“ช่วงที่เรียน ป.โท (เศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) มีวิชาหนึ่งที่ผมตั้งเป้าจะศึกษารูปแบบของบริษัทพัฒนาเมือง เลยมีโอกาสได้สัมภาษณ์พี่โจ (ภูษิต ไชยฉ่ำ) ที่เพิ่งก่อตั้งบริษัท ระยองพัฒนาเมือง จำกัด ได้ไม่นาน ด้วยความตั้งใจจะให้องค์กรนี้เป็นแพลตฟอร์มกลางเชื่อมหน่วยงานต่างๆ มาขับเคลื่อนการพัฒนาเมือง ขณะนั้นพี่โจกำลังหานักวิจัยมาทำงานให้ แกจึงชวนผมมาร่วมทีมด้วย
ผมจึงเริ่มขับเคลื่อนกับระยองพัฒนาเมืองตั้งแต่ปีแรกๆ โดยเริ่มจากการเก็บข้อมูลเรื่องพัฒนาเมืองที่ย่านเมืองเก่ายมจินดา ก็มีการชวนผู้คนจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมมาแลกเปลี่ยนความเห็น มีการคุยกันถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาเมืองในแง่มุมต่างๆ ทั้งขนส่งมวลชน การฟื้นฟูเมืองเก่า ไปจนถึงการยกระดับเศรษฐกิจในกลุ่มผู้ประกอบการ เป็นต้น
จนมาปี 2564 บริษัทได้รับทุนจาก บพท. มาขับเคลื่อนระยองให้เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ เราจึงโฟกัสไปที่พื้นที่เขตเทศบาลนครระยอง ผ่าน 2 โครงการย่อย คือการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ด้านสังคมและทักษะศตวรรษที่ 21 และการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม
ผมกับพี่หลิน (จักรินทร์ ศิริมงคล) รับผิดชอบโครงการย่อยที่สองคือพื้นที่ด้านสิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในพื้นที่ที่เราเข้าไปร่วมสร้างกระบวนการคือพื้นที่ป่าโกงกางที่มีขนาด 500 ไร่กลางเมืองระยอง
เนื่องจากกายภาพของเมืองระยองถูกขนาบข้างด้วยโรงงานปิโตรเคมีขนาดใหญ่ถึงสองแห่ง ระยองจึงขึ้นชื่อด้านคุณภาพอากาศในทางลบ แน่นอน ด้วยกำลังที่มีเราไม่สามารถหาวิธีแก้ปัญหานี้ได้เองฝ่ายเดียว แต่ถ้าเราสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับเยาวชนในเมือง เพื่อให้เขาตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่เป็นอยู่ ไปพร้อมกับการเรียนรู้จากพื้นที่ป่า ซึ่งทำหน้าที่ฟอกอากาศให้กับเมืองอย่างป่าโกงกาง นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก เราใช้เครื่องมือที่เรียกว่า ‘นักสืบสายลม’ ชวนเยาวชนในระยองมาร่วมเวิร์คช็อป และทำความเข้าใจต่อไลเคน พืชที่เป็นเหมือนเครื่องชี้วัดคุณภาพอากาศของพื้นที่ต่างๆ พร้อมกับสร้าง open data ผ่านแอปพลิเคชั่นที่เราจัดทำขึ้นใหม่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการถ่ายรูปและจดบันทึกชนิดและปริมาณความหนาแน่นของไลเคนในที่ต่างๆ มาเป็นข้อมูล
ไลเคนเป็นพืชที่ชี้วัดความสมบูรณ์ของอากาศและธรรมชาติได้ดีเลยนะครับ อย่างถ้าเราไปอยู่ในป่าเราจะเจอพวกเขาขึ้นหนาแน่นมาก แต่เพียงแค่คุณเดินออกมาจากป่าโกงกางไม่ไกล คุณก็พบพวกเขาน้อยลงทุกที หรือที่มีอยู่ก็เป็นไลเคนที่อยู่ในกลุ่มทนทาน และไม่ต้องพูดถึงพื้นที่ใกล้โรงงาน ซึ่งบ่งชี้ให้ทุกคนเข้าใจเลยว่ามลภาวะหนาแน่นเต็มที
ขณะเดียวกัน พอเราทำ open data ให้ทุกคนบันทึกความหนาแน่นของไลเคนในช่วงเวลาต่างๆ มันยังเป็นเหมือนหมุดของยุคสมัย ให้เราในสามารถย้อนกลับมาสำรวจดูได้อีกว่าสภาพอากาศของระยองดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร
