อยากให้ชาวสวนขลุงเป็นยังไงเหรอ ผมขอยืมคำในหลวงท่าน “ใครจะว่าเราเชยก็ช่างเขา ขอให้เราอยู่แบบพอมี พอกิน และมีไมตรีจิตต่อกันจริงๆ ไม่ได้เชย มันล้ำหน้าต่างหาก...”

“ที่สวนลุงต้อยนี่ หน้าผลไม้มา ผมรับเฉพาะเสาร์อาทิตย์ กินฟรีหมด คุณจะซื้อกลับหรือไม่ซื้อกลับไม่เป็นไร อยากให้มาชิมทุเรียนแปลกๆ ของผมเป็นแปลงทุเรียนโบราณ ปีนี้จะมีไม่ต่ำกว่า 15 สายพันธุ์ และผมรวบรวมสายพันธุ์ทุเรียนไว้ ทั้งหมดตอนนี้มี 52 พันธุ์ ทำให้กับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ทรงให้ที่นี่เป็นแปลงรวบรวมของเกษตรกรจริงๆ แล้วในสวนผมเป็นต้นแม่ที่ไปหายอดมาปลูก ไม่ได้เพาะเม็ด เราขึ้นทะเบียน ใส่โค้ด ใส่รหัส จับจีพีเอส ติดตามผล 4 ปี คือเรายังอยากรวบรวมทุเรียนพันธุ์อื่นอีก พระยาศรีสุนทรโวหารแต่งไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 เขียนถึงพันธุ์ทุเรียนไว้ 68 พันธุ์ เป็นคัมภีร์ให้เราไปค้นหาต่อ

กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงให้ลองยกทุเรียนโบราณขึ้นมาซัก 5 พันธุ์ที่จะไปทางทุเรียนเศรษฐกิจได้ ผมก็เลือกพันธุ์เด่นๆ นกหยิบ พวงมณี กบสุวรรณ กบพิกุล ดาวกระจาย ตอนนี้ 5 พันธุ์นี้ออกแนวหน้าหมด กบพิกุลกับดาวกระจายน้อยมาก อำเภอขลุงมีอย่างละต้นเดียว กบสุวรรณอำเภอขลุงมี 3 ต้น ท่าใหม่มี 2 ต้น ที่ขึ้นเครือข่าย ถ้าอำเภอขลุงต้องกระดุมกับหมอนทอง แต่หมอนทองมันปลูกไปทั่ว ผมเอาพันธุ์นกหยิบ พวงมณี กบสุวรรณ ไปจดจีไอเป็นทุเรียนประจำถิ่น ปีนี้จะไปขอจดกบชายน้ำ ทองย้อยฉัตร ที่สวนผมเน้นพันธุ์นกหยิบ เพราะคุณภาพ อร่อย ใครกินนกหยิบปุ๊บ เขาบอกไม่ต้องเอาหมอน ก้านยาวมาแล้ว นกหยิบดีกว่า ผมมามีครอบครัวอยู่ที่นี่ ก็มองว่า เขาปลูกแต่หมอนทอง ไม้เศรษฐกิจจริง อย่าลืมว่าอะไรทุกอย่างถ้ามีพีคต้องมีหล่น แล้วตอนนี้เริ่มพีค คือราคาถีบขึ้นมา จากทุเรียนกิโลละ 50-60 มาเป็น 200 บาท ถ้าเรามีสวนน้อย เนื้อที่น้อย ไปเล่นตามเขา เราจบ แล้วผมได้ประสบการณ์จากเคยทำงานฝ่ายส่งเสริมของซีพี คือทำอะไรก็ได้ แหวกตลาดออกไป ผมเลยเข้ามาเล่นนกหยิบ ใช้เวลา 2-3 ปีเองติดตลาดเลย เป้าแรกที่เราบุกตลาดได้คือมีจำนวนน้อย อีกอย่างผมขึ้นทะเบียนไว้หมด ในเครือข่าย ใครขายไม่ได้บอกผม ผมให้ราคา ซื้อเงินสดเลย ปัจจุบันผมส่งกรุงเทพฯ ต้นฤดูคือปลายมีนาคมก็ 300 บาท กลางฤดูก็ประมาณ 250 บาท ช่วงพีคอยู่ 200 บาท คนที่กินทุเรียนเป็นจะกินทุเรียนต้นฤดู คือผลทุเรียนยังไม่โดนฝน เนื้อจะแห้ง

