“ผมเรียนกรุงเทพฯ จบมา ก็ทำงานเป็นสถาปนิก ก่อนจะเปิดบริษัทรับจัดอีเวนท์และคอนเสิร์ต ทำอยู่พักใหญ่ แล้วรู้สึกเบื่อกรุงเทพฯ ประกอบกับที่อยากกลับมาดูแลแม่ด้วย เลยตัดสินใจปิดบริษัท กลับมาเริ่มใหม่ที่หาดใหญ่
พอมาอยู่บ้าน ผมก็ทำงานคล้ายๆ กับที่กรุงเทพฯ ทำบริษัทออกแบบ และเปิดอีกบริษัทไว้ทำอีเวนท์
ทำอย่างนี้มาได้ประมาณ 2-3 ปี จนมีโอกาสไปเยี่ยมเยียน a.e.y. space ของพี่เอ๋ (ปกรณ์ รุจิระวิไล) ซึ่งเขาทำแกลเลอรี่ศิลปะและที่ฉายภาพยนตร์นอกกระแสที่ย่านเมืองเก่าสงขลา พื้นที่ดังกล่าวจุดประกายผมมาก
คือก่อนหน้านี้ผมและเพื่อนๆ ที่รักการดูหนัง ได้ตั้งกลุ่มฉายภาพยนตร์กันขึ้น โดยตั้งผ่านเพจเฟซบุ๊ค ‘เรื่องนี้ฉายเถอะคนหาดใหญ่อยากดู’ (https://www.facebook.com/HatyaiWant2see) ด้วยเหตุที่ว่าหนังหลายเรื่องที่เราอยากดู ไม่ถูกนำมาฉายในโรงหนังในบ้านเรา ก็เลยรวมกลุ่มที่ชอบดูหนังเหมือนๆ กันเพื่อชักจูงให้โรงหนังเอาหนังที่เราอยากดูมาฉาย และเมื่อไม่สำเร็จ ก็เลยติดต่อไปกับทางผู้จัดจำหน่ายหนัง หรือผู้ถือลิขสิทธิ์หนังที่เรารู้จักโดยตรงเพื่อขอหนังมาฉาย ก่อนจะหาเช่าสถานที่เพื่อฉายหนังดูกันเองเลย
แต่ความที่เราไปเช่าที่คนอื่นฉาย ก็พบข้อจำกัดหลายเรื่อง หรือบางครั้งเราเก็บค่าตั๋วจากผู้ชมได้ไม่คัฟเวอร์ค่าเช่า ก็ทำให้เราขาดทุนอีก การได้พบกับ a.e.y. space เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามาคิดว่า งั้นเราควรมีพื้นที่ฉายหนังถาวรของเราเองดีกว่า
Lorem Ipsum มีที่มาเช่นนี้ หลายคนเข้าใจว่าเราทำร้านกาแฟ แต่ priority หลักคือการเป็นโรงหนังอิสระขนาดเล็กและแกลเลอรี่ศิลปะ เราเป็นเหมือนสเปซพี่น้องกับ a.e.y. space บ่อยครั้งก็ขอหนังมาฉายโปรแกรมเดียวกัน เช่นที่สงขลาจะฉายเย็นวันศุกร์ เราก็ฉายเรื่องเดียวกันนั้นในวันเสาร์ และอาทิตย์
อาคารแห่งนี้เราเช่าจากญาติ เป็นอาคารอายุร้อยปีได้แล้ว จากที่ค้นประวัติมา แต่เดิมเป็นบ้านของคหบดีชาวปีนัง โดยได้ช่างจากอิโปห์มาสร้างให้ มีรูปแบบสถาปัตยกรรม Eclectic Style ผสมผสานทั้งจีน มลายู และไทย หลังยุคคหบดี ตึกแถวย่านนี้กลายเป็นบ้านของหมอซึ่งใช้พื้นที่ชั้นสองเป็นแล็บทำยา บ้านหลังนี้เป็นของหมอชื่อฟูหยิน ก่อนจะเปลี่ยนผ่านอีกครั้งเป็นร้านอาหารตามสั่ง และกลายมาเป็น Lorem Ipsum ในที่สุด
ร้านนี้มีหุ้นส่วน 3 คนครับ คือผม พี่ต้น และพี่โจ้ เราเปิดร้านนี้เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนโควิดระบาดพอดี ก่อนเปิดร้าน คนรู้จักหลายคนมองว่าพวกเราบ้า ตึกก็เก่า ที่จอดรถก็ไม่มี แถมบางคนยังปรามาสว่าย่านนี้ (ถนนสาย 1) ฟื้นกลับมาไม่ได้แล้ว แต่เราก็ยืนกรานว่าต้องเป็นตรงนี้ เราชอบตึกเก่าหลังนี้ และถ้าเราทำพื้นที่ศิลปะในเมือง อาคารก็ควรจะมีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับเมืองเช่นนี้
ผลตอบรับค่อนข้างดีเลยครับ วันเปิดนี่คนแน่นซึ่งเป็นธรรมดาของร้านใหม่ แต่หลังจากนั้น จากมีขาประจำมาดูหนังรอบละ 4-5 คน เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ออกไปมากขึ้น ทุกวันนี้ที่นั่งเกือบเต็มทุกรอบ หนังบางเรื่องถึงกับต้องมีเก้าอี้เสริมหรือเพิ่มรอบ
