“ถ้าเป็นผู้หญิงในครอบครัวพี่จะทอผ้าได้ทุกคนค่ะ ตอนเด็กๆ เราจะรวมตัวกันตรงใต้ถุนบ้าน มียายซ้อน (ยายซ้อน กำลังหาญ) คุณยายของพี่เป็นจุดศูนย์กลาง หลานๆ จะมากองรวมกัน และทอผ้าแข่งกัน ตื่นมาลงจากบ้านก็เจอกี่ทอผ้า เราโตมาแบบนั้น ตอนเด็กๆ ชอบไม่ชอบไม่รู้ แต่เริ่มทอเป็นตั้งแต่อายุ 15 ปีแล้ว
พี่เป็นลูกสาวของยายพิมพ์ (พิมพ์ ชมพูเทศ) ได้เรียนทอผ้ามาจากทั้งยายซ้อน แม่ และคุณป้า (ยายทองอยู่ กำลังหาญ) ซึ่งทั้งสองท่านก็เรียนต่อมาจากยายซ้อนอีกที ยายซ้อนเคยทอผ้าซิ่นตีนจกถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่วังสวนจิตรลดา หลังจากนั้นพระองค์ท่านก็ทรงเสด็จมาเยี่ยมยายซ้อนที่บ้านหลังนี้ และก็เคยทรงให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปรับท่านและยายทองอยู่ มาสาธิตการทอผ้าตีนจกที่พระราชวังไกลกังวลด้วย
และตอนปี 2534 พี่ยังเป็นตัวแทนกลุ่มทอผ้าตีนจกของที่บ้านไปประกวดการทอผ้าที่วัดแคทราย เป็นผู้เข้าประกวดที่เด็กที่สุด และได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 โดยรับรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ดีใจและภูมิใจมากๆ
ทุกวันนี้บ้านคูบัวไม่ค่อยเหลือช่างที่ทอซิ่นตีนจกเท่าไหร่แล้ว ส่วนใหญ่จะทอผ้าฝ้ายทั่วไป เพราะขายได้ง่ายกว่า จะมีของแม่พี่ที่ยังทำอยู่ แรกๆ พี่ก็ทอด้วย จนพักหลังหันมาทอผ้าไหมตรานกยูงเป็นหลัก นกยูงทอง นกยูงสีน้ำเงิน และนกยูงสีเขียว เราใช้ไหมย้อมสีธรรมชาติ ได้อารมณ์ สีสัน และสัมผัสแบบธรรมชาติ ผ้าทอชนิดนี้หาคนทำยาก และกำลังเป็นที่ต้องการของนักสะสม งานพี่จึงมีคนจองซื้อกันตั้งแต่อยู่ในกี่
หลักๆ พี่ทอที่บ้านที่ลาดพร้าว 101 กรุงเทพฯ แต่เสาร์อาทิตย์ก็จะขับรถกลับมาหาแม่ที่คูบัว หรือถ้าวันไหนมีสื่อมาถ่ายทำที่คูบัว แม่ก็จะโทรเรียกให้พี่มาช่วยนั่งทอสาธิตหน่อย คุณป้าพี่ ยายทองอยู่ ซึ่งทอผ้ามาด้วยกันกับแม่ตั้งแต่เด็ก เพิ่งเสียชีวิตไป พี่ก็กำลังคิดจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่นี่
พี่มีลูกสาวสองคน คนโตได้ทุนจากรัฐบาลกำลังเรียนต่อปริญญาโทที่รัสเซีย คนเล็กเรียนปริญญาตรีปีสุดท้ายอยู่กรุงเทพฯ ลูกคนโตดูจะสนใจการทอผ้า และก็ทอได้อยู่ แต่เราไม่ได้คาดหวังให้เขาต้องมาทอผ้าเหมือนเรานะ ก็อยากให้ลูกทำในสิ่งที่พวกเขาสนใจหรือพวกเขารักจริงๆ
เหมือนกับพี่ตอนแรกๆ ที่เรียนจบมา ก็ทำงานอย่างอื่นอยู่พักใหญ่ ไม่คิดจะทอผ้าเหมือนแม่เลย แต่สุดท้าย เราก็ใช้ทักษะที่ติดตัวมาแต่เด็กประกอบอาชีพจนถึงทุกวันนี้ ลูกเราก็เหมือนกัน พี่ไม่ปิดกั้นอะไรเขา แต่ถ้าท้ายที่สุดเขาค้นพบว่าเขารักการทอผ้า และเลือกจะเป็นช่างทอ นั่นก็เป็นการตัดสินใจของเขา”
สายชล กระทู้
ช่างทอผ้าไหมตรานกยูง
ผู้สืบทอดรุ่นล่าสุดของกลุ่มทอผ้าตีนจกยายซ้อน กำลังหาญ
บ้านคูบัว อำเภอเมือง ราชบุรี
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…