“ผมทำงานมาหลายอย่าง เป็นหนุ่มโรงงานที่นวนครหลังเรียนจบช่างกล ได้งานในแผนกเขียนแบบที่มีเจ้านายเป็นคนญี่ปุ่น ตอนหลังผมเลยไปเรียนภาษาญี่ปุ่นสองปีจบที่สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งก็อยู่ใกล้กับเขตนิคมอุตสาหกรรมนวนครนี่แหละ พอช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ (ปี 2540) ก็ไปทำงานเป็นล่าม แล้วก็กลับมาทำงานโรงงานอีก จนมาสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มโอทอป ก็ทำมาเรื่อยจนเป็นกรรมการ และเป็นประธานบริหารจัดการเครือข่ายโอทอปอำเภอธัญบุรีในปัจจุบัน
การเข้ามาอยู่ในเครือข่ายทำให้คนเข้าถึงได้ กติกาง่าย ๆ คุณอยากพัฒนาสินค้าของตัวเอง ยกระดับสินค้าจากบ้าน ๆ เข้าสู่มาตรฐานติดดาว คุณอยู่อำเภอไหนก็ไปที่อำเภอนั้น เข้าไปหาพัฒนาการอำเภอ ขอขึ้นทะเบียนโอทอป เท่านั้นเอง เขาก็บอกมาว่า 1 2 3 ทำอะไร เราก็ทำตามขั้นตอนข้อแนะนำ เขามีเครื่องมือรองรับที่จะช่วยเราต่อยอดผลิตภัณฑ์ มีกลุ่มในเครือข่ายทำงานร่วมกัน อย่างของผม ทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร ชบาพารวย จากการที่แฟนผมเป็นช่างเสริมสวย เธอเห็นปัญหาศีรษะของผู้ชาย มีรังแค ผมหงอก ผมร่วง อยากปลูกผม ก็เลยทำแชมพูสมุนไพรขจัดรังแค แก้เชื้อรา ผมขาวเป็นผมดำ ที่เคยคันก็หายคัน มีอาจารย์คณะแพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี กับอาจารย์ที่ธรรมศาสตร์ มาอบรม ให้คำปรึกษา ทดลองและวิจัยผลิตภัณฑ์จนออกมาได้ผลดี มีคนช่วยออกแบบสติกเกอร์ติดแบรนด์ให้สวยงามจากที่ตอนแรกเราติดสติกเกอร์เองแบบง่าย ๆ สินค้าทุกตัวที่ทำมาต้องเทสต์ก่อน 3-6 เดือน ใช้แล้วดี ลูกค้าติดใจ เราถึงไปขออย.เพื่อจำหน่าย เดี๋ยวนี้ขอทางออนไลน์ได้เลย กรอกข้อมูลรายละเอียดให้ครบก็ติดตามผลได้ ไม่จำเป็นต้องไปยื่นด้วยตัวเอง ผู้บริโภคเองก็สามารถเข้าเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้
ผลิตภัณฑ์ของชบาพารวยที่ขึ้นทะเบียนอย.แล้ว ก็มีแชมพูสมุนไพรขจัดรังแค มีแชมพูสมุนไพร สูตรเหมาะกับทุกสภาพผม ใช้สระทุกวันได้เลย และที่ขายดีมากคือแฮร์โทนิก กับ เจลโกนหนวด ซึ่งบอกเลยว่าเป็นเจ้าแรกในปทุมธานี สมัยก่อนจะโกนหนวดที ต้องใช้น้ำนำ ถูสบู่ แต่สบู่มีโซดาไฟทำให้ผิวเสีย ของเราเป็นเจลใส ทาเจลที่คางแล้วทำให้โกนง่ายขึ้น ขนนุ่ม ช่วยสมานแผล และกลิ่นหอมด้วย แต่ผลิตภัณฑ์สมุนไพรทุกตัวก็บอกก่อนว่าต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช้สารเคมี มันไม่มีผลต่อผิวหนัง ส่วนจะเห็นผลก็อยู่ที่แต่ละคน เซลล์อายุยังน้อยก็เห็นผลเร็ว เวลาขายแฮร์โทนิกหรือเซรั่มคนไม่เคยพูดเรื่องอายุนะ ผมบอกตรง ๆ เลยว่าถ้าอายุ 30-40 ปี จะเห็นผลไวเลย ถ้าอายุเกิน 62 และเป็นกรรมพันธุ์ด้วย จะเห็นผลช้า เราเก็บข้อมูลลูกค้าทุกคน ติดตามว่าใช้แล้วเป็นยังไง ? เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าของเรามีมาตรฐาน
