“เหรียญ KGO เป็นทั้งสิ่งดึงดูดให้คนมาร่วมกิจกรรม เท่าๆ กับการสร้างการเรียนรู้ด้านสมาร์ทซิตี้ไปพร้อมกัน ซึ่งตอนนี้มีคนขอนแก่นที่ใช้โทเคนนี้ราว 7,000 คน และมีร้านค้าที่ร่วมโครงการกว่า 600 แห่ง”

“ผมทำงานบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นทีมทำงานของอาจารย์สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ปีนี้เข้าปีที่ 27 ขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนสมาร์ทฟาร์มและทำเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์กัญชาให้บริษัทอีกแห่งที่ผมเป็นซีอีโอด้วย กระทั่งในปี 2563 ขอนแก่นได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 จังหวัดแรกของประเทศในการขับเคลื่อนเป็นสมาร์ทซิตี้ โดยบรรจุอยู่ในยุทธศาสตร์จังหวัด แผนที่ 3 ความที่ผมทำงานกับอาจารย์สุรเดชอยู่แล้ว เลยได้รับมอบหมายให้มาเป็นผู้จัดการฝ่ายโครงการเมืองอัจฉริยะ บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด

หน้าที่หลักคือการประสานกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ในการนำกรอบสมาร์ทซิตี้มาพัฒนาเมืองขอนแก่น รวมถึงจัดเสวนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งก็เป็นการต่อยอดมาจากโครงการมูลนิธิชุดขอนแก่นชุมชนทศวรรษหน้า แล้วก็มีการร่วมกันกำหนดกรอบการพัฒนาเมืองร่วมกันโดยพิจารณาจากต้นทุนและข้อท้าทายของเมือง จนเกิดเป็น Mobility หรือเมืองศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาคกลุ่มลุ่มน้ำโขง MICE City เมืองแห่งการประชุมของภาคอีสาน และ Medical & Healthcare เมืองศูนย์กลางการบริการการแพทย์และสุขภาพของภูมิภาคกลุ่มลุ่มน้ำโขง   

 พอกำหนดทิศทางแล้ว ก็เริ่มมีการขับเคลื่อนในแต่ภาคส่วนไป เช่น ขอนแก่นพัฒนาเมืองก็สนับสนุนภาคเอกชนที่สนใจทำเรื่องการพัฒนาเมือง หรือทางกลุ่มมิตรผลก็นำตึกของโรงแรมโฆษะเดิมมารีโนเวทเป็นอาคารนวัตกรรม (Innovation Center) รวมถึงมีการทำวิจัยต่างๆ โดยเฉพาะโครงการขนส่งมวลชนรถไฟรางเบาเมืองขอนแก่น (LRT)

โดยเมื่อบริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด ได้รับสนับสนุนงบประมาณโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้จาก บพท. ด้วยทางบริษัทเห็นว่ากรอบดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนขอนแก่นเป็นสมาร์ทซิตี้ ผมจึงได้รับมอบหมายให้เป็นนักวิจัยร่วมของโครงการนี้ด้วยเช่นกัน

ในเฟสแรกของโครงการ ทีมวิจัยเห็นตรงกันว่า เราต้องมีหลักสูตรการเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองขอนแก่นอย่างรอบด้าน เพื่อเป็นทุนตั้งต้นในการสร้างพลเมืองมาขับเคลื่อนการพัฒนา เราแบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มประชาชนทั่วไปและข้าราชการ และกลุ่มนักพัฒนาเมือง และเราก็ออกแบบหลักสูตรที่ครอบคลุมตั้งแต่ประวัติเมือง การเติบโตของเมือง การเคลื่อนย้าย ไปจนถึงความเป็นอยู่ในปัจจุบัน และก็ชวนกลุ่มต่างๆ มาทำกิจกรรม

อาทิ กลุ่มเด็กและเยาวชน เราใช้เวลาหนึ่งวันในการจัดฐานการเรียนรู้และทัศนศึกษาในพื้นที่ อาทิ โฮงมูนมังเมืองขอนแก่น พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ รวมถึงชุมชนสำคัญๆ ต่างๆ กลุ่มที่สอง (ประชาชนทั่วไป) เราใช้เครื่องมือในการถอดบทเรียนและเก็บเป็นข้อมูลการเรียนรู้ของเมือง รวมถึงชักชวนตัวแทนจากราชการมาพิจารณาถึงกฎระเบียบที่เมืองมีอยู่ และหารือถึงการพัฒนาระเบียบเหล่านั้นให้ตอบโจทย์การพัฒนาเมือง และกลุ่มสุดท้าย (นักพัฒนาเมือง) เราโฟกัสไปที่การสร้างความรู้เรื่องสมาร์ทซิตี้โดยตรง

