“หนังสือพิมพ์ผมอยู่ได้ เพราะยังมีคนรุ่นผมอ่านอยู่ แต่หมดรุ่นนี้ไป ก็คงไปต่อไม่ได้แล้ว”

“สมัยก่อนผมเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำจังหวัดพิษณุโลก ความที่หนังสือพิมพ์แต่ละวันมีจำนวนหน้าจำกัด และเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วยังไม่มีอินเตอร์เน็ท หลายข่าวที่ผมเขียนส่งไป บรรณาธิการไม่ได้เอาไปตีพิมพ์ ก็เลยเกิดเสียดาย ทั้งๆ ที่บางข่าวมันเป็นประโยชน์ต่อคนพิษณุโลก จึงตัดสินใจเปิดหนังสือพิมพ์เป็นของตัวเอง ชื่อว่า ประชามติ

ผมเป็นสมาชิกของสภาหนังสือพิมพ์แห่งชาติอยู่แล้ว ก็ทำเรื่องไปขออบรมผู้บริหารสื่อระดับสูง เพื่อจะได้ออกมาทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น โดยทำเป็นรายปักษ์ ออกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน


ตอนแรกผมก็ทำของผมคนเดียว จนหลังๆ มีทีมงานมาช่วย โดยจ้างโรงพิมพ์เขาพิมพ์ให้ โรงพิมพ์เขาคิดเราครั้งละ 20,000 บาท จ่ายไปจ่ายมา ก็พบว่าต้นทุนสูง ถ้างั้นเราลงทุนทำโรงพิมพ์ของเราเองดีกว่า จะได้รับงานพิมพ์สิ่งพิมพ์อื่นๆ ในเมืองพิษณุโลกด้วย

ตอนนี้ทำมาสี่สิบกว่าปีแล้วครับ ผมไม่ได้ทำข่าวเองแล้ว จะมีทีมงานทำ ผมจะดูภาพรวม ถามว่ายังอยู่ได้ไหม ก็อยู่ได้นะ เราขายเล่มละ 10 บาท เดี๋ยวนี้ไม่มีโฆษณา เพราะเขาไปลงทางออนไลน์หมด แต่ยอดจำหน่ายก็ครอบคลุมกับต้นทุน แถมมีกำไรนิดหน่อย เลยทำมาได้จนถึงทุกวันนี้

แน่นอน เดี๋ยวนี้คนไม่อ่านหนังสือพิมพ์กันแล้ว เพราะข่าวสารส่วนใหญ่มันอยู่บนจอมือถือหมด แต่ความที่ประชามติมันอยู่คู่กับวิถีชีวิตคนพิษณุโลกมานาน และเราทำข่าวเกี่ยวกับชุมชน ความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับสังคมเมือง ไปจนถึงข่าวมรณกรรม และรายงานผลสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงยังมีคนอ่านประจำอยู่ แต่ผมก็คิดว่าพอหมดคนอ่านรุ่นนี้ไป ก็น่าจะขายยากแล้ว

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มันก็เป็นภาพสะท้อนของเมืองพิษณุโลกด้วย ผมจำได้ว่าสมัยก่อนเมืองเราเล็กมาก ผมโตมาในย่านอมรินทร์นคร แต่ก็เดินเท้าถึงกันหมดทั้งตลาดใต้ สถานีรถไฟ ไปจนถึงแถววัดใหญ่ ผู้คนก็รู้จักกันหมดว่าใครเป็นใคร หนังสือพิมพ์จึงมีอิทธิพลมาก แต่พอยุคสมัยมันเปลี่ยน คนต่างถิ่นเข้ามาเยอะ ลูกหลานพิษณุโลกก็ออกไปทำงานที่อื่นมาก ความสัมพันธ์แบบชุมชนเมืองดั้งเดิมเลยหายไป คนอ่านหนังสือพิมพ์ผมก็จะเหลือแต่คนที่เคยโตๆ มาด้วยกันและยังอาศัยอยู่เมืองนี้

