โรงเรียนเทศบาล 1 กาฬสินธุ์พิทยาสิทธิ์ เปิดทำการสอนระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียนประมาณ 1,200 คน ข้อได้เปรียบของโรงเรียนเราคือ ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตรงข้ามโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลประจำจังหวัด และรายล้อมด้วยสถานที่สำคัญๆ ของเมือง เช่น อนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร หอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ และอื่นๆ นี่จึงเป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีเยี่ยมสำหรับให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้เมืองของตัวเอง
นอกจากทำเลที่ตั้ง โรงเรียนเรายังมีจุดเด่นเรื่องศิลปะและดนตรี เรามีนักเรียนที่สามารถคว้ารางวัลทางดนตรีและศิลปะระดับจังหวัดหลายครั้ง รวมถึงมีหลักสูตรที่ช่วยส่งเสริมเด็กๆ ให้มีพัฒนาการด้านอารมณ์ ผ่านวิชาเพิ่มรู้
วิชาเพิ่มรู้เป็นวิชาเสริมที่เราให้เด็กนักเรียนเรียน ซึ่งเราสามารถออกแบบหลักสูตรได้ว่าจะส่งเสริมนักเรียนช่วงชั้นไหนในประเด็นความรู้อะไรเป็นพิเศษ โดยเราก็ได้บูรณาการความรู้ทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของเมือง ประเพณี ดนตรี และศิลปวัฒนธรรมอีสานเข้าไปในหลักวิชา รวมถึงเปิดให้เด็กๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรมของจังหวัดด้วย
นอกจากนี้ โรงเรียนเรายังมีศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 แบ่งออกเป็นฐานการเรียนรู้ 7 ฐาน อาทิ ธนาคารขยะรีไซเคิล ธนาคารเกษตรพอเพียง ธนาคารห้องสมุด หรือธนาคารความดี เป็นต้น โดยเราก็ใส่ฐานเหล่านี้ไปในวิชาเพิ่มรู้ รวมถึงวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในแต่ละช่วงชั้นไปด้วย
ก็ต้องขอบคุณทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ที่มาขับเคลื่อนโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ เพราะดังที่กล่าว โรงเรียนเราให้ความสำคัญกับการเรียนรู้นอกห้องเรียน ผ่านศูนย์การเรียนรู้ที่โรงเรียนเรามีอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์เข้ามา เราจึงสามารถขยายการเรียนรู้ไปสู่นอกรั้วโรงเรียน โดย ผอ. ก็มักจะบอกคุณครูให้คอยอธิบายถึงความสำคัญหรือความหมายของสถานที่หรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้เด็กนักเรียนได้เข้าใจ
หรืออย่างที่เทศบาลมีหอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เด็กนักเรียนโรงเรียนเราก็เข้าไปเยี่ยมชมเยอะ เนื่องจากเด็กหลายคนมักจะใช้พื้นที่นั้นสำหรับรอรถเดือนหรือรถผู้ปกครองมารับกลับบ้าน ระหว่างที่รอ พวกเขาก็นั่งพักในนั้น เขาอาจจะยังดูงานศิลปะไม่เป็น แต่อย่างน้อยก็ได้เห็น ได้ซึมซับกลับมา ไม่แน่ว่านานๆ ไป สิ่งนี้อาจจุดประกายให้หลายคนสนใจหรือหันมาเอาดีด้านศิลปะก็ได้
ไม่นับรวมสถานที่ประวัติศาสตร์ในตัวเมือง ซึ่งเมื่อเขาได้เรียนรู้จนตระหนักในคุณค่า สิ่งนี้อาจส่งผลให้เขาภูมิใจในบ้านเกิด และมีความคิดว่าพอโตขึ้น อยากจะกลับมาสร้างสรรค์อะไรดีๆ ให้กาฬสินธุ์ด้วย”
วัชรี คำเดช
ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 กาฬสินธุ์พิทยาสิทธิ์
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…