ความเป็นประธานกลุ่มเครือข่ายโอทอป ผมมองสามข้อสำคัญ หนึ่งคือหางาน ความหมายคือหาสถานที่ให้เครือข่ายได้มีที่จำหน่ายสินค้า สองคือหาเงิน คือให้เขาเป็นสมาชิกเราหรือเราไปหาบูท ได้งานก็มีเงินเข้าเครือข่ายมาใช้ดำเนินการ สามคือหาคน คือคนเก่าก็ร่อยหรอ เราต้องหาคนต่อยอดให้แต่ละเทศบาล หาคนมีความตั้งใจ การันตีว่าเครือข่ายเราจะไม่สูญพันธุ์ กลุ่มโอทอปเรามีผลิตภัณฑ์เยอะมาก ทั้งหมวดอาหาร หมวดเสื้อผ้า ของตบแต่ง เช่น ผ้าใยกล้วย ผ้าใยบัว เป็นนวัตกรรมของจังหวัด หมวดสมุนไพร หมวดน้ำดื่ม และหมวดของใช้ ที่ขึ้นชื่อคือกระเป๋าหนังวัวแท้ มีลวดลายเอกลักษณ์ ของกินก็อร่อย ๆ ทั้งนั้น บางคนเติบโตจากโอทอป ไม่อยากร่อนเร่ออกบูทแล้ว อยากปักหลัก ก็ตั้งร้าน ลูกค้าที่ติดใจก็ตามไปกินถึงร้าน
ผมก็ออกไปเปิดตลาด เอาของไปวางตามศูนย์จำหน่ายสินค้าของแต่ละจังหวัด ให้เจ้าเดียวในแต่ละจังหวัด อย่างที่ไปมาก็โซนตะวันออกที่ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ เดี๋ยวก็จะไล่ไปโซนอีสาน ภาคกลาง แล้วก็มองไปที่อีกจุดของการตลาดคือไปติดโฆษณาที่ห้องน้ำชายในปั๊มน้ำมัน ตอบโจทย์ว่า อย่างน้อยคนก็ต้องเห็นล่ะ ส่วนแฟนผมเขาเก่งดูแลการขายออนไลน์ ก่อนหน้าโควิด ช่องทางจำหน่ายเป็นออฟไลน์ ออกบูท ไปเจอลูกค้าเล่าผลิตภัณฑ์ให้ฟัง แต่พอโควิดมา ต้องเรียนรู้วิธีใหม่เลย ภาครัฐก็มีอบรมเรียนออนไลน์ เราก็ได้เรียนรู้เรื่องทำแพลตฟอร์ม ทำเพจ หน่วยงานแต่ละที่เขาให้ความรู้ดี เราอยากรู้อะไร เราก็ไปอบรม ได้ใบประกาศ ในอนาคตผมก็จะเรียนต่อแพทย์แผนไทยอีกสองปี ทำให้จริงจัง ยกระดับตัวเราเอง เรียนรู้ได้ไม่มีที่สิ้นสุดเลย ถ้าเราตั้งใจ ให้ความร่วมมือ มหาวิทยาลัยก็จะส่งเราให้ถึงฝั่ง ฝั่งที่ว่าคือให้เรายืนได้ด้วยตัวเอง ตัวเราพร้อมที่จะไป เขาก็พร้อมจะดันเรา อย่างที่บอกว่าถ้าเราผ่านช่วงโควิดมาได้ก็สุดยอดนะ”
พงศวัชร์ วรวัชรจิตต์เมธา
ประธานบริหารจัดการเครือข่ายโอทอปอำเภอธัญบุรี
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…
“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…
“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…
“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม) จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…
“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…