พอได้เห็นว่าทางมหาวิทยาลัยนเรศวรพยายามเข้ามาทำโครงการฟื้นฟูตลาดใต้ผ่านเรื่องเล่าและความทรงจำของคนในย่าน ผมจึงยินดีให้ความร่วมมืออย่างมาก เพราะถึงผมไม่ได้เป็นคนตลาดใต้ แต่ผมก็เดินมาจ่ายตลาดที่นี่บ่อยๆ รวมถึงดูหนังที่โรงหนังในตลาดใต้ตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ยังเป็นโรงหนังสำเนียงวัฒนา ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโรงหนังศิวาลัย และเป็นโรงหนังกิตติกรในที่สุด จนเขาปิดตัว ถูกทุบทิ้ง และกลายเป็นทาวน์เฮ้าส์หลังโรงงิ้วในทุกวันนี้

ผมจึงร่วมโครงการนี้ด้วยการไปบอกเล่าความทรงจำที่ผมมีกับตลาดใต้ ซึ่งก็สามารถย้อนกลับไปตั้งแต่ผมอายุแค่ 7 ขวบ และมีไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ตลาดและทั่วเมืองพิษณุโลกเมื่อปี 2500 บ้านผมก็ไหม้กับเขาไปด้วย หรือเรื่องศาลเจ้าพ่อปุ่นเถ่ากง-ม่า ที่ผมติดตามเตี่ยมาไหว้เจ้าตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ 

ตลาดใต้เป็นตลาดแห่งแรกของเมืองพิษณุโลกนะ เพราะเมื่อก่อนความเจริญทั้งหมดของเมืองอยู่บริเวณริมน้ำน่านละแวกนี้ จนเทศบาลมาทำอาคารตลาดให้ หลายคนจึงรู้จักตลาดใต้ในชื่อ ตลาดเทศบาล 1 ก่อนที่เมืองจะขยายตัวจนมีตลาดเทศบาล 2 บริเวณวัดใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดเหนือ จากนั้นก็มีตลาดย่านสถานีรถไฟ เรียกตลาดเทศบาล 3 และตลาดเทศบาล 4 แถวโคกมะตูม เหล่านี้สะท้อนให้เห็นความเจริญของเมืองที่ค่อยๆ ขยายไปตามย่านต่างๆ ตามลำดับ

แต่นั่นล่ะ เดี๋ยวนี้เมืองมันกระจายไปทั่ว ศูนย์กลางเดิมมันเลยมีรูปแบบแค่เชิงกายภาพ แต่ไม่ได้ถูกใช้งานหรือคึกคักอย่างที่มันเคยเป็น ซึ่งก็เข้าใจได้แหละ มันเป็นยุคสมัยที่ผ่านไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผมก็อยากให้เทศบาลนครพิษณุโลกรวมถึงเอกชนที่เป็นเจ้าของอาคาร มาช่วยดูแลย่าน ดูแลตลาดเก่าๆ ในเมืองให้มากกว่านี้หน่อย ทำให้สาธารณูปโภคมันพร้อม ถนนหนทางสะอาด หรือเอกชนก็ช่วยเปิดอาคารทำให้มันดูมีชีวิตชีวาขึ้น เพราะถ้าพื้นฐานย่านดี และย่านมีชีวิตชีวา มันก็จะดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาลงทุนในย่านเก่าๆ มากขึ้น และนั่นทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นตามมา”  

สุรินทร์ ชัยวีระไทย
เจ้าของหนังสือพิมพ์และโรงพิมพ์ประชามติ
ที่ปรึกษาสมาคมจีน และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมนักเรียนเก่าสิ่นหมิน

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

อ่านเสียงแก่งคอย เสียงของเมืองที่ก้าวข้ามบาดแผลประวัติศาสตร์มาสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

WeCitizens ชวนผู้อ่านเรียนรู้เมืองแก่งคอย เมืองประวัติศาสตร์ที่มีบาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในวันนี้ แก่งคอยเปลี่ยนบาดแผลแห่งประวัติศาสตร์เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอ่านความคิด วิถีชีวิตผู้คนแก่งคอยได้ที่ WeCitizens : เสียงแก่งคอย, สระบุรี - WeCitizens Flip PDF…

