“เราได้คุยกับเด็กๆ ถึงความรู้เรื่องท้องถิ่นของพวกเขา ส่วนใหญ่จะตอบเหมือนกันคือ โปงลาง และผ้าไหมแพรวา ซึ่งก็ไม่ใช่คำตอบที่ผิด แต่จริงๆ กาฬสินธุ์เรามีองค์ความรู้ที่มากกว่านั้นอีกเยอะ”

“กาฬสินธุ์มีหลักสูตรท้องถิ่นอยู่ในการเรียนการสอนภายในโรงเรียนของสังกัดเทศบาลทั้ง 6 แห่ง อยู่แล้วค่ะ เพียงแต่แต่ละโรงเรียนเขาก็ให้ความสำคัญต่างกัน บางโรงเรียนก็มองว่าเป็นเรื่องรองจากวิชาการหรือกีฬาด้วยซ้ำ จากการที่ได้คุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน คุณครู หรือบุคลากรด้านการศึกษาบางท่านก็มองว่าการเรียนรู้เรื่องท้องถิ่นของตัวเอง อาจยังไม่ใช่เรื่องด่วน หรือไม่เห็นความจำเป็น

หรือหลายโรงเรียนก็มองว่าแค่ให้เด็กๆ ได้เรียนโปงลาง ก็ถือเป็นการเรียนหลักสูตรท้องถิ่นที่ครอบคลุมแล้ว อย่างที่เราได้คุยกับเด็กๆ ว่าอะไรคือความรู้เรื่องท้องถิ่นของพวกเขา ส่วนใหญ่จะตอบเหมือนกันคือ โปงลาง และผ้าไหมแพรวา… ซึ่งก็ไม่ใช่คำตอบที่ผิด แต่จริงๆ กาฬสินธุ์เรามีองค์ความรู้ท้องถิ่นที่มากกว่านั้นอีกเยอะ และองค์ความรู้เหล่านี้ มันไปหนุนเสริมทั้งการศึกษาในโรงเรียนไปจนถึงเชิงวิชาชีพได้อีก

ในปี 2564 ซึ่งเป็นปีแรกที่เราทำงานวิจัยที่รับผิดชอบเรื่องหลักสูตรท้องถิ่นในโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้กาฬสินธุ์ เราได้ชวนผู้นำชุมชนทั้ง 38 ชุมชนภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ (ปัจจุบันขยายเป็น 41 ชุมชน) พร้อมทั้งปราชญ์ชุมชนในด้านต่างๆ เช่น ศิลปะ ดนตรี หรือประเพณีพื้นบ้าน มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันว่าองค์ความรู้ชุมชนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอะไรยังขาดไป และอะไรที่เราสามารถนำมาชูได้ เพื่อจะนำมาต่อยอดเป็นหลักสูตรการศึกษาหนุนเสริมเด็กๆ ในเขตเทศบาล

ในอีกมิติหนึ่ง เราก็มองหลักสูตรท้องถิ่นในฐานะความรู้ทางอาชีพที่สามารถนำมายกระดับเศรษฐกิจชุมชน และก็พบว่าโรงเรียนเทศบาล 4 เฉลิมพระเกียรติ เขาทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้ว โดยเฉพาะการสอนให้เด็กปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ เราในฐานะมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์เลยไปร่วมกับทางโรงเรียน เผยแพร่หลักสูตรนี้ รวมถึงหลักสูตรทางอาชีพอื่นๆ ที่มองไว้รวม 20 หลักสูตร ไปยังโรงเรียนอื่นๆ และให้เด็กๆ นำไปต่อยอดกับผู้ปกครอง ขณะเดียวกัน เราก็หาตลาดให้พวกเขาเพื่อสร้างรายได้เสริม และนั่นเป็นที่มาของ ‘ตลาดสร้างสุข’ ตลาดนัดวัฒนธรรมทุกวันอังคารรอบหอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ ที่เรานำผลิตภัณฑ์ที่เด็กๆ และผู้ปกครองปลูกได้ไปวางขาย   

