“เมื่อก่อนผมอยู่ชุมชนป้อมหนึ่ง ใกล้ๆ ตลาดลาวในตัวเมืองนครสวรรค์ ที่เรียกว่าตลาดลาวนี่ไม่ใช่คนลาวหรอก แต่เป็นคนจากภาคเหนือล่องเรือขนสินค้ามาขาย บางส่วนก็มาตั้งรกรากที่ปากน้ำโพ คนจีนที่นี่เรียกคนเหนือว่าลาว ก็เลยเรียกตลาดลาว แต่หลังๆ มาก็กลายเป็นคนเชื้อสายจีนอยู่เสียเยอะ
ตลาดลาวอยู่ติดแม่น้ำปิง เดินเท้าไปไม่ไกลก็คือปากแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงพาสานบนเกาะยมนั่นแหละ พวกเราอยู่ทันเห็นสมัยที่ตรงนั้นเป็นศูนย์กลางของการขนส่งทางเรือ ตรงตลาดเทศบาลก็มีท่าเรือที่รับคนไปชุมแสง อีกสายไปก้าวเลี้ยว ขณะที่เรือที่สวนมาส่วนหนึ่งจะเป็นเรือขนข้าวสารไปส่งภาคเหนือ ถ้าใครจะเดินทางไปภาคเหนือ ก็มาขึ้นเรือหางยาวที่นี่
สมัยก่อนแม่น้ำกว้างกว่านี้ แม่น้ำจะอยู่ติดตึกเลย ซุงลอยเต็มแม่น้ำโดยส่วนใหญ่จะมาจอดตรงท่าเดชาฯ ตอนเป็นเด็ก ผมยังไปวิ่งเล่นบนซุงที่มันลอยแพมาเลย
ส่วนศูนย์กลางการค้าบนฝั่ง ต้องตึกเหลืองและตึกแดง อยู่ติดกับตรอกท่าเรือจ้าง คนขายของในนั้นเต็มไปหมด เขาก็เอาของที่ขนส่งกันทางเรือขึ้นฝั่งมาขาย ยังไม่มีห้างสรรพสินค้าอย่างทุกวันนี้
จนมีการสร้างถนนเชื่อมนครสวรรค์เข้ากรุงเทพฯ และมีการสร้างสะพานเดชาติวงศ์นั่นแหละ การคมนาคมขนส่งทางเรือจึงค่อยๆ หายไป นครสวรรค์จึงเปลี่ยนบทบาทจากศูนย์กลางขนส่งทางเรือ มาเป็นเมืองที่คนขับรถต้องแวะพักก่อนเดินทางขึ้นภาคเหนือ หรือคนจากภาคเหนือเดินทางลงภาคกลาง
พอเรียนจบ ผมก็ย้ายจากตัวเมืองไปบรรจุอยู่โรงเรียนรอบนอก จนใกล้เกษียณก็ย้ายกลับเข้ามา ตอนนี้อยู่ชุมชนหนองปลาแห้ง แล้วความที่ลูกไปเรียนมหาวิทยาลัยและรวดทำงานที่กรุงเทพฯ ก็เลยมีเวลามาทำอาสาสมัครชุมชน ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นประธานชุมชน เป็นมาได้ 3 สมัยแล้ว
ชุมชนหนองปลาแห้งมีอยู่ราว 160 ครัวเรือน แต่เดิมที่ดินตรงนี้เป็นวัดเก่าแก่ เลยเป็นที่ของสำนักพุทธศาสนา ลูกบ้านบางส่วนเป็นทหารเกษียณมาอยู่ บางส่วนเป็นพนักงานของบริษัทเสริมสุข เพราะชุมชนนี้อยู่ใกล้ทั้งค่ายทหาร (ค่ายจิรประวัติ) และโรงงานของเสริมสุข ที่ผมมาทำงานชุมชน เพราะผมเป็นครูมาก่อน มีความรู้ มีทักษะในการประสานงานกับราชการ ขณะเดียวกันก็มีเวลาพอ และก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องรายได้เพราะมีบำนาญอยู่แล้ว เลยอยากมาช่วยเหลือสังคม
ถ้าเฉพาะในชุมชนของเรา ผู้สูงอายุเยอะครับ เรามี 160 ครัวเรือน จำนวนผู้สูงอายุนี่ร้อยกว่าราย เด็กๆ แทบไม่มี คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ก็ไปทำงานต่างเมืองหมด แต่ในภาพรวมในเขตเทศบาล เราเริ่มเห็นคนรุ่นใหม่กลับเข้ามาบ้างแล้วนะ เป็นแนวโน้มที่ดี แต่ในระดับชุมชนเล็กๆ คณะกรรมการชุมชนอย่างพวกเราก็ต้องพึ่งพาสาธารณสุขบ่อยหน่อย เพราะต้องช่วยกันดูแลคนแก่
ที่ชอบเมืองนี้ เพราะผู้คนรักกันดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เคารพซึ่งกันและกัน รวมถึงเชื่อในบรรพบุรุษ และเพราะเป็นแบบนี้ประเพณีตรุษจีนของเราจึงเข้มแข็งและมีชื่อเสียง หรือในระดับชุมชนที่ผมดูแล เห็นเงียบๆ แบบนี้ แต่ทุกคนให้ความร่วมมือดีมากเลยนะ ใครลำบากอะไร ก็พร้อมช่วยเหลือ มีจิตสาธารณะ อย่างเช้ามา ตี 5 คนในชุมชนบางส่วนเขาก็ตื่นขึ้นมากวาดถนน ทำความสะอาดซอยบ้านตัวเองกัน ก่อนจะรอใส่บาตรพระ เทศบาลเขายังมาชมเลยว่าชุมชนเราสะอาด
และวิถีชุมชนของเราแบบนี้ ยังปรากฏในหลายชุมชนทั่วเมืองนครสวรรค์นะ จริงอยู่ ถ้าในย่านการค้าใจกลางเมืองมันอาจจะไม่ค่อยมีแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต่างคนต่างอยู่ เขาก็สร้างความร่วมมือในแบบอื่นๆ โดยเฉพาะกับความร่วมมือกับทางเทศบาลในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับเมือง
ขณะเดียวกัน ผมเชื่อว่าคนในเมืองส่วนใหญ่ทราบดีว่าเมืองกำลังจะมีการพัฒนาครั้งใหญ่ในอีกไม่ช้า ทั้งศูนย์การค้า รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ และอื่นๆ แต่ผมเชื่อว่า ถ้าคนนครสวรรค์ยังรักษาจุดเด่นด้านความร่วมมือและจิตสาธารณะแบบนี้ไว้ได้ เมืองของเราน่าจะเติบโตไปอย่างมีทิศทาง”
ประสิทธิ์ พงษ์ไพบูลย์ และบุปผา พงษ์ไพบูลย์
ประธานชุมชนหนองปลาแห้ง และประธานอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) เทศบาลนครนครสวรรค์
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…