พร้อมกันนั้นเราก็บันทึกวิดีโอกิจกรรมทั้งหมด รวมถึงการนำเสนอข้อคิดเรื่องการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเมืองของ นายกเทศมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายก อบจ. และ key persons ท่านต่างๆ บวกรวมกับงานเสวนาต่างๆ มาตัดต่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์และสื่อการเรียนรู้ด้านพัฒนาเมือง

ส่วนโครงการเฟสที่สอง เรามาโฟกัสเรื่องดิจิทัลและ metaverse มากขึ้น โดยเราร่วมกับ บริษัท อินฟินิทแลนด์ จำกัด ทำโทเคนแลกเปลี่ยนของเมืองที่เราเรียกว่า KGO wallet มอบให้ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมกับเรา และสามารถนำเจ้านี้ไปใช้เป็นส่วนลดของร้านคาที่ร่วมกับเรา เรามองว่าโทเคนในรูปแบบเหรียญ KGO นี้เป็นทั้งสิ่งดึงดูดให้คนมาร่วมกิจกรรม เท่าๆ กับการสร้างการเรียนรู้ด้านสมาร์ทซิตี้ไปพร้อมกัน ซึ่งตอนนี้มีคนขอนแก่นที่ใช้โทเคนนี้ราว 7,000 คน และมีร้านค้าที่ร่วมโครงการกว่า 600 แห่ง โดยเฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มีการนำโทเคนนี้ไปใช้แลกกับการเข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย โดยโทเคนก็สามารถไปเป็นส่วนลดอาหาร เครื่องดื่ม หรือร้านค้าในมหาวิทยาลัยได้ 

ล่าสุดทางเทศบาลนครนครสวรรค์ เขาให้ความสนใจแพลตฟอร์มตัวนี้ ก็มาคุยกับเราถึง 2 รอบ ในการนำแพลตฟอร์มตัวนี้ไปใช้กับจังหวัดของเขา รวมถึงที่ระยองและเชียงใหม่ ซึ่งล้วนมีเครือข่ายการพัฒนาเมืองที่เข้มแข้งและมีวิสัยทัศน์

สำหรับเนื้อหาด้านการเรียนรู้ในโครงการ นอกจากเรื่องปูมเมืองอย่างที่บอกไปในเฟสแรก ก็ยังรวมถึงการสร้างความรับรู้เรื่องขนส่งมวลชนใหม่อย่าง LRT ซึ่งเรายังมีโมเดลในการผลิตโครงสร้างรถไฟและบริหารจัดการทั้งหมดจากภายในขอนแก่นเองเพื่อกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในจังหวัด การฟื้นฟูย่านเมืองเก่า และย่านเศรษฐกิจอย่างศรีจันทร์ ย่านรื่นรมย์ หรือ บขส. 1 รวมถึงการทำสมาร์ทฟาร์ม และการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรปลอดสารเคมี เป็นต้น

จริงอยู่ จากโครงการที่เล่ามาส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น แต่ที่ผ่านมา เราก็ได้ขยายไปทำกิจกรรมในอำเภอต่างๆ โดยเน้นไปที่การพัฒนาการท่องเที่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร เช่นในอำเภอชุมแพ สีชมพู และภูผาม่าน แล้ว ซึ่งในอนาคต เราตั้งใจจะขับเคลื่อนเรื่องสมาร์ทซิตี้และพื้นที่เรียนรู้ให้ครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด เพราะเราเชื่อว่าการพัฒนาไม่ควรกระจุกตัวอยู่แค่จุดใดจุดหนึ่ง เช่นที่เราเริ่มที่ตัวเมืองขอนแก่นแล้ว อำเภออื่นๆ ก็ต้องได้รับการขับเคลื่อนไปด้วยพร้อมๆ กันเช่นกัน”

สมหมาย แก้ววิเศษ
ผู้จัดการฝ่ายโครงการเมืองอัจฉริยะ บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด
และนักวิจัยโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ขอนแก่น

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[The Insider]<br />พัชรี แซมสนธ์

“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…

3 weeks ago

[The Insider]<br />พรทิพย์ จันทร์ตระกูล

“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…

3 weeks ago

[The Insider]<br />ณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล

“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…

3 weeks ago

[The Insider]<br />นนทพัฒ ถปะติวงศ์

“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />ชวนพิศ สุริยวงค์

“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว  ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />กาญจนา ใจปา และพิทักษ์พงศ์ เชอมือ

“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…

3 weeks ago