“ก๋วยเตี๋ยวเรือโกฮับ รังสิตเจ้าเก่า เริ่มตั้งแต่รุ่นก๋ง (โกฮับ) เป็นคนจีนไหหลำที่เข้ามาตั้งรกรากในไทย พายเรือขายก๋วยเตี๋ยวตรงใต้สะพานแก้ว ชายน้ำคลองรังสิต ชาวบ้านแถวนั้น คนงานที่มาขุดคลอง พอเห็นก๋งพายเรือมาก็เรียกให้ก๋งทำก๋วยเตี๋ยว ตอนนั้นขายแต่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋งทำน้ำซุปเอง ตุ๋นเนื้อเอง เอาพริกมาดองมาหมักมาปรุงเอง ทำ ๆ ไปมีหนังสือพิมพ์ไทยรัฐถ่ายรูปไปลง มีนักมวย ดารามากิน แล้วก็มีภาพยนตร์ “เลือดนอกอก” (2508) เอาชีวิตของก๋งไปทำ ให้ล้อต๊อก (นักแสดงตลก) เป็นคนแสดง มีบทพูด “โกฮับไล้เหลี่ยว” (โกฮับมาแล้ว) หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงรูปวาดล้อเลียน ก็เลยดังติดหู เป็นเอกลักษณ์ ว่าก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตก็ต้องโกฮับ”
สำเนียง อำไพจิตต์ – “แม่เกิดมาก็เห็นเตี่ยขายก๋วยเตี๋ยวแล้ว ช่วยเตี่ยตั้งแต่อายุ 13-14 เตรียมของไว้ในเรือให้เตี่ยพายเรือออกไปขาย แม่มาขายจริง ๆ ตอนปี พ.ศ. 2512 ที่เขาไล่ให้ขึ้นไปขายบนบก ก็มาเช่าที่ปลูกเพิงขายริมถนนที่ตอนนี้คือห้างเซียร์รังสิต ตอนนั้นก็เป็นเวิ้งเดียว มีก๋วยเตี๋ยวหลายเจ้าก็เป็นพี่ ๆ น้อง ๆ กัน แต่ ณ ตอนนี้มีเราทำเจ้าเดียว แม่เติบโตมากับอาชีพนี้เลย ไม่เคยเปลี่ยนอาชีพ ขายมาตั้งแต่ชามละบาท พิเศษสองบาท ขึ้นเป็นสองบาท สามบาท หกบาท สิบห้าบาท ยี่สิบบาท ขึ้นราคาตามวัตถุดิบ สมัยก่อนนักมวย เวนิส บ.ข.ส. (อดีตแชมป์โลกคนที่ 4 ของไทย) มากินก๋วยเตี๋ยว เพิ่มตับต่างหากห้าสิบสตางค์ ตอนนั้นกิโลละ 20 บาท เดี๋ยวนี้กิโลตั้งร่วมสามร้อย ทองบาทละ 480 พวกทหารอากาศก็มากิน เครื่องปรุงไม่มี ยังนั่งยอง ๆ กิน พอขายที่เซียร์ถึงมีโต๊ะนั่ง สมัยก่อนจะหั่นเนื้อใส่กระจาด ทีนี้เวลาหั่นเนื้อแล้วมีเลือด เลือดค่อย ๆ หยด พอเสร็จแล้วใส่ต้นหอม น้ำมัน แล้วเอาน้ำที่ตกจากเนื้อนิดนึงใส่ เอาน้ำร้อน ๆ ใส่ในชามเลย แล้วก็คน ๆ แบบนี้เขาเรียก “น้ำตก” เป็นที่มาที่เกิดโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นเจ้าแรกในรังสิตเลย ตอนนี้เราก็ยังใส่เลือดสดแบบวิธีเดิมที่เราทำมา แล้วหมูมามีน้ำตกเมื่อปี 2540 เพราะตอนนั้นเกิดโรคแอนแทรกซ์ คนไม่กินเนื้อวัว ก็เลยเอาหมูมาทำแบบก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เครื่องปรุงทุกอย่างเหมือนกันหมดต่างกันที่หมูหรือเนื้อ สูตรน้ำซุปก็พัฒนาด้วยตัวเอง มีอบเชย โป้ยกั๊ก ใบเตย ซีอิ๊วดำ ส่วนผสมต่าง ๆ เราก็ปรุงให้รสชาติอร่อย ข้อสำคัญมีเทคนิค น้ำอร่อยลวกเส้นเละไปก็ไม่อร่อย เวลาลวกเนื้อ เอาเนื้อใส่ตะกร้อเรานับในใจ หนึ่ง สอง เอาขึ้นเลย เนื้อสดถ้าลวกนานมันเหนียว พอมารุ่นลูก พัฒนาต่อยอดขึ้นไป ขายเนื้อริบอาย เนื้อออสเตรเลีย หมูคุโรโบตะ มีเนื้อนอก เนื้อไทย มีตัวเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น แม่ก็ได้ช่วยนิดหน่อย ใจสู้แต่ขาเราไม่ไหวแล้ว”
