อาหารแต่ละบ้านอาจจะทำเหมือนกันแต่รสชาติไม่เหมือนกัน แล้วแต่รสมือของแต่ละบ้าน เราอยากให้คนต่างถิ่นเข้ามารู้

“ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านตะปอนน้อยมี 2 งาน คืองานฝีมือ กับงานแปรรูปสินค้าทางการเกษตรซึ่งแปรรูปจากผลไม้ท้องถิ่นของเราเอง คือเรามีปัญหาว่า ในช่วงที่ผลไม้เยอะ อย่างมังคุดนี่เหลือแค่กิโลละ 4 บาทเท่านั้น เลยปรึกษากับอาจารย์ที่มทร.จันทบุรี (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี) ว่าสกัดน้ำมังคุดไว้แต่ไม่รู้เอาไปทำอะไรได้อีก อาจารย์แนะนำให้ทำน้ำจิ้มสุกี้ มีองค์ความรู้ที่ทำไว้แล้ว ก็เอามาทำ พอเข้าโครงการของ U2T (โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ – 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย) ก็พัฒนาไปถึงขั้นขออย.ได้ ตอนนี้เรามีน้ำจิ้มสุกี้รสผลไม้จากมะละกอ ลองกอง สับปะรด มังคุด ใช้ความเปรี้ยวจากน้ำมะปี๊ด ซึ่งทุกสวนปลูกกันอยู่แล้ว ไม่ใช้น้ำส้มสายชู อย่างมังคุดเราก็สกัดแต่น้ำ ไม่ได้ผสมน้ำเปล่าเลย เอามาผสมกับเครื่องปรุง ไม่ใส่ผงชูรสหรือสารให้ความหนืดอะไร ใช้การสเตอริไลซ์ อยู่ได้ 1 ปี

งานแปรรูปอีกอย่างที่เราภูมิใจคือ หมูชะมวงเส้น คือแกงหมูชะมวง เป็นอาหารพื้นบ้านของจังหวัดจันทบุรี เป็นอาหารที่ทำในงานบุญ หากินยาก ปัจจุบันมีการแปรรูปใส่กระป๋อง แต่ของเราใส่นวัตกรรมเข้าไปด้วย คือจากที่เป็นน้ำ เรามาทำเป็นอาหารแห้ง เพราะเจอปัญหาว่า เวลามีลูกค้ามาจากต่างจังหวัด เขาอยากซื้อกลับไปกิน แต่มันเป็นน้ำ แล้วตอนแรกลูกสาวไม่ยอมกินหมูชะมวงเลย เขาเห็นสี เห็นหมู ดูน่าจะเผ็ด แต่ลูกสาวชอบกินหมูเส้น เราเลยลองเอามาทำเป็นหมูชะมวงเส้น เป็นของกินเล่น เด็กๆ กินได้ เข้าถึงวัยได้มากขึ้น และสามารถฉีกกินที่ไหนก็ได้ ทำตอนแรกเจอปัญหา น้ำมันออกมาเยอะ เลยเข้าไปในกระบวนการพัฒนาของเครือข่าย KBO จังหวัด (เครือข่ายองค์ความรู้ Knowledge-Based OTOP) ได้ความรู้มาปรับปรุง แล้วก็อยากได้ความกรอบมากกว่านี้ เลยเข้าไปหาอาจารย์เดือนรุ่ง (ผศ.เดือนรุ่ง เบญจมาศ คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี) ซึ่งมีแล็บตรวจวัดความชื้น ให้คำปรึกษา ก็ได้ปรับปรุงอีกเพื่อให้เก็บได้นานขึ้น ไม่เหม็นหืน น่าจะอยู่ได้ 3 เดือน เราก็ขายในเพจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านตะปอนน้อย แล้วก็ไปออกบูท เนื่องด้วยเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ยังไม่มีใครรู้จัก มีลูกค้าซื้อไปกินแล้วบอกทำไมเปรี้ยว เราก็ต้องอธิบายให้ฟังว่า เปรี้ยวเพราะรสชาติของใบชะมวงเอง แล้วเราใส่น้ำมะขามไปกับเนื้อ มันก็เปรี้ยว ไม่ใช่เปรี้ยวเพราะเสีย

