“เราจัดกิจกรรมครั้งหนึ่งมีเด็กๆ และผู้ปกครองมาร่วมหลักร้อย อาจไม่เยอะมากถ้าเทียบกับจำนวนประชากรของเมือง แต่ถือเป็นแนวโน้มที่ดีที่เห็นว่า พวกเขาไม่ได้มองว่าการไปเดินในห้างสรรพสินค้าเป็นทางเลือกเดียวในการใช้เวลาร่วมกันในวันหยุด”

“เราเริ่มสนใจประเด็นการพัฒนาเมืองอย่างจริงจัง คือราวปี 2553 ตอนเป็นประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสาน คือก่อนหน้านี้เราทำรายการวิทยุ เขียนหนังสือ และเป็นอาจารย์สอนด้านการสื่อสาร แต่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องประเด็นเมืองนัก เพราะขอนแก่นมีคนทำเรื่องนี้เยอะอยู่แล้ว แต่พอมาทำงานด้านการประสานงานกิจกรรมเกี่ยวกับการสื่อสารที่โฟกัสไปที่เด็กและเยาวชน จึงทำให้เรากลับมาคิดถึงพื้นที่ส่งเสริมสิ่งนี้ในเมือง อีกอย่างคือ เราก็มีลูกด้วย ก็อยากให้ลูกเข้าถึงพื้นที่ที่เป็นประโยชน์ในเมือง เลยคิดว่าน่าจะใช้บทบาทของเราขับเคลื่อนพื้นที่เหล่านี้ได้  

ขอนแก่นมีต้นทุนที่ดีตรงที่มีห้องสมุดเด็กสวนดอกคูนอยู่ตรงบึงแก่นนคร ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นเขาจ้างให้มูลนิธิไทยสร้างสรรค์ทำไว้ และความที่เราชอบพาลูกไปใช้พื้นที่บ่อยๆ ก็เลยได้ร่วมเป็นภาคีจัดกิจกรรมกับเขา ช่วงที่เรามาเป็นประธานสโมสรฯ ก็ทำให้เรารู้สึกว่า ที่นี่แหละมันคือพื้นที่ความสุขของครอบครัว เราก็เลยมีส่วนปรับปรุงโมเดลเรื่อยมา

กิจกรรมที่เกิดในพื้นที่ห้องสมุดก็เช่นเวิร์คช็อประบายสีน้ำ ทำเข็มกลัด ทำที่คั่นหนังสือ เพ้นท์เสื้อ เป็นต้น คือเป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ร่วมทำกับลูกๆ ไปพร้อมกันได้ กระทั่งพี่ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำโครงการในพื้นที่เขาไม่สบาย เลยหยุดไป เราก็ไปคุยกับเทศบาล และตั้งกลุ่ม ‘เครือข่ายศิลป์สร้างสรรค์’ สร้างเครือข่ายคนทำงานด้านศิลปวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ มาสานต่อกิจกรรม ทีนี้มันก็ไม่ใช่แค่กิจกรรมในห้องสมุดที่เดียวแล้ว เราก็ขยายไปทำกิจกรรมในพื้นที่เรียนรู้แห่งอื่นๆ ของเมืองด้วย 

อย่างการจัดอีเวนท์ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ที่หอศิลป์ เพราะเรามีโจทย์ว่าจะทำยังไงให้คนเข้าหอศิลป์มากขึ้น ไม่อยากให้มันเป็นแค่พิพิธภัณฑ์แข็งๆ อย่างเดียว จึงจัดงานเสวนาวรรณกรรม หรือเวิร์คช็อปที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม หรือมีโครงการดนตรีและอ่านบทกวีในสวนที่สวนประตูเมือง และห้องสมุดเด็กรัชดานุสรณ์ เป็นต้น ก็พยายามประสานกับหน่วยงานนั่นนี่ หางบประมาณมารันกิจกรรมให้เกิดอย่างต่อเนื่อง

พอเราทำกิจกรรมโดยเฉพาะกับที่ห้องสมุดเด็กฯ จึงพบว่าจริงๆ แล้ว ขอนแก่นมีผู้ปกครองที่สนใจหาพื้นที่เรียนรู้นอกห้องเรียนให้แก่ลูกๆ เยอะมาก อย่างวันเสาร์-อาทิตย์ เขาพาลูกมาอ่านหนังสือหรือมาทำกิจกรรมแทนที่จะไปเรียนพิเศษ รวมไปถึงผู้ปกครองที่ทำโฮมสคูล (home school) ไปจนถึงเด็กนักเรียนเองที่พอเห็นว่าห้องสมุดเปิดพื้นที่ด้านกิจกรรม เขาก็ขอมาใช้เป็นที่แสดงคัฟเวอร์แดนซ์ หรือเล่นดนตรี เป็นต้น

