“พ่อผมเป็นคนสมุทรสงคราม เป็นทหารเรือเก่าอยู่สถานีเรือกรุงเทพ แล้วก็ย้ายมาอยู่อป. (องค์การประมงทหารเรือ) ที่หัวหินนี่ ทีนี้ทหารเรือมันมีเรือเล็ก พ่อก็เอาเรือออกไปหาปลาได้มาเลี้ยงทั้งกองทัพสบาย สมัยนั้นห้องเย็นไม่มี ก็กินสด แล้วก็ทำปลาเค็มตาก นายก็เอาไปให้คนที่กรุงเทพฯ พ่อก็ว่าไม่ต้องทำแล้วพลทหาร ทำทะเล หาเรือให้ลูกซักลำนึง พี่น้องผม 15-16 คนนะ ผมเห็นพ่อออกเรือได้ปลาอินทรีย์ ปลาอะไรเยอะแยะ มันมีความดีใจ มีความชอบทะเล ก็หนีเรียน ถอดเสื้อ โยนกระเป๋า ไปลงเรือเลย ในเรือจะมีฝาห้อง เราก็ลงไปแอบก่อน พอได้ยินเสียงเรือออกเราก็ออกมา ผู้ใหญ่ก็ฮั่นแน่! ขึ้นมาอีกแล้ว! เขาจะถามว่าพรุ่งนี้วันอะไร วันอังคารวันพุธ กลับบ้านก่อน ศุกร์เสาร์อาทิตย์ไปได้ อยู่ทั้งคืนได้ เขาให้เรียนให้จบก่อน พอรับประกาศนียบัตรป.4 โรงเรียนเทศบาลบ้านหัวหิน ก็ดีใจ ได้ออกเรือตามที่ชอบแล้ว
เมื่อก่อนปลามากมาย มันไม่ได้คิดอะไร เจริญเพลิดเพลิน มีกิน พ่อก็ทำ เราได้ออกเรือกับพี่ชาย จนมีเรือ 5 วา 3 ศอก เครื่อง 150 แรงม้า มันสนุก ออกเรือไดหมึกไปปั่นปลาหมึกก็สนุกนะ เดือนหนึ่งออกไปปั่นสองครั้ง ข้างขึ้น ข้างแรม อย่างเร็วเลย 3 ค่ำ หมึกมีหรือไม่มีต้องออกเรือไปก่อน ไปเฝ้าที่ เพราะหมึกมันอยู่เป็นที่ ไม่ใช่วิ่งไปจอดตรงไหนก็ได้ จุดที่เราเคยเจอหมึกเยอะ เรือมี gps เราก็จดไว้เลย ไปหามุมที่จอดเรือได้ ดูทิศทางลม ทิศทางน้ำ โยนสมอรอเลย แล้วหมึกนี่แปลก ถ้ามีขึ้นไฟมานะแป๊บเดียวได้เป็นหมื่นเป็นแสน ผมเคยเจอ มาตอน 9 ค่ำ พอสิ้นแสงตะวัน หมึกลอยขึ้นมาหน้าแหเป็นสิบๆ กิโล ครอบหมึกจนสว่าง พระอาทิตย์ขึ้นได้เป็นสองร้อยกิโล กองเต็มพื้นเรือเลย
ทีนี้ ทะเลมันเปลี่ยนแปลง จากเคยได้สามสี่ห้าพันบาท สองพันห้ายังไม่ได้ ได้พันกว่าบาท ค่าน้ำมันคืนละร้อยลิตร ลูกจ้างอีกสองคนวันละสามร้อยบาท ออกเรือไป ไม่มีเงินเข้าเลย มีแต่ออก ไม่ใช่ลำเราลำเดียวนะ เป็นทั้งอ่าวเลย ข้างใต้ทะเลปลาน้อย เรือจากระยอง ตราดมา เช้าๆ สะพานปลาหัวหินคับคั่ง เรือแน่นมาก หลังๆ นี้ เขาไม่ได้อะไร ก็ทยอยกลับ ไม่ไหว ผมเองก็เลิกจากเรืออวนลากเป็นเรือปั่นไดนาโมมา 10 ปีได้แล้ว บอกขายเรือก็ยาก ต้องใช้เวลา จนเรือขายได้ ซึ่งก็โชคดี เหมือนจะไหวตัวทัน เพราะตอนยุคคสช.ที่ลงมาตรวจสอบการทำประมงผิดกฎหมาย สั่งให้เรือจอดนิ่ง ตอนนั้นผมมีใบประกอบการประมงใช้เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ก็จะโดนบล็อก แต่ผมเลิกไปก่อน มาขึ้นบก เปลี่ยนอาชีพ ทำสวนตัดต้นไม้ ทำงานรปภ.แต่ก็ไม่ใช่งานประจำ เขาเรียกเราถึงได้ไปทำ แล้วก็ช่วยพี่ชายทำปลาเค็มมั่ง ส่งปลามั่ง เวลามีเรือเข้าก็ไปเอามาจากเรือ ถ้าไม่มีเรือเข้าอย่างปลาทูแขกเอามาจากห้องเย็นจากทะเลใหญ่ลำนึง แต่ใจยังอยากลงเรืออยู่
