“พวกเราเรียนสายศิลป์จีนธุรกิจ โรงเรียนดรุณาราชบุรี รุ่นที่เรียนสาขานี้มีอยู่ 12 คน แต่จะเรียนร่วมห้องกับเพื่อนที่เรียนศิลป์ภาษาอังกฤษและไอทีพร้อมกัน ยกเว้นวิชาหลักที่แยกกันไปเรียน
ตอน ม.4 เราสองคนได้ร่วมกิจกรรมอบรมยุวมัคคุเทศก์ของโครงการเมืองสร้างสรรค์ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนต่อการมองเมืองราชบุรีบ้านเกิดของเรา เพราะแม้เราจะคุ้นเคยกับสถานที่ต่างๆ แต่ความเป็นจริง ถ้าเราไม่ได้รู้จักและสอบถามคนในพื้นที่ ก็กลับแทบไม่รู้ที่มาที่ไปของสถานที่นั้นๆ เลย พอเข้าร่วมอบรมจึงได้รู้ว่า อ่อ ชุมชนริมน้ำตรงนี้เริ่มขึ้นมาได้อย่างไร โอ่งมังกรก็มีที่มาที่น่าสนใจนะ กำแพงเมืองเก่าทำไมถึงไปอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ เป็นต้น
นอกจากนี้ พอได้รู้แล้ว เรายังได้ฝึกให้เล่าเรื่องที่เรารู้ด้วย อย่างพีมได้โจทย์ให้เล่าเรื่องซุ้มประตูจีน ก็ต้องทำความเข้าใจสัญลักษณ์ของซุ้มก่อน และอธิบายให้คนอื่นเข้าใจถึงความหมายและความสวยงามของซุ้ม ทำให้เรากลายเป็นช่างสังเกต เวลาเห็นอะไร ก็ทำให้เราอยากรู้ถึงที่มาของสิ่งนั้นๆ
พอขึ้น ม.5 จากโครงการเมืองสร้างสรรค์ เขาเปลี่ยนแนวทางมาเน้นการทำให้ราชบุรีเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ เราก็ได้ร่วมกิจกรรมต่อ คราวนี้เขาให้เรารวมกลุ่มมาเข้าอบรม เพื่อช่วยกันหาแนวทางการออกแบบพื้นที่การเรียนรู้ในเมืองราชบุรีกัน เราเห็นว่ามีหลายเรื่องในเมืองที่หลายคนยังไม่รู้ และถ้าจะดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้มาสนใจในพื้นที่ ก็น่าจะใช้เรื่องลึกลับมาเป็นตัวนำ เลยตั้งชื่อกลุ่มว่า Secret of Ratchaburi โดยมีผลงานคือโมเดลศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองที่บอกเล่าเกร็ดต่างๆ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ และตั้งชื่อศูนย์การเรียนรู้นี้เป็นชื่อเดียวกับกลุ่ม
ถามว่าความลับอะไรของราชบุรีที่เราอยากบอกเล่าให้คนอื่นรู้? พีมว่าอาจไม่ใช่ความลับเสียทีเดียว แต่เป็นเรื่องที่หลายคนอาจยังไม่รู้ พีมสนใจเรื่องประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของชาวจีนในชุมชนตลาดเก่าค่ะ เพราะนี่เป็นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญของเมือง โอ่งมังกรก็เริ่มจากตรงนี้ คิดว่าถ้าเรามีสื่อในการนำเสนอให้คนอื่นเห็นว่าแต่ละยุคสมัย ชาวจีนเดินทางมาถึงที่นี่ได้อย่างไร พวกเขาต่อสู้ดิ้นรนจนสร้างตัว สร้างธุรกิจ และมีส่วนสร้างเมืองขึ้นมาได้อย่างไร รวมทั้งผสานเข้ากับคนท้องถิ่นจนเป็นคนราชบุรีทุกวันนี้ได้อย่างไร
ส่วนนุ่นสนใจคล้ายๆ พีม คือที่มาของตลาดเก่าริมแม่น้ำแม่กลอง ตรงนั้นมีหลายเรื่องที่นุ่นเองก็อยากรู้อีกเยอะ เช่น ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ ตลาดสนามหญ้า รวมถึงตึกเก่าทรงยุโรปที่เป็นศาลแขวงในปัจจุบัน ซึ่งนุ่นเห็นว่าสวยมากๆ ทั้งหมดล้วนมีจุดเด่นและเรื่องราวเบื้องหลังที่น่านำมาบอกเล่าให้คนอื่นๆ ได้รู้
ส่วนตัวพีมอยากเรียนต่อด้านโบราณคดีค่ะ แต่ก่อนไม่ชอบประวัติศาสตร์เท่าไหร่เลย แต่พอมาร่วมกิจกรรมก็ได้พบมุมมองใหม่ๆ อีกทั้งยังได้เรียนกับครูที่สอนวิชาประวัติศาสตร์สากลในห้องเรียนที่สอนสนุกมาก เขาสอนเหมือนเราได้ดูหนังเลย จากที่คิดว่าประวัติศาสตร์ต้องท่องจำ ก็เปลี่ยนความคิดมาเป็นการสังเกต รู้จักเปรียบเทียบ และทำความเข้าใจ ก็คิดว่าน่าจะเรียนต่อทางด้านนี้
สำหรับนุ่นคิดว่าจะเรียนต่อคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ค่ะ เพราะถึงแม้เราเรียนมาด้านศิลป์จีนธุรกิจ แต่คิดว่าภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐานที่ทำให้เราเข้าถึงการเรียนรู้อื่นๆ ตอนนี้เราพอมีพื้นภาษาจีนแล้ว ถ้าอังกฤษเราแน่น เราก็ยังสามารถไปเรียนภาษาอื่นเพิ่มเติม ทำให้เรามีโอกาสทำอาชีพที่หลากหลายเพิ่มขึ้นมา”
อัญชณียา พึ่งโสภา (พีม) และ อินทิรา พิมลบรรยง (นุ่น)
นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 โรงเรียนดรุณาราชบุรี
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…