หนังที่เลือกมาฉายทั้งหมดจะไม่ชนกับหนังที่ฉายในโรงใหญ่ เราได้พันธมิตรจากทั้งผู้นำเข้าหนังอย่าง Documentary Club และสตูดิโอทำหนังในบ้านเราอย่าง Hello Filmmaker, Common Move หรือกลุ่มฉายหนังอย่าง Wildtype คัดสรรหนังมาฉายเสมอ ส่วนมากจะเก็บตั๋วเข้าชม แต่บางโปรแกรมที่มีสปอนเซอร์ก็เข้าชมฟรี ซึ่งนอกจากฉายหนัง พื้นที่ข้างบนเรายังปรับให้เป็นเวทีเสวนาด้วย เพราะปกติเราจะตั้งวงคุยกันหลังหนังจบ แต่ถ้ามีกิจกรรมพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง เราก็ตั้งวงกันในห้องนั้นได้เลยเช่นกัน
ส่วนชั้นล่าง นอกจากเปิดเป็นร้านกาแฟ เราก็มีแกลเลอรี่ที่เน้นแสดงงานศิลปะของศิลปินในเมืองหาดใหญ่และใกล้เคียง โดยจะมีนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนเดือนละ 1 ครั้ง จริงๆ เมืองเรามีศิลปินเยอะนะครับ ที่สำรวจดูคร่าวๆ รวมกับพื้นที่ใกล้เคียงด้วยเรามีมากถึง 200 คน หลายคนอาจไม่ใช่ศิลปินอาชีพ แต่ก็มีผลงานที่โดดเด่นเฉพาะตัว หรือได้รับการยอมรับระดับสากล อย่าง กร-ธนากร แซ่เตีย ช่างภาพสตรีทที่เคยแสดงงานกับเรา อาชีพจริงๆ เขาคือพนักงานร้านยูนิโคล่ที่เซ็นทรัล แต่ภาพถ่ายของเขาได้รางวัลระดับนานาชาติมาแล้ว
ผมคิดว่าภาพยนตร์และศิลปะมันดึงดูดให้คนได้มาพบกัน ไม่ใช่เฉพาะนักดูหนังหรือคนที่สนใจศิลปะ แต่ความที่เนื้อหาของสื่อนั้นๆ มันพาเราข้ามพรมแดนทางวัฒนธรรมได้ไกลกว่าที่คิด เราจึงได้รู้จักคนที่ในชีวิตประจำวันอาจไม่ได้เจอ เช่น ครั้งหนึ่งเราเคยฉายสารคดี Breaking Habits ที่เล่าถึงกลุ่มแม่ชีที่ปลูกกัญชา ก็มีกลุ่มพ่อค้ากัญชาในหาดใหญ่มาจองตั๋วหนังเรื่องนี้กับเราจนเต็มโรง หรือสารคดี Hail Satan ก็มีกลุ่มอันเดอร์กราวนด์ที่แต่งตัวจัดๆ มานั่งดูกับเรา เช่นเดียวกับฉายหนังเกี่ยวกับดนตรีแจ๊ส ก็มีกลุ่มคนฟังดนตรีแจ๊ส เป็นต้น
ปีนี้ ผมกลับมาอยู่หาดใหญ่ได้ 6 ปีแล้ว พอทำ Lorem Ipsum และได้รู้จักเครือข่ายคนรุ่นใหม่กลุ่มต่างๆ ก็ทำให้ผมพบว่าจริงๆ เมืองเราไม่ได้เริ่มจากศูนย์เสียทีเดียว จากเมื่อก่อนตอนเรียนหนังสือที่นี่ ผมพบว่าเมืองหาดใหญ่มันถูกพัฒนาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเป็นเป้าหมายหลัก เมืองไม่ค่อยมี facility สำหรับคนในเมือง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่างพวกเรา ซึ่งนั่นทำให้คนรุ่นใหม่หลายคนเลือกที่จะไปทำงานที่อื่น แต่ตลอดหลายปีหลังมานี้ การได้เห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ในการพัฒนาให้เมืองเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน ผมก็พบว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่เลือกกลับมาใช้ชีวิตและทำงานที่บ้าน
ผมบอกทุกคนเสมอว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ามากที่สุดของเมืองคือคุณภาพชีวิตของผู้คน ถ้าคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาตัวเอง และเมืองมีสุนทรียะ คุณแทบไม่ต้องโปรโมทอะไรมากเลย เพราะสิ่งนี้จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดการท่องเที่ยวเอง และลึกๆ ผมหวังว่า Lorem Ipsum จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเมืองเมืองนี้ด้วยศิลปะ เสริมสุนทรียะให้กับเมือง และเป็นพื้นที่ที่ทำให้คนรุ่นใหม่ในหาดใหญ่ได้มาพบและร่วมแบ่งปันศักยภาพส่งกลับไปสู่เมืองเมืองนี้”
เรวัฒน์ รักษ์ทอง
หนึ่งในหุ้นส่วนร้าน Lorem Ipsum
https://www.facebook.com/lorem.ipsum.space
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…