“เราเป็นคนชอบงานจักสาน และใช้มันในชีวิตประจำวัน ครั้งหนึ่งเราไปเดินตลาด สวมเดรสและถือตะกร้าหวายไปด้วย เดินไปสักพัก มีคุณป้ามาทักว่าขายอะไรน่ะลูก เรายิ้ม และบอกว่าเป็นคนซื้อเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ)
หลังจากวันนั้นมาเราก็คิด อืม… ถ้างานจักสานแบบนี้มันถูกปรับดีไซน์ให้สอดคล้องการแต่งกายของคนสมัยนี้ก็น่าจะดีนะ แบบที่เรายังเห็นว่าทุกวันนี้ยังมีคนสานข้องใส่ปลาขายอยู่ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าจะมีกี่คนที่ซื้อไปจับปลาจริงๆ แต่ถ้ามีการปรับดีไซน์อีกหน่อย ข้องจับปลาก็อาจจะเป็นได้มากกว่าพรอบหรือของตบแต่งบ้าน หากเป็นของใช้ที่ไปกับยุคสมัยได้จริงๆ
หลังเรียนจบด้านสถาปัตยกรรมที่เชียงใหม่ เราไปทำงานเป็นสถาปนิกที่สิงคโปร์ งานหนักแต่ก็สนุก แต่เราคิดถึงบ้านมากกว่า ทำอยู่สองปีเลยกลับเชียงใหม่มาทำงานออกแบบและรับเหมาก่อสร้างอยู่อีกพักใหญ่ จนทราบว่า TCDC เชียงใหม่ (ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เชียงใหม่) เปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่บริการข้อมูลประจำห้องสมุดพอดี เราเลยสมัครไป
ที่เลือกทำที่นี่ตอนแรกเพราะอยากทำงานที่ใกล้ชิดกับงานออกแบบ ได้อยู่กับของสวยๆ งามๆ แต่พอได้มาทำจริงๆ เราพบว่ามิติของงานมันกว้างและลึกกว่านั้นเยอะ หัวใจสำคัญคือการใช้องค์ความรู้ไปช่วยชุมชน ไปช่วยผู้ประกอบการ ช่วยให้ชาวบ้านให้เห็นว่างานออกแบบและความคิดสร้างสรรค์มันเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตทุกคนได้จริง ซึ่งเราคิดว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายดี
ควบคู่ไปกับการดูแลห้องสมุดและจัดกิจกรรมเทศกาลออกแบบประจำปีรวมถึงอีเวนท์สนับสนุนงานออกแบบอื่นๆ อีกหนึ่งบทบาทของเราที่นี่คือดูแลและให้บริการฐานข้อมูลด้านการออกแบบ ฐานข้อมูลนี้มันต่างจากหนังสือในห้องสมุดคือมันคือข้อมูลล้วนๆ ที่ช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในหลายๆ ด้านได้
กล่าวคือ มันมีตั้งแต่ตัวเลขการส่งออกผลไม้ในแต่ละปีของไทย การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ ไปจนถึงเทรนด์สีและเทรนด์ออกแบบแต่ละปี ที่สำคัญคือชุดข้อมูลด้านวัสดุที่สามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก อย่างถ้าคุณคิดว่าผ้าสำเร็จรูปที่มีในตลาดมันน่าเบื่อไปแล้ว คุณอาจจะค้นหาวัสดุอื่นๆ ที่อาจเอามาตัดเสื้อผ้าได้จากในนี้ และสามารถติดต่อไปหาคนที่ทำวัสดุนั้นได้เองเลย หรือในทางกลับกันถ้าคุณสามารถผลิตวัตถุดิบอะไรบางอย่างได้เอง และอยากทำขาย ก็เอาข้อมูลมาลงในนี้ มันจะเชื่อมคุณไปหาผู้ประกอบการทั้งโลก
แต่นั่นล่ะ พอพูดแบบนี้ก็อาจจะฟังดูยังเข้าถึงยากสำหรับพ่อค้าแม่ค้าในท้องตลาด อีกหน้าที่สำคัญที่เราพยายามอยู่ตอนนี้ คือการเดินออกจากออฟฟิศ เพื่อไปแนะนำให้พวกเขารู้จัก รู้วิธีเข้าถึง และรู้วิธีประยุกต์ใช้ข้อมูลเหล่านี้ให้ตอบโจทย์กับธุรกิจที่พวกเขาทำอยู่ ซึ่งเราก็มักพูดเล่นกับเพื่อนเสมอว่าพวกแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์อย่างบาเลนเซียกาหรือแอร์เมส ยังเคยเอารูปแบบหรือวัสดุที่คนในตลาดบ้านเราคุ้นเคยมาออกแบบกระเป๋าราคาเป็นแสนๆ ได้เลย เราก็น่าจะสร้างมูลค่าจากสิ่งที่เรามีได้บ้าง
เชียงใหม่เป็นเมืองที่รุ่มรวยด้วยทรัพยากรและภูมิปัญญาด้านหัตถกรรมมากๆ เลยนะคะ เรามีสล่าหรือช่างฝีมือที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอยู่เยอะมาก แต่ปัญหาหนึ่งก็คือพอยุคสมัยเปลี่ยน วิถีชีวิตดั้งเดิมก็เปลี่ยนตาม งานหัตถกรรมหลายชิ้นก็กำลังสูญหายไปด้วย ขณะเดียวกันสัดส่วนของนักออกแบบรุ่นใหม่ที่นำภูมิปัญญาทางหัตถกรรมดั้งเดิมมาต่อยอดก็ยังถือว่าน้อยอยู่มาก เราเลยคิดว่าหนึ่งในวิธีที่จะทำให้สิ่งนี้ไม่สูญหายไป คือการใช้การออกแบบมาประยุกต์เพื่อสร้างที่ทางให้ภูมิปัญญาด้านหัตถกรรมยังอยู่ในชีวิตประจำวันเราต่อไปได้ เพราะนั่นไม่ใช่แค่เรื่องการสืบสานมรดก แต่ยังรวมถึงปากท้องของช่างฝีมือที่สืบต่อมาอีกด้วย
ซึ่งก็คงดีไม่น้อยถ้าต่อไปเราถือตะกร้าหวายไปเดินตลาด แทนที่จะมีคนมาทักว่าเราขายอะไร แต่เป็นคนรุ่นใหม่มาถามว่าตะกร้าใบนี้สวยดี ไปซื้อได้ที่ไหน เชียงใหม่ควรต้องเป็นแบบนี้”
///
มาฆพร คูวาณิชกิจ
เจ้าหน้าที่บริการข้อมูล ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบเชียงใหม่
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…