นอกจากนักสืบสายลม เราทำกิจกรรมส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเมือง เพราะแม้เราจะมีป่าโกงกางขนาดใหญ่ แต่ด้วยมลภาวะจากโรงงาน ปอดของเมืองอาจยังไม่พอ จึงสร้างแนวร่วมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวกับหน่วยงานต่างๆ โดยไม่ได้มองว่าจะต้องเป็นสวนขนาดใหญ่ แต่อาจเป็นพื้นที่เล็กๆ ตามสาธารณะ พื้นที่รกร้าง รวมถึงตามที่อยู่อาศัยของผู้คน มองแบบ green belt ของต่างประเทศ ที่ใช้สวนมาเป็น buffer zone ล้อมเมืองไว้ แต่เราสามารถทำได้จากจุดต่างๆ แซมขึ้นมาและคอนเนคกันทั่วเมือง โดยโครงการนี้ยังเชื่อมไปกับแผนการพัฒนาระยองให้เป็นเมืองโลว์คาร์บอนที่บริษัท ระยองพัฒนาเมือง จำกัด กำลังดำเนินการอยู่ผ่านโครงการวิจัยอีกหนึ่งชิ้น
ทั้งนี้ทั้งหมดทั้งมวลของโครงการ สิ่งสำคัญที่เราพุ่งเป้าคือการสร้างความร่วมมือกับประชาชนและหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่นั้นๆ ซึ่งเห็นได้ชัดคือป่าโกงกาง เพราะไม่เพียงมันอยู่ในเขตเทศบาลนครระยอง แต่ความที่ป่าติดกับทะเล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจึงเข้ามาจัดการบางส่วน ไหนจะชุมชนที่รายล้อมต่างๆ ซึ่งบางส่วนก็ตั้งกลุ่มอนุรักษ์ขึ้นมาจัดการพื้นที่ของตัวเองด้วย
โดยทุกครั้งที่เข้าไปพูดคุย เราจะย้ำเสมอว่าโครงการวิจัยของเราไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงกิจกรรมอะไรที่เขาทำอยู่ เพียงแต่เราขอนำกรอบการเรียนรู้เข้าไปร่วมด้วย เพื่อหวังจะสร้างกลไกช่วยหนุนเสริมในสิ่งที่เขาทำอยู่ให้ดีขึ้น รวมถึงสร้างความร่วมมือให้เขาเห็นภาพของการอนุรักษ์และพัฒนาในทิศทางเดียวกัน และที่สำคัญ เราก็จะสกัดองค์ความรู้ที่แต่ละกลุ่มมีเพื่อเผยแพร่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ
แล้วการเรียนรู้เมืองจากผู้คนในเมืองจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นอย่างไร? ผมขอยกตัวอย่างกลุ่มชุมชนชาวประมง แน่นอน เราคงไม่ได้ไปสกัดความรู้วิธีการจับปลาของชาวบ้านมาหรอก เพราะคนที่เรียนรู้ซึ่งไม่ได้อยู่ในภาคการประมงก็คงเอาไปใช้อะไรไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันกลุ่มชาวประมงเขาก็มีความรู้เรื่องการประเมินสภาพลม ฟ้า อากาศ ไปจนถึงการจัดเก็บหรือแปรรูปอาหาร ซึ่งสิ่งนี้แหละที่เราสามารถนำมาต่อยอดเป็นองค์ความรู้เพื่อให้คนทั่วไปได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงในเชิงวิชาชีพได้ต่อไป
หรือกิจกรรมการสำรวจไลเคน ก็ไม่ได้แปลว่าผู้เรียนรู้จะต้องนำไปต่อยอดเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่ขณะที่ลงพื้นที่ พวกเขาก็จะได้เห็นถึงความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติที่ระยองลดน้อยลงทุกที และสิ่งนี้จะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ทำให้คนรุ่นใหม่ในระยองเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ และหาวิธีร่วมกันฟื้นฟูเมืองของเราในโอกาสต่อไป”
ภูมิสันต์ เลิศรัตนนันท์
นักวิจัย บริษัท ระยองพัฒนาเมือง จำกัด