“จากก๋ง แม่ จนเราเป็นรุ่นที่ 3 ก็เติบโตมากับก๋วยเตี๋ยวเหมือนแม่เลย ช่วยขายตั้งแต่เด็ก ตื่นตีสองตีสามแม่เรียกมาช่วยมัดพริกดอง จากจุดแรกที่ขึ้นบกที่ห้างเซียร์ เราก็ไปเข็นของมาตั้งแต่เปิดสาขาเพิ่มในฟู้ดคอร์ตที่ห้างพาต้า ปิ่นเกล้า กับห้างนิวเวิลด์ บางลำพู แล้วก็ย้ายร้านไปอยู่ปากเกร็ด นนทบุรี มาอยู่ตลาดพูนทรัพย์ ปทุมธานี 10 ปี พอเราเข้าเรียนมหาวิทยาลัยรังสิตแม่ก็มาเช่าร้านที่หน้าเมืองเอก จนปรับเปลี่ยนมาเป็นร้านปัจจุบันที่เราดูแลเต็มตัว และจดทะเบียนการค้า ชื่อ “โกฮับรังสิตเจ้าเก่า” ในปี 2549 และทำธุรกิจแฟรนไชส์เจ้าแรกปี 2550 ที่เทอร์มินัล 21 อโศก ซึ่งเขาก็ยังทำอยู่ ตอนหลังมีเปิดเยอะมาก แต่สาขาเขาทำตามสูตรไม่ได้ บางสาขาก็ไม่ได้ซื้อจากเราโดยตรง ตอนนี้มีแฟรนไชส์อยู่ 2-3 สาขา กับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือโกฮับ รังสิตเจ้าเก่า ที่เมืองเอกร้านนี้ร้านเดียว เราทำร้านให้ดูน่ารักขึ้น แต่คงมีเรือ มีห้องแอร์ มีเมนูทานเล่นเพิ่มขึ้น สามารถรองรับได้ทุกเพศทุกวัย ร้านนี้เปิดมา 4 ปี เปิดปุ๊บโควิดแรงเลย ก็ได้ผลกระทบหนัก เรามีออเดอร์ออนไลน์เยอะแต่ก็แลกด้วยค่าจีพีที่เสียไป แต่ก็มีลูกค้าเดินมากิน จอดกินบนรถก็มี ลูกน้องเราสี่คนก็ไม่ให้ออก ให้เขาอยู่กินที่นี่เลย เลี้ยงดูสามมื้อเหมือนเดิม เด็กก็เห็นใจเรา เราก็เห็นใจเขา ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นเยอะ ถามว่ากลัวมั้ย ? กลัว แต่เลือกจะปรับตัว ใช้ชีวิตอยู่กับมัน หน้ากากตอนนี้เหมือนเป็นโทรศัพท์ ไปไหนไปด้วย ร้านเราตั้งโต๊ะห่างกันหนึ่งเมตรอยู่แล้ว แต่เราก็โยกลูกค้า ให้นั่งสลับฟันปลา ทำบรรยากาศให้เซฟทั้งเขาทั้งเรา
ลูกค้าเป็นกลุ่มผู้ใหญ่เยอะ เคยกินกันมาตั้งแต่ไม่มีลูกจนลูกโตพามากิน เรายังรักษามาตรฐานและรสชาติดั้งเดิมไว้ ทุกอย่างเราสั่งเป็น ODM ทำตามสูตรของเรา สมัยก่อนเราทำเองหมด มีเครื่องตี เครื่องสับ คุมวัตถุดิบ แพ็ก ฟรีซ หลายขั้นตอน แต่เรามองว่า ณ ตอนนี้หันมาทำการตลาดดีกว่า แฟรนไชส์เรามีหัวน้ำซุป พัฒนาให้สูตรคงที่ ใครที่รักในการขาย การทำอาหาร สามารถทำได้ เทน้ำซุปลงไป ทำตามอุณหภูมิที่บอก น้ำเดือด ขายได้เลย แล้วก็มาเรียนวิธีเลือกซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์การวัด การตวง วิธีเก็บรักษา เราสอนทั้งหมด เดี๋ยวนี้คนตกงานเยอะ มาขายก๋วยเตี๋ยว เพราะคิดว่าง่าย แต่ของเราไม่ใช่ มีอะไรทำเยอะแยะกว่าจะได้หนึ่งชาม เคยกินก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงแล้วไม่จบมั้ย ? ปรุงอยู่นั่น แต่ไม่อร่อย ไม่มีความนัว ก๋วยเตี๋ยวอร่อยกินแล้วไม่ต้องปรุงเยอะ ไม่ใช่ใส่น้ำส้มเปรี้ยวครึ่งถ้วย อันนั้นเขาเรียกก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อย บางคนกินแล้วไม่ต้องปรุง คือคลิกเลย แล้วทำให้มีลูกค้าเก่า เวลาออกไปกินร้านอื่นแล้วนึกถึงก๋วยเตี๋ยวโกฮับเรา”
สำเนียง อำไพจิตต์
มัณฑนา อำไพจิตต์
ผู้ประกอบการร้านก๋วยเตี๋ยวเรือโกฮับรังสิตเจ้าเก่า
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…