1 year ago

ฟังเสียงนครสวรรค์ เมืองศูนย์กลางแห่งภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน

WeCitizens ชวนผู้อ่านเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ เมืองที่อยู่กึ่งกลางระหว่างภาคเหนือและภาคกลาง เมืองที่เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางทางน้ำในอดีต นครสวรรค์จึงเป็นเมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในฐานะของเมืองที่เป็นศูนย์กลาง (Hub) ทั้งด้านการค้า การคมนาคม และนำมาซึ่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะชาวจีนโพ้นทะเล E-book ฉบับเสียงนครสวรรค์ฉบับนี้ จะพาผู้อ่านทุกคนไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวนครสวรรค์ วัฒนธรรมชาวจีนและเทศกาลตรุษจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศและนานาชาติ และไปฟังเสียงผู้คนชาวนครสวรรค์ที่มองบ้านเมืองของตนเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน…

1 year ago

แก่งคอย…ย้อนรอยสงครามโลกเปลี่ยนบาดแผลประวัติศาสตร์สู่เมืองเรียนรู้ตลอดชีวิต

นอกจากจะถูกจดจำจากเพลงดังที่มีชื่อเดียวกับชื่ออำเภอของ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพลงฮิตของคาราบาว ซึ่งสื่อถึงที่มาของชื่อ ‘แก่งคอย’ อย่าง ‘แร้งคอย’ หากไม่ใช่คนในพื้นที่ อาจนึกภาพไม่ออกว่าอำเภอของจังหวัดสระบุรีที่เป็นปากทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และประตูสู่ภาคอีสาน มีความสำคัญอย่างไร? ไม่เพียงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการขนส่งสินค้าผ่านแม่น้ำป่าสักและทางรถไฟ อำเภอแก่งคอย ยังเป็นจุดเริ่มต้น (ต่อจากอำเภอเมืองสระบุรี)…

1 year ago

ขอนแก่นโมเดล
The Legacy of City Development

เพราะเมือง คือ ผู้คน และผู้คน คือ ตัวแปรสำคัญที่สุดในการพัฒนาเมือง ความเจริญงอกงามทางวัฒนธรรมหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาตรฐานคุณภาพชีวิต จึงขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความสามารถ และความร่วมมือร่วมใจของคนในเมืองเป็นฐานสำคัญ กว่าทศวรรษที่ ‘ขอนแก่นโมเดล’ เป็นโมเดลการพัฒนาเมืองที่ได้รับการยอมรับ และพูดถึงในฐานะแนวคิดและปฏิบัติการการพัฒนาเมืองที่ก้าวหน้ามากที่สุด…

1 year ago

“ขอนแก่นเราไม่ใช่เป็นเมืองที่นั่งรอคนเข้ามาทำนู่นนี่ให้”

เมืองขอนแก่น ผู้คน กับการเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป           ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ อยู่ไกลโพ้นจากชายทะเล แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อ หรือทรัพยากรธรรมชาติสำคัญก็น้อยนิด แต่มีคนที่เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเมืองกลุ่มใหญ่ที่กล้าคิดกล้าฝัน พยายามทำทุกลู่ให้ความหวังเป็นจริงได้ นี่คือปัจจัยที่ทำให้ช่วงเวลาเพียงกึงศตวรรษนำพาเมืองขอนแก่น เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด  ‘ผู้คน และความร่วมมือ…

1 year ago

“สำนึกรักท้องถิ่น ถือเป็นหัวใจสำคัญของจิตสำนึกของคนขอนแก่น”

“เมื่อพูดถึงเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบของเทศบาลนครขอนแก่น เราดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ที่ว่า ‘พัฒนาเมืองสู่สากล สร้างสังคมแห่งความสุข’ การที่เมืองจะพัฒนาได้และสร้างสังคมที่เป็นสุข ต้องเริ่มที่ ‘คน’ คนที่เป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาเมือง ยกตัวอย่างในกรณีที่เปรียบเทียบง่าย ๆ เช่น ถ้าเราจะพัฒนาขอนแก่นเป็นเมือง…

1 year ago