“การลงทุนด้านสมาร์ทซิตี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการลงทุนกับผู้คน” “ผมเข้าใจว่าหลายท่านได้พูดถึงอีสปอร์ตในฐานะรูปแบบหนึ่งของเครื่องมือพัฒนาเมืองไปแล้ว จึงอยากเล่าถึงแง่มุมอื่นของเมืองที่มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการจัดการขยะและน้ำเสีย ซึ่งสะท้อนทิศทางของการเป็นเมืองอัจฉริยะของเทศบาลนครนครสวรรค์โดยตรง ปัจจุบันเทศบาลฯ รองรับขยะจากครัวเรือนและสถานประกอบการในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงวันละไม่น้อยกว่า 200 ตัน แต่เดิมเราก็มีวิธีการกำจัดด้วยการฝังกลบในบ่อขยะที่ตำบลบ้านมะเกลือ กระทั่งราว 10 ปีก่อน คณะผู้บริหารเมืองก็มาคิดว่า ถ้าเราฝังกลบอยู่ต่อไปเช่นนี้…
“ผมเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตของโรงเรียนตั้งแต่ตอน ม.4 ครับ ตอนนั้นโรงเรียนเทศบาล 6 ยังไม่มีหลักสูตรนี้ แต่ก็มีการตั้งกลุ่มนักกีฬาขึ้น และคุณครูก็สนับสนุน พาเราไปแข่งในทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆพอมาปีนี้ขึ้น ม.6 เพื่อนนักกีฬาที่เป็นรุ่นพี่เขาก็แยกย้ายไปเรียนต่อ ก็เลยไม่ได้ออกไปแข่งแล้ว แต่เมื่อปีก่อน ทางเทศบาลนครนครสวรรค์มีการจัดการแข่งขันนำร่องขึ้น…
“เราต้องไม่ปิดกั้นโอกาสของเด็ก เพียงเพราะเรายังไม่เข้าใจแต่ควรส่งเสริมให้เด็กทุกคน ค้นพบเส้นทางของตัวเอง” “สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ (สพม. นครสวรรค์) อยู่ใต้สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เรากำกับดูแลโรงเรียนมัธยมในจังหวัดนครสวรรค์ทั้งหมด 37 โรงเรียน ไม่รวมโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนในสังกัดเทศบาล ครอบคลุมนักเรียนราว…
“จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน เด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งเข้ามาคุยกับพวกเราครูผู้สอนวิชาคอมพิวเตอร์ โดยพวกเขาอยากให้เราพาไปแข่งขันเกม PUBG MOBILE ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ หลังจากพาไปแข่งและจบกิจกรรม เราก็สังเกตเห็นว่าเด็กหลายคนมีความสนใจในอีสปอร์ตอย่างจริงจัง จึงตัดสินใจก่อตั้งชมรมอีสปอร์ตของโรงเรียนขึ้น ปัจจุบันชมรมของเรามีสมาชิกประมาณ 30 คน ตั้งแต่ระดับ…
“ก่อนย้ายมาที่โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม ผมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนชุมแสงชนูทิศ อำเภอชุมแสง ที่นั่นผมเริ่มเข้าใจความหมายของอีสปอร์ต เริ่มจากเด็ก ๆ เล่นกันเอง ขอครูตั้งชมรม และขอให้ครูพาไปแข่งนอกโรงเรียน เราก็สนับสนุน จนกระทั่งอีสปอร์ตถูกบรรจุเป็นหนึ่งในกีฬาสีของโรงเรียน เช่นเดียวกับ ฟุตบอล วอลเลย์บอล…
“พวกเราเล่นเกมตั้งแต่ประถมแล้ว พวก RoV, PUBG MOBILE, League of Legends เล่นโดยที่ไม่รู้ว่าอีสปอร์ตคืออะไร แต่เล่นเพราะมันสนุก แค่นั้นเลยครับเราไม่คิดมาก่อนว่าอีสปอร์ตจะกลายมาเป็นวิชาเลือกในโรงเรียนด้วยซ้ำ จนมาขึ้น ม.4 และเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนเรามีวิชานี้เกิดขึ้น เราก็เลยพากันไปสมัคร…