“ผมเป็นครูสอนวิชาศิลปะโรงเรียนเทศบาล 6 ทุ่งศรีเมืองประชาวิทย์ และสอนวิชาดนตรีในชั่วโมงวิชาชุมนุม ก็จะชวนเด็กๆ ที่สนใจอยากเล่นดนตรี พอมีแวว หรือมีพื้นฐานทางดนตรีมาซ้อมวงกัน
โรงเรียนเราเปิดสอนระดับอนุบาล 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเป็นโรงเรียนร่วม รับเด็กที่บกพร่องด้านการเรียนรู้มาเรียนด้วย จึงมีวิชาชมรมที่ให้ความสำคัญกับกิจกรรมเสริมเพื่อช่วยพัฒนาการด้านการเรียนรู้แก่เด็กๆ
ต้องยกเครดิตให้ผู้อำนวยการโรงเรียน อาจารย์กิ่งเพชร ธารพร ที่คอยสนับสนุนชมรมดนตรี ซึ่งไม่เพียงการสนับสนุนเครื่องดนตรีให้เด็กๆ ได้ฝึกซ้อม แต่ยังเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้วงดนตรีของโรงเรียนได้จัดแสดงตามอีเวนท์สำคัญๆ ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ไปจนถึงงานระดับจังหวัดด้วย
วงดนตรีของโรงเรียนชื่อวงดอกพะยอมครับ มีสมาชิกด้วยกัน 13 คน ก็จะผลัดเปลี่ยนเป็นรุ่นๆ ไป ถ้าพี่ ป.6 เรียนจบ ก็จะรับสมาชิกใหม่ ขณะนี้สมาชิกอายุน้อยสุดเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เล่นตำแหน่งคีย์บอร์ด
ผมจะสอนเด็กๆ ทุกเครื่องดนตรีเลย โดยผสานดนตรีไทยสากลที่เด็กๆ ชอบอยู่แล้ว เข้ากับดนตรีลูกทุ่งและดนตรีพื้นบ้านอีสาน และใช้เครื่องดนตรีโปงลางซึ่งเป็นเครื่องดนตรีเอกลักษณ์ของกาฬสินธุ์มาบรรเลงประกอบ ส่วนใหญ่จะซ้อมช่วงพักเที่ยง พอเด็กๆ กินข้าวเสร็จ ก็มารวมตัวกันในห้องซ้อม หลักๆ นอกจากสอนวิธีการเล่นดนตรีแล้ว ผมจะสอนเรื่องการทำงานร่วมกันเป็นทีม ให้ทุกคนสามัคคีกัน เพราะถ้าสมาชิกไม่สามัคคี เราก็จะบรรเลงเป็นเพลงไม่ได้
อีกเรื่องคือการฝึกฝนให้เด็กๆ เกิดสมาธิและรู้จักความอดทน เพราะดนตรีมันไม่ใช่แค่หัดสองสามวันแล้วจะขึ้นเพลงได้เลย ยิ่งเด็กวัยนี้เขาจะติดเพื่อนและติดเล่นกันด้วย ผมก็จะบอกเขาว่าถ้าถึงเวลาซ้อมก็ขอให้มีสมาธิเต็มที่ บางครั้งซ้อมไปก็มีเด็กๆ น้ำตาซึมกันบ้าง แต่เราก็อยากให้เขาจริงจัง และรู้จักถึงประโยชน์ส่วนรวม ให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่
วงดอกพะยอมส่วนมากจะเล่นในกิจกรรมโรงเรียน ตอนเลิกเรียนวันอังคารและพฤหัสบดี บางครั้งก็ไปโชว์ที่ถนนคนเดินตลาดสร้างสุขบ้าง งานระดับเทศบาลและระดับจังหวัด เราก็ไปแสดงมาด้วย ล่าสุดไปแสดงที่งานฟื้นใจเมืองตรงริมน้ำปาว มีผู้ใหญ่มาถามว่าวงเรารับงานไหม ผมก็จะไปคุยกับ ผอ.กิ่งเพชร เรื่องรับงานว่าสะดวกให้เด็กๆ ไปไหม
ค่าจ้างจะแบ่งให้สมาชิกในวงเท่ากันหมดแหละครับ เด็กได้ค่าขนม พวกเขาก็ดีใจ แต่สำคัญกว่านั้น คือการที่พวกเขามีสมาธิ และสามารถทำงานเป็นทีมได้ ไม่ว่าพวกเขาจะโตไปทำอาชีพอะไร ถ้ามีพื้นฐานตรงนี้ ไปต่อได้ง่ายทั้งนั้นครับ”
เสนีย์ การกระจ่าง
ครูสอนศิลปะโรงเรียนเทศบาล 6 ทุ่งศรีเมืองประชาวิทย์
และผู้ควบคุมวงดนตรีดอกพะยอม
“ระบบนิเวศอีสปอร์ตคือฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะผ่านการยกระดับศักยภาพของผู้คน” ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน สื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Instagram หรือ YouTube ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางสื่อสารหรือความบันเทิงอีกต่อไป หากแต่กลายเป็นเครื่องมือสร้างอาชีพ และพัฒนาทักษะของผู้คนทั่วโลก เช่นเดียวกับ “อีสปอร์ต” (Esports) หรือการแข่งขันวิดีโอเกม ที่เริ่มต้นในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ…
เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ไม่ใช่แค่เรื่องของเซ็นเซอร์ แพลตฟอร์ม หรือระบบ AI ที่แม่นยำ แต่หัวใจที่แท้จริงของมันคือ “ผู้คน” – เพราะถ้าขาดการรับฟังเสียงสะท้อน หรือกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เมืองจะไม่มีวันรู้ว่าควรก้าวไปทางไหนแต่ในโลกหลังโควิด-19 ที่ลานกิจกรรมถูกแทนที่ด้วยหน้าจอมือถือ—หน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่บริหารเมืองกลับเข้าไม่ถึงประชาชนได้มากพอ…
“แม้จะเป็นการเล่นเกม แต่นครสวรรค์ก็ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะนี่จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่เปลี่ยนให้เมืองผ่านกลายมาเป็นจุดหมายของใครหลายคน” เมื่อเอ่ยถึงนครสวรรค์ คุณนึกถึงอะไร? ประตูสู่ภาคเหนือ, “เมืองปากน้ำโพ” ชุมทางการค้าทางเรือในอดีต, เทศกาลตรุษจีน, ขนมโมจิ, ดินแดนอาหารอร่อย หรือ “พาสาน” แลนด์มาร์กแห่งใหม่กลางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ภาพจำเหล่านี้คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึง…
“เรามีโครงสร้างพื้นฐานในการเป็นสมาร์ทซิตี้พร้อมแต่ที่ผ่านมา เรายังไม่มีกลไกในการพัฒนาบุคคลในกรอบนี้และอีสปอร์ตจะกลไกหนึ่ง ที่เริ่มต้นจากเด็กและเยาวชน” ไม่เพียงแต่เทศบาลนครนครสวรรค์จะเป็นหนึ่งในเทศบาลแห่งแรกที่ได้รับการคัดเลือกโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ให้เป็น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ตั้งแต่ปี 2564 หากแต่ในปัจจุบัน เทศบาลนครซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ…
“ผมไม่ได้ฝันว่าจะต้องมีซิลิคอนวัลเลย์ในนครสวรรค์แต่หวังว่าเราจะสามารถสร้างงานให้เด็กคนหนึ่งไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯไม่ต้องทิ้งบ้านเกิดไปเพราะไม่มีโอกาส” “ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลพาโลกไปไกล เกมกลายเป็นสื่อที่ช่วยให้เด็กเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างน่าทึ่งผมยกตัวอย่างลูกชายผม เขาเรียนอยู่ ป.1 มีเกมอยู่ 2 เกมที่เขาเล่นประจำ คือ Sprunki และ Roblox สองเกมนี้เน้นเรื่องการแปรรูปจินตนาการให้กลายเป็นรูปธรรม ตอนแรกผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกมนี้หรอก จนมาศึกษา…
“ผมไม่ได้ปฏิเสธการศึกษาในระบบ แต่ถ้าเราสามารถสร้างทางเลือกให้กับเด็กที่มีความฝันจริงจังผู้ใหญ่อย่างพวกเราก็ควรต้องหาวิธีส่งเสริมพวกเขา” “สำหรับการขับเคลื่อนอีสปอร์ตให้กลายเป็นหนึ่งในกลไกการพัฒนาเมือง ผมมองออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือ ผมเคยสอนวิชาอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ที่คณะบริหารและการจัดการ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และตระหนักดีว่าสิ่งที่ทำให้ศาสตร์นี้ รวมถึงศาสตร์อื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับโลกดิจิทัล สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับผู้เรียน…