“ภาษาระยองบ่งบอกถึงความจริงใจ เมื่อเราจริงใจที่จะสื่อสาร คนฟังเขาก็จริงใจที่จะพูดคุยกับเรา”

“ภาษาถิ่นระยองจะเหน่อคล้ายจันทบุรี แต่ก็มีหลายอย่างที่ต่างไป แบบฟังปุ๊บก็รู้ปั๊บว่านี่คนระยอง เช่น เวลาคนระยองมีธุระต้องรีบไปจะพูดว่า ‘กะเหลือกะหลน’ ขับรถตกหลุม จะบอกว่าขับรถตก ‘กะหลุก’ ทำอะไรไม่คล่องตัวเขาว่า ‘กะงอกกะแงก’ แต่หลายคำก็เหมือนคำภาคกลางที่ใช้กันทั่วไป แต่เราจะออกเสียงต่ำกว่า เช่นไปวัด เราบอกว่า ‘ไปวั่ด’ ทุเรียนเราเรียกว่า ‘ทุ่เรียน’ และแน่นอน อย่างที่ทราบกันพูดอะไรเรามักลงท้ายว่า ‘ฮิ’

ตั้งแต่เกิดมาทั้งคนในหมู่บ้าน พ่อแม่ปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอา เขาก็พูดด้วยสำเนียงระยองแบบนี้ ผมโตมาจึงพูดแบบนี้ เวลาไปบรรยายในเวทีสาธารณะ ตอนหนุ่มๆ ก็เคยพยายามพูดด้วยภาษากลางแบบคนทั่วไป แต่สักพักสำเนียงผมก็กลับระยอง ทุกวันนี้ผมพูดกับผู้ว่าฯ ก็พูดด้วยภาษาระยองแบบนี้

อย่างไรก็ดี ความที่ระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรม ผู้คนต่างถิ่นเข้ามาทำงานเยอะ ส่วนคนรุ่นใหม่ก็ย้ายไปเรียนหนังสือที่อื่น เราจึงไม่ค่อยได้ยินคำว่า ‘ฮิ’ แถวเขตอำเภอเมืองแล้ว แต่ตำบลกะเฉดบ้านผม ความที่คนส่วนมากทำการเกษตร ปลูกสวนทุเรียน ปลูกยางพารา จึงยังมีคนระยองดั้งเดิมอยู่เยอะ ภาษาบ้านเราจึงมีคนพูดมากกว่าครึ่ง

ผมคิดว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้ายุคสมัยจะทำให้ภาษาแบบนี้เลือนหายไป จึงร่วมกับทั้งทางจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด และสถาบัน RILA (สถาบันการเรียนรู้ของคนทุกช่วงวัย) ก่อตั้งชมรมภาษาถิ่นระยองขึ้น เพื่อให้เป็นต้นแบบในการเผยแพร่และอนุรักษ์ภาษาถิ่นให้หลายๆ หน่วยงาน โดยเน้นไปที่เยาวชนในจังหวัดระยอง

เริ่มจากภายในโรงเรียนที่ให้คุณครูสอดแทรกการใช้ภาษาถิ่นเข้าไป และทำให้เด็กๆ กล้าแสดงออก ไม่อายที่จะพูดภาษาถิ่นตัวเอง มีการจัดประกวดพูดจาภาษาถิ่นตามโรงเรียนต่างๆ รวมถึงในเทศกาลระดับอำเภอและจังหวัด อย่างงานวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและงานกาชาด ก็มีการแข่งขันพูดภาษาถิ่นชิงเงินรางวัลด้วย

พร้อมกันนั้น สถาบัน RILA ก็จัดทำหนังสือรวมคำศัพท์ภาษาถิ่นระยองและวิธีการใช้ให้เด็กๆ ได้ศึกษา รวมถึงพยายามค้นคว้าเพิ่มเติมว่าที่มาของภาษาเราแบบนี้มาจากไหน เพราะต้องยอมรับว่าถึงคนระยองจะพูดกันหลายต่อหลายรุ่น แต่ก็ยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นระบบเสียทีถึงรากเหง้าในภาษาของพวกเราเอง 

ถามว่าทำไมคนรุ่นใหม่ต้องเรียนภาษาระยอง ผมคิดว่าเพราะมันเป็นสมบัติที่ติดตัวเรามา ผมไม่ได้ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ได้ปฏิเสธเทคโนโลยี หรือการพัฒนา แต่คงดีถ้าคนรุ่นใหม่เข้าถึงความเจริญ แต่ก็ยังรู้จักรากเหง้าตัวเอง ยังคงรักษาอัตลักษณ์ที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว

หรือมองในมุมเศรษฐกิจก็ได้ อย่างที่รู้กันว่าระยองเรามีทุเรียนหมอนทองที่คุณภาพดีมาก ทุเรียนเราถูกส่งขายไปทั่ว แต่ช่วงหลังๆ มีพ่อค้าหัวใสหลายคนที่ไม่ใช่คนระยอง เอาทุเรียนจากที่ไหนไม่รู้มาขายตามต่างจังหวัด และไปโกหกลูกค้าว่านี่เป็นทุเรียนระยอง พอลูกค้ากิน พบว่าไม่อร่อยเท่า เราก็เสียชื่อ แล้วลูกค้าจะรู้ได้ยังไงว่าทุเรียนที่ซื้อไปเป็นของระยองแท้ๆ นั่นไง การพูดด้วยภาษาถิ่นหรือมีสำเนียงแบบระยองนี่แหละ เป็นเครื่องการันตีได้ดีที่สุดว่านี่แหละคนระยองมาเอง (ยิ้ม)

ผมจะบอกเด็กรุ่นใหม่อยู่เสมอว่าอย่าอายที่จะพูดแบบคนระยอง ตอนผมไปเรียนปริญญาโทที่กรุงเทพฯ ตอนแรกเพื่อนก็หัวเราะกับสำเนียงของผม ผมไม่อาย เพราะนี่เป็นตัวผม ขณะเดียวกันที่ไม่รู้สึกอายเพราะเพื่อนไม่ได้หัวเราะเพื่อดูถูก เขาแค่พบว่าสำเนียงเราแปลกดี ที่สำคัญผมว่าสำเนียงแบบนี้มันบ่งบอกถึงความจริงใจ เมื่อเราจริงใจที่จะสื่อสาร คนฟังเขาก็จริงใจที่จะพูดคุยกับเรา”  

ประโยชน์ มั่งคั่ง
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกะเฉด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
ผู้ก่อตั้งชมรมอนุรักษ์ภาษาถิ่นระยอง

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

4 days ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

2 weeks ago