ในปีที่สอง หลังจากที่เราสำรวจของดีของเด่นในแต่ละชุมชนในทุกมิติแล้ว ก็ถึงคราวนำสิ่งที่ได้มาสร้างนิเวศการเรียนรู้ ที่มันไม่ใช่แค่การจัดอีเวนท์ชั่วครั้งชั่วคราวแล้วหายไป แต่เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอวาระ ก็เลยมองไว้ 10 พื้นที่ในเขตเทศบาล เช่น ชุมชนดอนสวรรค์ที่มีองค์ความรู้เรื่องการทำไส้กรอกปลา ชุมชนวัดสว่างพัฒนาทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ชุมชนวัดป่าทุ่งศรีเมืองที่ทำปลาร้าบอง รวมถึง กศน. เป็นต้น  

ส่วนหอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ ที่เป็นพื้นที่เรียนรู้ด้านศิลปะและประวัติศาสตร์เมืองอยู่แล้ว เรายังได้ชวนเด็กนักเรียนมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและสร้างสรรค์ตัวการ์ตูน หรือคาแรกเตอร์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองกาฬสินธุ์ ให้พวกเขาลองสกัดความคิดและจินตนาการกันดูว่า ถ้าไม่ใช่ไดโนเสาร์หรือโปงลาง จะคิดถึงอะไร โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่มๆ ตามช่วงชั้น รวมถึงเด็กๆ จากสภาเด็กและเยาวชนของเทศบาลเมืองด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่การออกแบบคาแรกเตอร์ แต่เรายังร่วมกับทีมสร้างแอนิเมชั่น มาทำให้จินตนาการของเขาออกมาโลดแล่นเป็นรูปร่าง และเป็นแนวทางในการสร้างอัตลักษณ์ร่วมสมัยของเมืองต่อไป

กาฬสินธุ์ไม่ใช่เมืองที่มีแม่เหล็กด้านการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันเรายังมีข้อจำกัดเรื่องการคมนาคมขนส่ง เมืองจึงไม่สามารถสร้างรายได้จากภายนอกเท่าไหร่นัก โดยที่ผ่านมา เราจะได้เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเฉพาะช่วงเทศกาลหรือการจัดอีเวนท์ต่างๆ เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งคิดเป็น 90% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดด้วยซ้ำ

แต่นั่นล่ะ พอรายได้ส่วนใหญ่มันมาจากอีเวนท์ เราจึงพบข้อจำกัดอีกอย่างคือ ที่ผ่านมาออร์แกไนเซอร์ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มคนจากข้างนอก และมักใช้ทรัพยากรจากภายนอกมาขับเคลื่อน เม็ดเงินจึงไม่ได้เข้าสู่คนท้องถิ่นเท่าที่ควร หนึ่งในสาเหตุที่เราให้ความสำคัญกับเรื่องหลักสูตรท้องถิ่นและการพัฒนาวิชาชีพท้องถิ่นเนี่ย ก็มาจากการที่เราเห็นว่าต่อไปนี้ เมืองเราควรต้องยกระดับอีเวนท์ ให้คนกาฬสินธุ์ได้จัดอีเวนท์หรือกิจกรรมของตัวเอง เพื่อทำให้อีเวนท์นั้นๆ ไปกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจ BCG ของคนในเมือง

เพราะการเข้าใจในทรัพยากรทางวัฒนธรรมก็ดี องค์ความรู้ และวิชาชีพที่เชื่อมโยงกับบริบทของท้องถิ่นก็ดี เหล่านี้มันช่วยยกระดับผู้คนในเมืองได้ และผู้คนในเมืองเหล่านี้ก็สามารถเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมืองของเราได้เช่นกัน”

 
ผู้ช่วยศาสตร์จารย์ ดร. จริยา อินทนิล
อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
นักวิจัยโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้กาฬสินธุ์

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[The City Issue]<br />นิเวศอีสปอร์ต และกลไกการพัฒนานครสวรรค์เมืองอัจฉริยะ

“ระบบนิเวศอีสปอร์ตคือฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะผ่านการยกระดับศักยภาพของผู้คน” ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน สื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Instagram หรือ YouTube ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางสื่อสารหรือความบันเทิงอีกต่อไป หากแต่กลายเป็นเครื่องมือสร้างอาชีพ และพัฒนาทักษะของผู้คนทั่วโลก เช่นเดียวกับ “อีสปอร์ต” (Esports) หรือการแข่งขันวิดีโอเกม ที่เริ่มต้นในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ…

