สิ่งที่น่าดีใจคือได้เห็นชาวบ้านตระหนักในต้นทุนด้านสุขภาพ และการออมทรัพย์ของตัวเอง เพราะเมื่อพวกเขามีเงินเก็บและมีสุขภาพที่ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้นตามมา

“ในส่วนของโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ปากพูน พวกเรารับผิดชอบในโครงการย่อยที่ 5 การประเมินและพัฒนาระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนปากพูน ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าโครงการให้ไปสอบถามชาวบ้านในชุมชนและเจ้าหน้าที่จากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นว่าชุมชนประสบปัญหาเรื่องใด และต้องการให้โครงการวิจัยมาหนุนเสริมเรื่องใดเป็นพิเศษ

เราทำแบบสอบถามและการสัมภาษณ์จากชาวบ้านใน 12 หมู่บ้านของตำบลปากพูน โดยได้กลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นวัยทำงานอายุระหว่าง 21-60 ปี เกือบ 400 คน พร้อมไปกับการจัดเวทีชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในภาพรวมเราพบว่าชาวปากพูนมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ในแง่มุมด้านสุขภาพ การทำงาน และสัมพันธภาพ ยังอยู่ในระดับปานกลาง โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่มีสองเรื่องหลักคือ อาการเจ็บป่วยจากการทำงาน และอีกเรื่องคือปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากชาวบ้านยังขาดการออมทรัพย์

พอทราบเช่นนั้น ควบคู่ไปกับการจัดกระบวนการการเรียนรู้ของโครงการย่อยอื่นๆ เราก็ได้ร่วมกับนักวิชาการจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมาให้ความรู้ในการดูแลร่างกายแก่ชาวบ้าน โดยเฉพาะโรคกล้ามเนื้อที่เกิดจากการทำงานของชาวสวนและชาวประมง รวมถึงโรคกระดูกที่เกิดในผู้สูงวัย

ส่วนประเด็นด้านการออมทรัพย์ เราได้ชวนนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชมาจัดกิจกรรมให้ความรู้ในด้านการทำบัญชีรายรับรายจ่าย มีการทำประเมิน ROI หรืออัตราส่วนของกำไรสุทธิกับค่าใช้จ่าย พร้อมให้ทำแบบฟอร์มการบันทึกบัญชีอย่างเป็นระบบ แทนที่จะบันทึกใส่สมุดแบบเดิม และทีมเราก็เข้ามาตรวจสอบและให้คำแนะนำทุกๆ สัปดาห์

การประเมินครั้งนี้ทำให้เราทราบว่าที่ผ่านมาชาวบ้านมักไม่ใส่ต้นทุนค่าแรงและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของตัวเองในบัญชีด้วย ส่วนใหญ่ก็คิดว่าหาหรือผลิตผลิตภัณฑ์มาได้เท่าไหร่ ขายได้กำไรเท่าไหร่ และมีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจไปเท่าไหร่ ซึ่งเมื่อเราแนะนำให้ใส่ต้นทุนค่าแรงตัวเองไปด้วย ก็พบว่ากำไรที่เขาคิดว่าได้มาตลอดกลับลดลง

นั่นทำให้ชาวบ้านหันกลับไปจัดการต้นทุนตัวเองใหม่ ประกอบกับการได้องค์ความรู้เรื่องดูแลสุขภาพ พวกเขาก็มีความระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น เพราะตระหนักดีว่าหากมีอาการบาดเจ็บหรือล้มป่วยจนต้องหยุดงาน รายได้ก็จะลดลง ซึ่งเมื่อพวกเขาตระหนักในเรื่องนี้แล้ว ก็จะทำให้การทำงานมีความรัดกุมและเป็นระบบยิ่งขึ้น ปรากฏว่าเมื่อเราทำการประเมินชาวบ้านหลังเสร็จสิ้นโครงการ ผลกำไรของพวกเขาสูงขึ้นมาด้วยจริงๆ เป็นที่พอใจของทั้งเราและชาวชุมชนอย่างมาก

นอกจากนี้เรายังได้ทำการประเมิน SROI หรือผลตอบแทนทางสังคมจากโครงการย่อยต่างๆ ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านหลายคนไม่เคยคิดมาก่อน หากเมื่อผลการประเมินออกมา ก็ส่งผลบวกต่อชุมชนค่อนข้างมาก

ยกตัวอย่างเช่นผลการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในโครงการอุโมงค์ป่าโกงกาง ที่ซึ่งภายหลังที่โครงการวิจัยเข้ามาผลักดันการพัฒนาคุณภาพน้ำผึ้งและบรรจุภัณฑ์ และการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต เสริมเข้ากับการทำประมงพื้นบ้านที่มีอยู่เดิม ก็พบว่ามูลค่าทรัพยากรในป่าโกงกางสูงอย่างที่ชาวบ้านไม่เคยคาดคิดมาก่อน ยังไม่รับรวมความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนซึ่งส่งผลต่อภาพรวมในด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชน สิ่งนี้ก็ทำให้พวกเขาตระหนักถึงคุณค่าของพื้นที่ นำมาสู่จิตสำนึกหวงแหน และการสร้างแนวทางอนุรักษ์พื้นที่ในลำดับถัดไป 

หรือการประเมินโครงการ ‘พร้าวผูกเกลอ’ ที่ทีมวิจัยลงไปสร้างเครือข่ายเพื่อยกระดับผู้ประกอบการสวนมะพร้าว จากการประเมินก่อนเริ่มโครงการ จะพบว่ายอดขายของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทรงตัว แต่เมื่อมีการผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การทำแบรนด์ การทำสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงเชื่อมผู้ประกอบการสู่การจัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ เมื่อมีการประเมินหลังโครงการแล้วเสร็จ ก็พบว่าชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งสวนมะพร้าวต่างๆ ยังสามารถเป็นต้นแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ได้อีกด้วย

แม้โครงการเมืองแห่งการเรียนรู้จะมีข้อจำกัดเนื่องจากเป็นโครงการที่ได้รับทุนจาก บพท. ในระยะเวลา 1 ปี แต่เนื่องจากทีมของเรามองเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาในมิติต่างๆ ของชุมชน ในฐานะนักวิจัยเราจึงพยายามเชื่อมสัมพันธ์กับคนในพื้นที่ และกระตุ้นให้นักศึกษาซึ่งเราพาพวกเขามาลงพื้นที่ด้วยทุกครั้ง มองหาแง่มุมในการทำวิจัยในพื้นที่ต่อในโอกาสต่อๆ ไป เพื่อหวังให้งานวิชาการเป็นอีกหนึ่งกลไกในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนแห่งนี้อย่างยั่งยืนต่อไป”

นอรินี ตะหวา และหทัยรัตน์ ตัลยารักษ์
อาจารย์สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และนักวิจัยโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ปากพูน

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

3 weeks ago