“ผมเคยไปทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทผลิตรถที่ประเทศญี่ปุ่น และได้รู้จักจังหวัดเล็กๆ ชื่อ ไอจิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหุบเขาโครังเค ในแต่ละปีคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่หุบเขานั้นเป็นประจำ ตัวเมืองเขาจะเล็กๆ เงียบๆ แต่ทุกคนก็จดจำเมืองนี้ได้เพราะโครังเค
ไอจิทำให้ผมคิดถึงลำปาง ความที่เมืองเราถูกจดจำในฐานะเมืองผ่าน แต่ขณะเดียวกันเราก็มีทรัพยากรที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ลำปางถูกจดจำในฐานะเมืองรถม้า เมืองเซรามิก หรือที่หลายคนอาจไม่ทราบว่าเราเป็นที่ตั้งของโรงงานครั่งที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย ขณะเดียวกันตามพื้นที่รอบนอก ลำปางก็เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพของภูเขาที่งดงาม ผมเคยคิดเล่นๆ ว่าถ้าหน่วยงานท้องถิ่นลองร่วมมือกันปลูกไม้ดอกที่เป็นเอกลักษณ์ริมถนนนอกเมืองสักสาย ทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่เมื่อถึงเวลาต้นไม้ผลิดอกออกสีสันสดใส คงช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ไม่น้อย อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่แบบโครังเค แต่เรามีศักยภาพที่ทำให้โดดเด่นได้ ซึ่งมันก็ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วย
อีกอย่างหนึ่งคือลำปางเราไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้มาเยือนเท่าไหร่ เพราะแม้เราจะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ อย่างวัดพระธาตุดอยพระฌานที่มีพระใหญ่ไดบุตซึประดิษฐานอยู่ หรือวัดเฉลิมพระเกียรติ แต่เรากลับขาดการเชื่อมโยงสถานที่เหล่านั้นเข้าด้วยกัน เลยคิดถึง One Day Bus หรือทัวร์แบบ hop on hop off แบบต่างประเทศ นักท่องเที่ยวเสียค่าตั๋วรอบเดียว สามารถขึ้นลงรถบัสได้ไม่จำกัด และใช้รถนี้วิ่งเชื่อมเส้นทางต่างๆ ทั้งในเมืองและแหล่งท่องเที่ยวโดยรอบ มันจะกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่มาเที่ยวง่ายขึ้นโดยไม่ต้องหาเช่ารถขับ และก็ทำให้เขาอยู่กับเราอย่างน้อยๆ ก็หนึ่งคืน
คือถ้ามองลำปางในฐานะประเทศประเทศหนึ่ง ผมคิดว่าเรายังขาดดุลอยู่พอสมควร เพราะแม้เราจะเป็นเมืองอุตสาหกรรมเซรามิก แต่ pain point ก็คือ โรงงานเกือบทั้งหมดต้องนำเข้าวัตถุดิบมาจากที่อื่นและจากต่างประเทศ แต่ถ้าเราสร้างความร่วมมือให้ชาวบ้านผลิตวัตถุดิบส่งโรงงานล่ะ มันอาจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้มากกว่านี้ครับ
เพราะอย่าลืมว่าลำปางเรามีต้นทุนที่ดีมากๆ ทั้งทำเลที่เชื่อมจังหวัดในภาคเหนือตอนบน ตอนล่าง และทางตะวันออกเข้าด้วยกัน เราน่าจะพัฒนาโลจิสติกให้เพิ่มมูลค่ากว่านี้ได้ อาจเป็นเขต warehouse area เชื่อมต่อการขนส่งอย่างมีศักยภาพ ในด้านการเกษตรเรามีสับปะรดที่มีคุณภาพ แต่ทุกวันนี้พอฤดูกาลสับปะรดทีไร ก็ยังเห็นเกษตรกรเอามาขายถูกๆ ริมถนนอยู่เลย รัฐน่าจะดีลตลาดต่างประเทศได้ดีกว่านี้ เพราะแม้ของที่ดูเยอะๆ แล้วเหมือนไม่ได้แพงมากของเมืองเรา อย่างสับปะรด เซรามิก หรือครั่ง แต่มันมีมูลค่าอย่างสูงในต่างประเทศ รัฐควรหาตลาดให้เจอเพื่อทำให้คนลำปางมีรายได้มากกว่านี้
นั่นล่ะครับ อยากให้มองลำปางเป็นประเทศประเทศหนึ่ง ถ้าเราทำให้ประเทศพึ่งพาตัวเอง และสามารถทำการค้ากับภายนอกได้ เศรษฐกิจในประเทศก็ดี ไม่มีใครอยากย้ายไปอยู่ที่อื่น พอเป็นแบบนั้น ผู้คนในประเทศก็จะมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศของเรา หรือจริงๆ แล้วคือทำให้เมืองของเราน่าอยู่ครับ”
สุรเชษฎ์ รอบคอบ
อดีตวิศวกรเครื่องยนต์ และเจ้าของร้านลาบหลังวัง
และแบรนด์น้ำสลัดปลอดสารเคมี ‘ลีนน์’ (Leann)
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…