อย่างที่ผ่านมา เราจัดกิจกรรมอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ครั้งนึงก็มีคนมาร่วมงานหลักร้อยคนได้ จริงอยู่มันไม่ได้เยอะมากถ้าเทียบกับประชากรในเมืองขอนแก่น แต่ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีที่เห็นว่าผู้ปกครองและเด็กๆ หลายคน ก็ไม่ได้มองว่าการไปเดินในห้างสรรพสินค้าเป็นทางเลือกเดียวในการใช้เวลาร่วมกันในวันหยุด

เราว่าขอนแก่นมีข้อดีตรงที่ ถึงเมืองจะใหญ่ แต่เครือข่ายของคนที่พยายามขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอย่าง กลุ่มการเมือง นักวิชาการ นักจัดกิจกรรม และกลุ่มธุรกิจ ส่วนใหญ่จะรู้จักกันหมด และมีท่าทีที่ช่วยหนุนเสริมกันมาก อย่างถ้ากลุ่มนี้จัดงาน อีกกลุ่มเขาก็มาช่วย หรือมาร่วมกิจกรรม หรือบางทีเขาก็หาคอนเนกชั่นดึงองค์กรหรือกลุ่มจากเมืองอื่นๆ มาช่วยด้วย เราจึงมองว่าเราสามารถร่วมกันออกแบบการพัฒนาเมืองไปในทิศทางที่เราต้องการได้ แต่ในอีกแง่หนึ่ง กลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็โฟกัสอยู่เพียงในเขตเทศบาลนคร แต่เทศบาลเขตอื่นๆ หรือตำบลอื่นๆ มันไม่ได้มีความเคลื่อนไหวแบบนี้ ทั้งที่จริงๆ มันควรขับเคลื่อนไปด้วยกัน ซึ่งตรงนี้ยังรวมถึงการลงทุนจากภายนอกด้วยนะ เขาก็ยังมองถึงการลงทุนในตัวเมืองเป็นหลักก่อน

กับอีกเรื่องที่ถือเป็นปัญหาเรื้อรังมานานของเมือง คือผู้คนยังขาดจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อม เมืองยังจัดการขยะในระดับเบื้องต้นได้ไม่ดี รวมถึงยังขาดระบบขนส่งสาธารณะ คนเกือบทั้งเมืองจึงยังต้องพึ่งพารถส่วนตัว ซึ่งมันก็เกิดปัญหาการจราจรแออัดในช่วงเข้างาน-ออกงาน หรือช่วงโรงเรียนเลิก คล้ายๆ กับที่กรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ ยังคงเผชิญอยู่

เราจึงเห็นว่าโครงการรถไฟรางเบาที่กลุ่มขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKTT) กำลังทำอยู่ถือเป็นความหวังได้ ถึงจะมีความกังวลถึงจุดเชื่อมต่อจากสถานีไปยังจุดอื่นๆ ว่าถ้าเราลงรถไฟแล้ว จะไปต่อยังไง ตรงนี้ก็น่าจะคุยเรื่องเส้นทางกับรถสองแถวที่มาช่วยหนุนเสริมให้ดีๆ คือถ้าทำให้เราไม่จำเป็นต้องพึ่งพารถส่วนตัวตั้งแต่ออกจากบ้านไปจนถึงที่ทำงานหรือสถานศึกษาเลยก็จะดีมากๆ

ถ้าเมืองมีการจัดการปัญหาอย่างที่เราเห็นขณะนี้ คิดว่าขอนแก่นมันดึงดูดการลงทุนได้อีกเยอะมากๆ เพราะในปัจจุบันเราก็เริ่มเห็นว่าคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเรียนที่นี่ เขาเริ่มไม่คิดว่ากรุงเทพฯ จะเป็นจุดหมายหลักในการเป็นแหล่งงานของพวกเขาแล้ว เขามองถึงเมืองในระดับภูมิภาคอย่าง เชียงใหม่ อุดรธานี หรือขอนแก่นของเราเอง ถ้าเมืองเรามันมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม มีแหล่งงาน มีพื้นที่เรียนรู้และสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ และเยาวชน และมีความสะอาด ปลอดภัย ขอนแก่นจะเป็นเมืองที่หลายคนวางใจจะฝากอนาคตไว้ได้”   

สุมาลี สุวรรณกร
ประธานเครือข่ายศิลปวัฒนธรรมชุมชนอีสาน

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[The Insider]<br />พัชรี แซมสนธ์

“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…

3 weeks ago

[The Insider]<br />พรทิพย์ จันทร์ตระกูล

“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…

3 weeks ago

[The Insider]<br />ณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล

“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…

3 weeks ago

[The Insider]<br />นนทพัฒ ถปะติวงศ์

“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />ชวนพิศ สุริยวงค์

“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว  ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />กาญจนา ใจปา และพิทักษ์พงศ์ เชอมือ

“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…

3 weeks ago