคอยขับเคลื่อนขึ้นมาอีกเยอะ เลยเข้าไปหาคนรุ่นใหม่ในแต่ละชุมชน ผ่านการไป track ตามโรงเรียนต่างๆ และตามต่อว่าบ้านน้องๆ (ที่สนใจร่วมกิจกรรม) เขาอยู่ย่านไหนบ้าง ก่อนจะออกแบบหลักสูตรให้พวกเขาเหล่านั้นมาเรียนรู้ชุมชนของตนเองในทุกวันเสาร์ เป็นเวลา 5 สัปดาห์  

ย้อนกลับมาที่ Converstation จากการทำกิจกรรมและแลกเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เด็กๆ ที่มาร่วมกับเราคิดอยากทำกิจกรรมอะไรสักอย่างขึ้นมาที่ย่านยมจินดา กิจกรรมที่เป็นมากกว่าถนนคนเดินแบบเดิมๆ นั่นจึงนำมาสู่การจัด ‘ยมจินเดย์’ โดยชวนนักออกแบบและศิลปินท้องถิ่นมาจับคู่กับเจ้าของพื้นที่หรือผู้ประกอบการ มาถ่ายทอดเรื่องราวของถนนสายนี้ออกไปในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการศิลปะ การออกร้าน เวิร์คช็อปเชิงปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่ การแสดงและดนตรี ไปจนถึงการชวนคนที่สนใจมาร่วม rally ชมอาคารสำคัญๆ ของย่าน เป็นต้น ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจาก CEA (สำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์)  และเทศบาลนครระยอง มาร่วมขับเคลื่อนจนเกิดเป็นรูปเป็นร่าง  


ตลอดปี 2565 เราจัดยมจินเดย์ไปทั้งหมด 3 ครั้ง ได้ฟีดแบ็คจากชาวชุมชนในเชิงบวก รวมถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวในย่านเยอะขึ้น จนเทศบาลเขาก็ชวนต่อโดยเชื่อมเราเข้าถึงกองทุนพัฒนาไฟฟ้า จนได้งบประมาณสำหรับการจัดกิจกรรมยมจินเดย์ต่อเนื่องในทุกเดือน 12 เดือน 12 เทศกาล ตอนนี้อยู่ระหว่างการโหวตกันอยู่ว่าแต่ละเทศกาลจะมีธีมอะไรบ้าง ก็มีคนเสนอมาตั้งแต่เทศกาลน้ำแข็งใส ผลไม้ ไปจนถึงคอสเพลย์ เป็นต้น

อันที่จริงทั้ง Converstation ยมจินเดย์ City Mover หรือโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ สำหรับผมมันคือเครื่องมือเครื่องมือหนึ่ง อย่างไรก็ดี ภาพที่ผมอยากเห็นจริงๆ ในเมืองเมืองนี้คือการที่คนระยองเข้าใจคนอื่น พร้อมจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันในแนวระนาบ

ที่ผ่านมา เราเห็นตรงกันว่าระยองมันเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีระบบทุนนิยมขับเคลื่อน ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตไปในพื้นที่ของตัวเอง และนำมาซึ่งมุมมองที่คอยตัดสินคนอื่น  นั่นทำให้เรามักได้ยินคำพูดทำนองว่า… พวกเด็กรุ่นใหม่มัน… พวกผู้ใหญ่มัน… พวกข้าราชการมัน… พวกพม่ามัน… พวกเขมรมัน… หรือพวกนักวิจัยมัน… กล่าวคือเราพร้อมจะตัดสินคนอื่นโดยแทบไม่คิดจะฟังหรือเรียนรู้อะไรจากคนที่ต่างจากเรา  

ผมจึงอยากเห็นการตัดสินกันด้วยอคติแบบนี้ลดลง เด็กกล้าเสนอความเห็นกับผู้ใหญ่ หรือผู้ใหญ่ก็พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนกับเด็กโดยไม่มีอคติ หรืออย่างเห็นภาพที่สุดคือ เราอาจโต้เถียงกันถึงอนาคตหรือการพัฒนาของเมืองเราได้อย่างเปิดกว้าง พร้อมคำถามใหม่ๆ ที่ท้าทาย” (ยิ้ม)

ชนสรณ์ เฉียบเอี่ยมเชาน์
นักวิจัยโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ระยอง
นักวิจัยบริษัท ระยองพัฒนาเมือง จำกัด / ผู้ก่อตั้ง Conversation
https://www.facebook.com/converstation.th/
https://www.facebook.com/Yomjinday

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

3 days ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

2 weeks ago