“โคยกี๊เป็นภาษาจีนแปลว่าริมน้ำ ตลาดโคยกี๊จึงมีความหมายว่าตลาดริมน้ำ ชื่อของตลาดเก่าแก่เมืองราชบุรี ที่นี่เป็นแหล่งขนส่งสินค้าหลักของเมือง โอ่งมังกรที่ขึ้นชื่อแต่ไหนแต่ไรก็มีการขนส่งผ่านท่าเรือตรงนี้
พี่เป็นเจ้าของร้านศรีสำอางค์เฟอร์นิเจอร์ เป็นรุ่นที่ 3 รุ่นแรกคืออาม่าพี่ ท่านอพยพจากเมืองจีนมาปักหลักอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองที่ราชบุรี และเปิดร้านนี้ พี่ยังมีรูปถ่ายของอาม่าตอนสาวๆ ซึ่งท่านถ่ายรูปที่ศาลาท่าเรือแดง เป็นท่าเรือเก่าข้างจวนผู้ว่าฯ ช่วงปี พ.ศ. 2480 เขื่อนกั้นน้ำตอนนั้นยังเป็นเขื่อนดิน และถึงแม้จะมีรถไฟวิ่งแล้ว แต่ก็ยังมีการส่งสินค้าทางเรือกันอยู่
ชุมชนที่พี่อยู่มีชื่อว่าชุมชนคนตลาด เป็นย่านการค้าหลักของเมือง สมัยก่อนบริเวณหอนาฬิกามีสนามหญ้า และมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายอาหารอย่างคึกคัก กลายเป็นแหล่งอาหารการกินที่ใหญ่ที่สุด แม้ทุกวันนี้จะไม่มีสนามหญ้าเหลืออยู่แล้ว แต่ตลาดที่ขายอาหารยังอยู่ และผู้คนก็เรียกติดปากว่า ‘ตลาดสนามหญ้า’ และเวลาเมืองมีอะไร ก็มักมาจัดกิจกรรมริมแม่น้ำตรงนี้ ไม่ว่าจะแข่งเรือพาย ลอยกระทง รวมถึงงานตรุษจีน
กระทั่งช่วงหลังมา เมื่อเมืองขยายตัว มีย่านการค้าใหม่ๆ เกิดขึ้น ย่านนี้ก็ค่อยๆ เงียบลง จนกระทั่งมาเจอโควิด ก็เงียบหนักเข้าไปใหญ่
พี่เข้ามาเป็นคณะกรรมการชุมชน เพราะคิดว่าน่าจะช่วยขับเคลื่อนให้ย่านเรากลับมาเฟื่องฟูเหมือนเดิม เราเห็นว่าหน่วยงานรัฐสนับสนุนงบประมาณพัฒนาชุมชนและพื้นที่ตรงนั้นตรงนี้ แต่กลับมองข้ามพื้นที่เราตลอด ก็เลยคิดว่าถ้าเรารวมกลุ่มกันกับชาวตลาดมาช่วยขับเคลื่อนและกำหนดทิศทาง ก่อนไปเชื่อมกับภาครัฐให้เขามาช่วยต่อ อะไรๆ ก็อาจจะดีขึ้น
ที่ผ่านมาก็เป็นที่น่าพอใจนะ พอเรารวมตัวกันได้ ก็ง่ายต่อการเชื่อมต่อกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการเมืองน่าอยู่ของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่เข้ามาในย่านเราเมื่อปี 2563 เขาก็มาถามความต้องการของคนในชุมชนว่าอยากได้อะไร เพื่อหาแนวทางการออกแบบและพัฒนาย่านให้ตอบโจทย์กับชีวิตผู้คน
เรื่อยมาถึงโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้เมื่อปี 2564 ที่ทำให้ย่านมีจุดเช็คอินใหม่ๆ ในรูปแบบของประติมากรรมและสตรีทอาร์ท มีกิจกรรมที่ชวนนักเรียนในราชบุรีมาช่วยกันออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวของเมือง และที่ประทับใจที่สุดคือการที่อาจารย์เขาออกแบบบอร์ดเกมเกี่ยวกับเมืองราชบุรี ให้นักเรียนและคนที่สนใจได้เรียนรู้เกี่ยวกับเมืองผ่านบอร์ดเกมนี้ พี่เห็นด้วยกับที่น้องเสนอมาว่า น่าจะก็อปปี้บอร์ดเกมออกเป็นหลายๆ ชุด เพื่อไปแจกตามโรงเรียนและห้องสมุดต่างๆ เพื่อให้นักเรียนได้มาเล่นและเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองของเราต่อไป
ในฐานะที่เราทำการค้าขาย เราก็อยากให้ธุรกิจของเราและเพื่อนบ้านทุกคนในชุมชนดีนั่นแหละ ก็คิดว่าการขับเคลื่อนให้ชุมชนคนตลาดอยู่ในเส้นทางการท่องเที่ยวของเมือง ให้กลายเป็นแลนด์มาร์คที่คนมาเที่ยวราชบุรีต้องแวะเวียนให้ได้ ซึ่งย่านเราเองก็มีศักยภาพที่ดีนะ เพราะเราเป็นชุมชนเก่าที่มีประวัติศาสตร์ รอบๆ ชุมชนก็มีวัดสวยๆ มีศาลเจ้า มีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
ซึ่งถ้าเชื่อมร้อยกันทั้งหมดนี้ และทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวและเรียนรู้เกร็ดที่น่าสนใจ นำประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย เปลี่ยนจากภาพจำเดิมที่คนส่วนใหญ่คิดแค่ว่าชุมชนนี้เป็นย่านการค้า ให้กลายมาเป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของเมือง มีจุดเช็คอินสวยๆ มีร้านรวงที่ต้องมาใช้บริการ หรือมีของฝากที่ทุกคนต้องมาหาซื้อที่นี่เท่านั้น เป็นต้น พี่ว่ามันจะช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนได้เยอะเลยล่ะ
พี่ยังจำได้ว่าหลายปีก่อน ตลาดเราขึ้นชื่อเรื่องหอยดองมากเลยนะ ใครมาเดินเที่ยวก็จะถามหาร้านหอยดองเจ้าอร่อยว่าอยู่ตรงไหน และนักท่องเที่ยวหลายคนมาที่นี่เพื่อหาหอยดองกิน นี่แหละที่พี่อยากให้บรรยากาศของตลาดมันกลับไปเป็นแบบนั้น”
ชลันธร อำนาจวศิน
เจ้าของร้านศรีสำอางเฟอร์นิเจอร์
และคณะกรรมการชุมชนคนตลาด
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…