ความที่ใจเราชอบในเอกลักษณ์ของเรือ แล้วเห็นพี่ชายคนโตทำเรือจำลอง เราชอบก็เลยทำตาม ช่วงเรือออกไม่ได้ ฤดูมรสุมเข้า เจอไม้ก็เอาไม้มา เริ่มแรกก็ไม้นุ่นก่อนเพราะมันนิ่ม แกะง่าย ใช้ไม้เนื้ออ่อนพวกไม้กระถิน หางนกยูงเนื้อสวยมาก เอามาแบ่งเส้นผ่านศูนย์กลาง เปิดหน้าไม้แล้วก็ดัดลวดโค้งๆ ใช้เครื่องมือสว่านบ้าง เครื่องมือไฟฟ้าบ้าง แล้วแต่จังหวะงาน ส่วนแรกก็ฝานก่อน พอมีศูนย์กลางเราก็นึกภาพเห็นละว่าจะไปแบบไหน ก็ค่อยๆ แกะไม้ทั้งท่อนไปเรื่อยๆ เราทำเรือตังเก เรือประมงจำลอง เรือสินค้าบรรทุกคอนเทนเนอร์แบบเรือนอกก็ทำได้ แต่เรือตังเกมีสีสัน เป็นเอกลักษณ์ ผมชอบทำ เราเล่าเรื่องได้ เป็นเรือจับปลาฝูง ปลาทู ปลาหลังเขียว ปลาโอที่ฝรั่งเขาเรียกปลาทูน่า ลำแรกที่ทำจำไม่ได้เมื่อไหร่ ตอนนั้นยังไม่มีสื่อโทรศัพท์แบบนี้ เด็กแถวบ้านเห็นก็บอก ลุงทำให้ผมมั่ง ก็ทำเล่นหลากหลายไป จากทำเรือเล่นก็ขยายมามีเครื่องมือเครื่องไม้ เรือจำลองผมแล่นได้จริงนะ ตอนแรกผมลองใส่ถ่านดูก่อน พอได้แล้วก็ขยับ สั่งซื้อชุดรีโมท ชุดมอเตอร์ มาติดตั้ง เดี๋ยวนี้สั่งซื้ออุปกรณ์จากลาซาด้ามาง่าย หาได้หมด อย่างใบพัด สั่งมาจากจีน ญี่ปุ่น น้องชายผมทำงานบริษัทอยู่กรุงเทพฯ เขาเก่ง เขาก็สั่งซื้อให้ ผมก็มาติดตั้ง ลำหนึ่งถ้าใช้เวลาทำทุกวัน 20-25 วันเสร็จแน่นอน
ช่วงระหว่างโควิดเมื่อจะสิ้นปี 2564 นายกหนุ่ย (นพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน) มาเยี่ยมชุมชน เขามาเห็นผมทำเรือจำลอง ก็ถามว่า ขายมั้ย ผมก็บอก ขายครับ แต่ไม่ใช่แค่นี้นะ เดี๋ยวผมทำให้วิ่งได้ด้วย ติดตั้งเสร็จแล้วผมก็ไปให้เขาที่ทำงาน ถ้าเรือเปล่าๆ ไม่มีวิ่งด้วย ก็เฉยๆ นะ ที่มาขายได้คือนายกหนุ่ยซื้อเป็นลูกค้าคนแรก แล้วมีสื่อมาทำรายการ เทศบาลฯ ช่วยประชาสัมพันธ์ ก็สั่งตามเว็บ ผมไม่ได้ไปวางขาย ก็ขายดี เดือนหนึ่งได้ 7-8 ลำ แล้วก็ดรอปไป ถ้าขายได้เดือนละลำสองลำก็โอเค ลำที่วิ่งได้ผมขายหมื่นห้า ช่วงโควิดก็ทำก๊อกๆ แก็กๆ ไป สถานการณ์การเป็นอยู่มันยากอยู่แล้ว พอมีโควิดก็ยิ่งยากขึ้น อย่างน้องทำงานโรงแรมก็ต้องออกมาทำสเต็กขาย ผมอายุ 59 แล้ว การศึกษาป.4 ทำงานเป็นยามประจำไม่ได้เพราะวุฒิไม่ถึง ผมก็ทำเรือจำลองดีกว่า”
มนตรี คงยนตร์
ตัวแทนชุมชนศาลเจ้าพ่อเสือ
ภูมิปัญญาเรือประมงพื้นบ้านจำลองหัวหิน
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…