23 hours ago

[The City Movement]<br />เพราะเกมออนไลน์คือสายใย<br />ของเมืองมีชีวิต

เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ไม่ใช่แค่เรื่องของเซ็นเซอร์ แพลตฟอร์ม หรือระบบ AI ที่แม่นยำ แต่หัวใจที่แท้จริงของมันคือ “ผู้คน” – เพราะถ้าขาดการรับฟังเสียงสะท้อน หรือกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เมืองจะไม่มีวันรู้ว่าควรก้าวไปทางไหนแต่ในโลกหลังโควิด-19 ที่ลานกิจกรรมถูกแทนที่ด้วยหน้าจอมือถือ—หน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่บริหารเมืองกลับเข้าไม่ถึงประชาชนได้มากพอ…

1 day ago

[City Overview] เมืองนครสวรรค์<br />จากชุมทางการค้า<br />สู่ต้นแบบเมืองอีสปอร์ตแห่งแรกของไทย

“แม้จะเป็นการเล่นเกม แต่นครสวรรค์ก็ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะนี่จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่เปลี่ยนให้เมืองผ่านกลายมาเป็นจุดหมายของใครหลายคน” เมื่อเอ่ยถึงนครสวรรค์ คุณนึกถึงอะไร? ประตูสู่ภาคเหนือ, “เมืองปากน้ำโพ” ชุมทางการค้าทางเรือในอดีต, เทศกาลตรุษจีน, ขนมโมจิ, ดินแดนอาหารอร่อย หรือ “พาสาน” แลนด์มาร์กแห่งใหม่กลางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ภาพจำเหล่านี้คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึง…

1 day ago

[The Mayor]<br />จิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ

“เรามีโครงสร้างพื้นฐานในการเป็นสมาร์ทซิตี้พร้อมแต่ที่ผ่านมา เรายังไม่มีกลไกในการพัฒนาบุคคลในกรอบนี้และอีสปอร์ตจะกลไกหนึ่ง ที่เริ่มต้นจากเด็กและเยาวชน” ไม่เพียงแต่เทศบาลนครนครสวรรค์จะเป็นหนึ่งในเทศบาลแห่งแรกที่ได้รับการคัดเลือกโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ให้เป็น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ตั้งแต่ปี 2564 หากแต่ในปัจจุบัน เทศบาลนครซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ…

4 days ago

[The Insider]<br />อนุพงษ์ รักยุติธรรม

“ผมไม่ได้ฝันว่าจะต้องมีซิลิคอนวัลเลย์ในนครสวรรค์แต่หวังว่าเราจะสามารถสร้างงานให้เด็กคนหนึ่งไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯไม่ต้องทิ้งบ้านเกิดไปเพราะไม่มีโอกาส” “ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลพาโลกไปไกล เกมกลายเป็นสื่อที่ช่วยให้เด็กเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างน่าทึ่งผมยกตัวอย่างลูกชายผม เขาเรียนอยู่ ป.1 มีเกมอยู่ 2 เกมที่เขาเล่นประจำ คือ Sprunki และ Roblox สองเกมนี้เน้นเรื่องการแปรรูปจินตนาการให้กลายเป็นรูปธรรม ตอนแรกผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกมนี้หรอก จนมาศึกษา…

4 days ago

[The Researcher]<br />ธนพจน์ แพสุวรรณ์

“ผมไม่ได้ปฏิเสธการศึกษาในระบบ แต่ถ้าเราสามารถสร้างทางเลือกให้กับเด็กที่มีความฝันจริงจังผู้ใหญ่อย่างพวกเราก็ควรต้องหาวิธีส่งเสริมพวกเขา” “สำหรับการขับเคลื่อนอีสปอร์ตให้กลายเป็นหนึ่งในกลไกการพัฒนาเมือง ผมมองออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือ ผมเคยสอนวิชาอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ที่คณะบริหารและการจัดการ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และตระหนักดีว่าสิ่งที่ทำให้ศาสตร์นี้ รวมถึงศาสตร์อื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับโลกดิจิทัล สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับผู้เรียน…

4 days ago