สมาชิกกลุ่มมี 21 คน ปกติทำสวนเป็นหลัก แล้วก็มีงานฝีมือบ้าง ทำน้ำพริกขายในชุมชน เราก็รวบรวมเป็นกลุ่มไปจดทะเบียนเป็นโอทอป เอาไปขายด้วยกันแล้วแบ่ง 5% เข้ากลุ่ม แรกๆ ก็ทำสบู่ คนมาเที่ยวเยอะ ขายได้ พอไม่มีนักท่องเที่ยวก็ขายไม่ได้ แล้วช่วงฤดูเก็บผลไม้จะไม่มีใครมาทำตรงนี้เลย แค่เรียกมาประชุมก็ไม่ว่าง ยุ่งในสวน แต่ก็ตั้งเป้าหมายของกลุ่มว่า หนึ่งปีอย่างน้อยต้องออก 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ บางทีออกไปไม่ตรงใจลูกค้า ก็ต้องคิดใหม่ อย่างหมูชะมวงเส้น เราทำมา 1 ปี ตอนหลังก็มีกะหรี่ปั๊บไส้หมูชะมวง แคบหมูรสหมูชะมวง น้ำพริกที่ทอดหมูชะมวงก็เอาไปคลุกแคบหมู เราดูว่ากลุ่มเรามีอะไร สมาชิกเขาทำเห็ดนางฟ้า เราก็เอามาทำเห็ดรสหมูชะมวง

ตะปอนนี่ดีมากเลยนะ ทั้งวัฒนธรรมทั้งอะไร เราไม่ใช่คนที่นี่นะ เป็นคนลำปาง มาเจอแล้วแบบหลงใหล ปีแรกที่มา เขาจัดเทศกาลท่องเที่ยวเมืองรอง จัดเต็มทั้งถนนอาหาร การแสดงแสงสีเสียงตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากจนกลายมาเป็นหมู่บ้านตรงนี้ คือเราขนลุก เหมือนย้อนไปอยู่ ณ ตรงนั้น รู้สึกมหัศจรรย์ ตอนนั้นคนมาดูเป็นคนแถวหมู่บ้านในตะปอนนี่แหละ ยังเสียดายถ้าคนต่างชาติได้มาดูจะอะเมซิ่งมาก เพราะประเพณีแห่เกวียนพระบาท ก่อเจดีย์ทราย เขารักษาไว้ได้ดี มีกลุ่มเข้มแข็งที่เขาอยากรักษาประเพณีให้ไม่สูญหาย เขาเต็มใจมาทำกิจกรรมกันจริงๆ แต่ถ้าเป็นหน้าผลไม้จะไม่มีใครมา คิดว่าถ้ามีจุดที่เป็นพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง เหมือนจำลองวิถีชีวิต มีการแสดงให้เขาเห็น หรือมีพื้นที่ตรงกลาง ไม่ต้องเป็นถึงพิพิธภัณฑ์ก็ได้ อาจจะเป็นสื่อเรียนรู้หรือจุดให้สแกนดูข้อมูล ในช่วงที่เราไม่อยู่นักท่องเที่ยวก็สามารถมาเรียนรู้จากตรงนี้ได้ เราเป็นวิสาหกิจชุมชน ก็พยายามหาจุดที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วมีอะไรที่เรียนรู้ หนึ่งคือไม่มีโรงเรือน เราใช้สถานที่วัดตะปอนน้อยให้คนมาดูงาน แล้วกราบไหว้ตรงโบสถ์ ถ้าโบสถ์บูรณะ ก็ให้ขึ้นไปไหว้บนศาลา ไหว้พระบาทผ้า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีชักเย่อเกวียนพระบาท ผลไม้ก็เริ่มออก ทุเรียนก็เป็นต้นฤดู มางานเทศกาล งานวันไหล ได้ผลไม้ไปด้วย เขาจัดผลไม้ใส่เรือพายไว้ให้กินเลย มีประเพณีอาหารพื้นถิ่น ร้อยรสพันอย่าง คืออาหารแต่ละบ้านอาจจะทำเหมือนกันแต่รสชาติไม่เหมือนกัน แล้วแต่รสมือของแต่ละบ้าน เราอยากให้คนต่างถิ่นเข้ามารู้”

พิมพรรณ์ ประคองทรัพย์
ประธานวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านตะปอนน้อย

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[The Insider]<br />พัชรี แซมสนธ์

“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…

3 weeks ago

[The Insider]<br />พรทิพย์ จันทร์ตระกูล

“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…

3 weeks ago

[The Insider]<br />ณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล

“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…

3 weeks ago

[The Insider]<br />นนทพัฒ ถปะติวงศ์

“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />ชวนพิศ สุริยวงค์

“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว  ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />กาญจนา ใจปา และพิทักษ์พงศ์ เชอมือ

“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…

3 weeks ago