ที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ดูวิธีปลูก ใช้ยังไง ทุเรียนผมเอาไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก เราถึงกล้าพูดได้ว่าของเรา 100% ผมทิ้งเคมีเลย กองปุ๋ยนี้ผมทำไว้ตลอด เผื่อใครมาซื้อต้นทุเรียนผม ผมให้ไปลองขุดหลุม เอาปุ๋ยที่เราทำผสมแล้วเอาดินของมันมาเพื่อปลูก ทุกวันนี้ปัญหาชาวสวนทุเรียนคือราคาปุ๋ยแพงมาก พูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ถ้าหันมาทำเกษตรอินทรีย์ อย่างมังคุดผม ต้นทุนการผลิต 500 กว่าบาทเอง ค่าปุ๋ยค่ายา อันนี้คือคิดตามหลักเศรษฐศาสตร์เลยนะ มีค่าเสียโอกาสค่าเสื่อมค่าอะไรหมด ค่าแรงเราด้วย ตอนผมเริ่มทำเกษตรอินทรีย์ ปี 2555 เรียกประชุมมา 80 กว่าคน ตอนนี้เหลือไม่ถึง 10 คน เราต้องยอมเขา เขาจำนวนเยอะ เน้นเศรษฐกิจ การค้า ถ้าเขามาทำแบบเรา เขาทำไม่ได้ อย่างผมทำ ไม่เคยใช้ลูกจ้าง ใช้เฉพาะหน้าเก็บเกี่ยว คือคนสวนเสียนิสัยอย่าง ได้เงินมาปุ๊บ ช่วงหน้าฝนเนี่ย เที่ยว ใช้ เนี่ยถ้าเผื่อคุณเข้าสวนตอนนั้น เข้าไปเรื่อยๆ เนี่ยทุเรียนผมไม่มีเป็นโรค มีนิดหน่อยผมก็รักษาแล้ว คืออินทรีย์เนี่ย รักษาง่ายที่สุดเลย ต้นทุนไม่ต้องไปซื้อ เวลาเราไปถ่ายน้ำมันเครื่อง เอาน้ำมันเครื่องมาทาแผลที่ต้นได้ คือสมัยก่อนเขาใช้ทากำมะถัน ผมก็มองว่าถ้าเผื่อใช้กำมะถันจริงๆ น้ำมันเครื่องดีที่สุด เออ มันก็ได้ผลดีด้วย ทาไปปุ๊บ น้ำมันเครื่องแห้ง แผลมันก็แห้งเลย มอดออกเลย

