“ในสมัยล้านนา นอกจากพะเยาจะมีภูมิศาสตร์เป็นเสมือนห้องครัวที่คอยปลูกข้าวหล่อเลี้ยงผู้คนในอาณาจักร เรายังเป็นเหมือนห้องสมุดแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ว่าได้ เพราะในสมัยนั้นยังไม่มีกระดาษ แหล่งความรู้ทั้งหมดจะถูกบันทึกลงศิลาจารึก และพื้นที่ในจังหวัดพะเยานี่แหละที่เป็นแหล่งตัดหินสำหรับทำศิลาจารึก ดังนั้นมันจึงมีการพัฒนาตัวอักษรฝักขามสำหรับจารลงศิลาที่นี่ด้วย และอักษรรูปแบบนี้ยังถูกใช้สำหรับการถ่ายทอดความรู้ หรือการสื่อสารที่เป็นทางการในเมืองต่างๆ ทั่วอาณาจักรเมื่อครั้งอดีต
หรือยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์ พื้นที่ในเขตผายาว ก็มีร่องรอยของการตัดหิน และขวานหินโบราณ และต่อเนื่องมาถึงสมัยประวัติศาสตร์ที่มีการแกะสลักพระพุทธรูปในพื้นที่ รวมถึงแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาเตาเวียงบัว แหล่งอารยธรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าพะเยามีต้นทุนทางการเรียนรู้มาตั้งแต่อดีต และกระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัด
ในโครงการพะเยาเมืองแห่งการเรียนรู้ ผมรับผิดชอบโครงการย่อยที่ 3 เรื่องการสร้างสรรค์เส้นทางและพื้นที่กิจกรรมการเรียนรู้ในเมืองพะเยาด้วยการออกแบบทางสถาปัตยกรรมให้สอดรับกับกิจกรรมการเรียนรู้ตามโมเดล BCG พื้นที่ที่ผมทำงานจึงค่อนข้างครอบคลุมทั้งจังหวัด เพื่อสร้างเส้นทางเชื่อมต่อพื้นที่แห่งการเรียนรู้เข้าด้วยกัน และเปลี่ยนให้เมืองพะเยาให้เป็นมากกว่าเมืองผ่าน แต่เป็นเมืองที่คนเข้ามาเยือนเพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาจากพื้นที่ต่างๆ
พร้อมไปกับการทำ Local study ด้านประวัติศาสตร์และต้นทุนทรัพยากรของเมือง ในปีแรกของโครงการ เรายังได้ใช้ศาสตร์เรื่องการทำบ้านดิน มาเป็นตัวเชื่อมการทำงานให้คนในพื้นที่ เพราะมองว่าบ้านดินนี่ตอบโจทย์เรื่องต้นทุนการผลิต ถ้าคุณมีความรู้ในการทำ ถึงงบประมาณจำกัด ก็ยังสามารถสร้างที่อยู่อาศัยจากดินได้ เราร่วมงานกับบ้านดินคำปู้จู้ ถ่ายทอดความรู้เรื่องบ้านดินกับผู้คนในเครือข่าย เป็นกิจกรรมเพื่อละลายพฤติกรรม และสร้างการรับรู้ในเขตเทศบาล รวมถึงร่วมกันสร้างสรรค์แลนด์มาร์คสำหรับระบุพื้นที่แห่งการเรียนรู้ด้วยโครงสร้างบ้านดิน
ส่วนปีที่สอง เน้นเรื่องขับเคลื่อนกลไก BCG ในพื้นที่แห่งการเรียนรู้ 18 แห่ง โดยทางโครงการย่อยของเราก็เข้าไปมีส่วนใช้งานออกแบบอัตลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ของสินค้าในพื้นที่ ให้สอดรับกับแนวคิด BCG และมีความดึงดูดในด้านการตลาด ก่อนมีแผนจะต่อยอดสู่การจัดจำหน่ายทางออนไลน์ต่อไป
จนเข้าสู่ปีนี้เป็นปีที่สามที่จะทำต่อไปนี้ เราพยายามนำเสนอมิติความทรงจำในแต่ละพื้นที่ นำเสนอภาพประวัติศาสตร์ที่ซ้อนไปกับภาพปัจจุบันตามเส้นทางการเรียนรู้ เพื่อให้เห็นว่าเรามีต้นทุนทางการเรียนรู้มาตั้งแต่อดีต เราพยายามเล่นกับการนำเสนอเชิงปรากฏการณ์ แล้วการกระจายตัวออกไปยังแหล่งการเรียนรู้ข้างนอก เข้าไปประสานกับแหล่งศูนย์การเรียนรู้ที่เป็นศูนย์ฝึกอาชีพต่างๆ ภายใต้การบริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อทำให้ศูนย์ฝึกอาชีพมีบทบาทในการสร้างองค์ความรู้ในมิติอื่นๆ ไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ ด้วยความที่พะเยาเป็นเมืองผู้สูงอายุ และมีแนวโน้มจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ โครงการเมืองแห่งการเรียนรู้เราจึงตระหนักถึงการสร้างพื้นที่กิจกรรมเพื่อรองรับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการฝึกทักษะทางอาชีพในการผลิตงานหัตถกรรม อาหาร และสินค้าต่างๆ โดยส่งผู้มีความรู้ลงชุมชนไปฝึกอาชีพผู้สูงอายุถึงที่เลย และชวนให้พวกท่านผลิตสินค้ามาวางจำหน่าย เพราะนอกจากการสร้างรายได้แล้ว กิจกรรมเหล่านี้ยังทำให้พวกท่านได้ใช้เวลาว่างอย่างเป็นประโยชน์ ได้ตระหนักในคุณค่าของตัวเอง และสร้างความภูมิใจ ทำให้พวกเขาเห็นว่าตัวเองก็สามารถมีส่วนในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองของเราได้
ด้วยเหตุนี้ เมืองพะเยาของเราจึงมีพื้นที่การเรียนรู้ที่หมายถึงพื้นที่เรียนรู้จริงๆ ทั้งของเอกชน และของ อบจ. กับพื้นที่การเรียนรู้ที่สอดรับไปกับความเป็นไปของเมืองจริงๆ ที่ซ้อนอยู่ในวิถีชุมชน ผ่านกิจกรรมเรียนรู้ของผู้สูงอายุ”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อัมเรศ เทพมา
อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์
และนักวิจัยในโครงการพะเยาเมืองแห่งการเรียนรู้
ผศ. ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้มหัวหน้าโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดCIAP | นายฉัตรกุล ชื่นสุวรรณกุลที่ปรึกษาโครงการ CIAP ประธานกรรมาธิการสถาบันพัฒนาเมือง และอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระบุรี ในงาน CITY SOLUTION DAY : เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์…
การบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญของหน่วย บพท.” โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในงาน City Solution Days: เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่ วันที่…
“ในฐานะที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง ซึ่งในสมาคมเรามีสมาชิกที่ประกอบไปด้วย เทศบาลนครประมาณ 35 แห่ง และ เทศบาลเมืองประมาณ 220 แห่ง ผมอยากเชิญชวนพวกเรามองเมืองของเราไปด้วยกัน โจทย์วันนี้ของประเทศไทย ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเราเป็นคนที่มีจมูกรูเดียว พึ่งพาส่วนกลาง และเดินทางมาอย่างนี้มาโดยตลอด จนมีการกระจายอำนาจเมื่อปี 2540 แต่ก็เป็นการกระจายอํานาจค่อนข้างที่จะเป็น ลูกครึ่งลูกผสม คือมีรัฐบาลคอยกําหนดกรอบทั้งการปฏิบัติงานและงบประมาณ ท้องถิ่นก็ทำงานในระดับพื้นที่ไป จริงอยู่ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เท่าไหร่ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความตั้งใจจริง และแสวงหาโอกาสที่อยากจะพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างตลอดเวลา วันนี้สมาคมเทศบาลนครและเมือง มีโอกาสรวมตัวกันในการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ แล้วหาช่องทางในการที่จะส่งเสริมต่อยอด ซึ่งในปีพ.ศ.2567 ก็เกิดความร่วมมือกับทาง บพท.…
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…