องค์ความรู้นี้ต้องลองผิดลองถูก กว่าจะออกมายืนยันกันได้ใช้เวลาร่วมสิบปี ใครสนใจจริงๆ มาคุยกัน ผมจะบอกวิธีใช้ มังคุดผมออกต้นปีทุกปี กลางเดือนมีนาคม ผมมีมังคุดขายแล้ว กิโลละ 200 กว่าบาท คนก็พยายามทำตาม เขาก็ โอ้โห ต้อย ไม่ไหว ยุ่งยาก คือเกษตรอินทรีย์ ค่าแรงสูง แต่ถ้าเราทำเอง ตัวนี้ก็ตัดไป เราตั้งของเราไว้แค่ 400 บาท เราต้องขยัน เช้าตีสี่ ฟ้าสาง ไก่ขันปุ๊บ ผมออกเดินละ ข้างบ้านบอกลุงต้อยไปคุยกับใครเช้ามืด ผมบอกคุยกับต้นไม้ เฮ้ย ได้เวลา ใกล้จะออกดอกแล้วนะ เตรียมตัวได้แล้ว บำรุงให้กินตลอดปี ใครบอกว่าบ้าก็ยอม ทำแบบนี้แล้วดี คืออยู่ที่ความสนใจเราด้วย เราจะไปเดินคนเดียวท่อมๆ เหรอ ก็สู้คุยกับต้นไม้ไปด้วยเลย อย่างตอนฝนเริ่มทิ้งช่วง เขาฉีดยาพ่นยากันอุตลุดเลย ถ้าเผื่อคุณเตรียมมาตั้งแต่แรก ตอนนี้ของผมไม่ต้องเลย ใบสมบูรณ์ อินทรีย์มันกินตลอดปี ปีนึงผมใส่สามครั้ง ช่วงเก็บเกี่ยว ช่วงกลาง ช่วงลูกกำลังจะโต เราทิ้งช่วงให้เขา ช่วงละ 4 เดือนๆ ผมบอกตรงๆ เลยว่าเป็นชาวสวนเกษตรอินทรีย์อยู่ได้สบาย มังคุดต้นนึงทุน 500 ต้นใหญ่ให้มันกิน 800 บาทเลย เราขายได้สองหมื่นกว่าสามหมื่น แถวนี้เขาก็เปลี่ยนมาใช้น้ำหมักเยอะ อย่างสวนใหญ่ปีนึงได้ห้าหกล้าน แต่ครึ่งนึงที่เขาจ่ายไปคือค่าแรง ค่าปุ๋ย ค่ายา อย่างนี้ผมทำเองหมด แล้วพวกสมุนไพรไล่แมลงไม่ต้องไปหาอื่นไกล หาอยู่ในสวนเรา เยอะแยะ มองไปก็เห็น ทุเรียนออกอยู่ที่ความสมบูรณ์ ตอนนี้ที่เขาทำทุเรียนเศรษฐกิจ เขาใช้สารกระตุ้นให้ออกดอก ของเราไม่ต้อง ต้นไหนสมบูรณ์เต็มที่เขาก็ออก ตอนนี้ผมลองจับ 2 สูตร น้ำหมักกับสมุนไพร มาใช้ จากที่เราทดลองหลายๆ ตัว คลำหาเจอแล้วว่า น้ำหมักกับสมุนไพร ได้ผล

อยากให้ชาวสวนขลุงเป็นยังไงเหรอ ผมขอยืมคำในหลวงท่าน “ใครจะว่าเราเชย ก็ช่างเขา ขอให้เรา อยู่แบบพอมี พอกิน และมีไมตรีจิต ต่อกันจริงๆ ไม่ได้เชย มันล้ำหน้า ต่างหาก...” ผมทำป้ายไม้ พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกครั้งที่ผมไปเปิดบูทผมต้องมีป้ายนี้ไป ท่านเตือน ให้กำลังใจเรา คิดดูท่านตรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ผมไปค้นมาที่หอสมุดแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2518 ให้นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฟัง แล้วก็นิ่ง ไม่มีใครสนใจ จนมาถึงปี 2540 สมัยชาติชายฟองสบู่แตก คนถึงเริ่มหันมามองเศรษฐกิจพอเพียง”

สุทธิเดช กฤษณะเศรณี
ปราชญ์เกษตรท้องถิ่น สวนลุงต้อย เกษตรอินทรีย์

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

4 days ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

5 days ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

6 days ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

6 days ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

7 days ago

[THE CITIZENS] อัญมณี มาตยาบุญ<br />ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ ลำพูน ซิตี้ แลป

“ก่อนหน้านี้เราเป็นสถาปนิก และกระบวนกรจัดประชุมสัมมนาด้านวิชาการ โดยหลัก ๆ จะอยู่เชียงใหม่ ช่วงปี 2562 เรากลับลำพูนและเห็นเทศกาล River Festival Lamphun ริมแม่น้ำกวง รู้สึกตื่นตามาก ๆ ไม่เคยคิดว่าเราจะได้เห็นโชว์แสง…

1 week ago