สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพร
หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
“พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต”
ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย “โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย เศรษฐกิจดีเกินร้อย: การยกระดับนิเวศเศรษฐกิจของเมืองร้อยเอ็ด” สนับสนุนโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด บอกเล่าถึงแนวคิดในการขับเคลื่อนงานวิจัยที่มุ่งหวังพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดให้มีเศรษฐกิจที่ยั่งยืนเกินร้อยดังชื่อเมือง สอดรับไปกับวิสัยทัศน์ของ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด ดังนี้
เริ่มต้นจากผู้คน
“งานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เกิดจากความต้องการร่วมกันระหว่างเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ภาคประชาชน ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ตระหนักถึงเป้าหมายการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และศิลปวัฒนธรรม ให้ควบคู่กันไปกับการเปลี่ยนแปลงของเมือง เพราะภายหลังที่หอโหวด ๑๐๑ เปิดทำการ เราก็ต่างเห็นตรงกันว่าเมื่อร้อยเอ็ดมีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ไม่เพียงการมาเที่ยวแลนด์มาร์กแห่งใหม่ เศรษฐกิจโดยรอบหอโหวดฯ และบึงพลาญชัย รวมถึงภายในเทศบาลเมืองควรต้องได้รับการยกระดับไปด้วย
“นั่นทำให้เราตั้งทีมกันเพื่อสำรวจและศึกษาจุดขายของเมืองเพิ่มขึ้น ช่วยกันหา ‘ของดี’ ‘ของเด่น’ และ ‘คนดัง’ เพื่อเป็นสินค้าทั้งในเชิงผลิตภัณฑ์ การบริการ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้มาเยือน ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ เราจึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างเครือข่ายชุมชน และภาคธุรกิจ ในระยะแรก เราได้ทำการนัดหมายตัวแทนจากภาคส่วนต่าง ๆ มาพูดคุย โดยเริ่มจากตัวแทน 100 คนจากทั้ง 20 ชุมชนในเขตเทศบาลฯ ตามมาด้วยตัวแทนภาคธุรกิจ ก่อนจะทำเวิร์กช็อปการยกระดับ ‘ของดี’ ที่เรามีร่วมกัน โดยอ้างอิงจากความต้องการของคนร้อยเอ็ด จริงอยู่ เราอาจมีภาพในใจไว้ส่วนหนึ่งแล้วว่าร้อยเอ็ดจะขายอะไรบ้าง แต่ภาพที่มีอาจจะไม่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของคนร้อยเอ็ดเลยก็ได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดภาพที่แท้จริงที่ทุกคนต้องการ
เมื่อเมืองเดินได้ เดินดี เศรษฐกิจจะเด่นดีตามไปด้วย
“ในหัวข้องานวิจัย เราได้ใส่คีย์เวิร์ดคำว่า ‘เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย’ ที่เป็นเช่นนั้น เพราะข้อแรกคือแผนการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดให้เป็นเมืองเดินได้เดินดี (Walkable City) อยู่ในความตั้งใจของเทศบาลฯ อยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นว่าเทศบาลฯ พยายามปรับปรุงทางเท้า และร่มเงาตามจุดต่าง ๆ พร้อมทั้งใส่อัตลักษณ์ ๑๐๑ ไปตามพื้นที่สาธารณะทั่วเมือง รวมถึงการนำเทคโนโลยีในกรอบของสมาร์ทซิตี้เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อเพิ่มเสน่ห์และความปลอดภัยให้เมืองมีความน่าเดินมากขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อปีที่แล้ว (2566) ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ก็ได้ร่วมกับทาง บพท. ขับเคลื่อนงานวิจัยเรื่อง Green City เมืองอาหารปลอดภัย ไปจนถึงเมืองแห่งการเรียนรู้ จะเห็นได้ว่าร้อยเอ็ดมีองค์ความรู้และสาธารณูปโภคที่พร้อมต่อการพัฒนาเมืองค่อนข้างครบแล้ว มาที่โครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด โครงการนี้ เราจึงอยากเติมเต็มในเรื่องการขับเคลื่อนฟันเฟืองทางเศรษฐกิจของเมือง ด้วยต้นทุนของการเป็นเมืองน่าอยู่ และสมาร์ทซิตี้
“ด้วยเหตุนั้น การเดินในคีย์เวิร์ดงานวิจัยเราครั้งนี้ จึงเป็นการทำให้เศรษฐกิจของเมืองเดินได้ ให้ผู้คนทำมาค้าขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งก็สอดรับกับกายภาพของเมืองที่ทางเทศบาลฯ ตั้งใจให้เมืองมีความเป็นมิตรกับผู้คนเดินเท้า ทำให้ผู้คนสุขภาพดี และช่วยกระตุ้นธุรกิจรายย่อยที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง”
Eco Room รูปธรรมของความร่วมมือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
“นอกจากการได้มาของความต้องการของผู้คนในเขตเทศบาลฯ เป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ที่เราคาดหวัง คือการมีเครื่องมือประสานธุรกิจภายในเมืองเข้าด้วยกัน ในปีที่แล้ว บพท. ได้เข้ามาสนับสนุนแอฟพลิเคชั่น ‘ร่วมเรียน’ และ ‘ร่วมค้า’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางเชื่อมผู้ประกอบการและนิเวศของเมืองแห่งการเรียนรู้ไว้ด้วยกัน กล่าวคือ เรามีแพลตฟอร์มแบบ on cloud แล้ว มาปีนี้ เราจึงตั้งใจทำแพลตฟอร์ม on ground เสริมเข้าไป ด้วยการนำข้อมูลและเครือข่ายภาคธุรกิจที่ได้ มาไว้ใน Eco Room โดยได้รับความอนุเคราะห์จากทางเทศบาลในการให้ใช้พื้นที่ภายในหอโหวดฯ
“Eco Room เป็นเหมือนห้องปฏิบัติการให้คนร้อยเอ็ด สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร อัปเดตกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงเป็นพื้นที่จัดเวิร์กช็อปเพื่อเพิ่มองค์ความรู้และทักษะใหม่ ๆ ให้กับผู้คนในเมือง เราตั้งใจให้พื้นที่นี้เป็น Open – Source Data ที่ใครอยากรู้เรื่องอะไรของเมืองร้อยเอ็ด ตารางกิจกรรม แผนการพัฒนาเมือง ไปจนถึงพื้นที่พัฒนาศักยภาพ เพราะต้องยอมรับว่าแม้ร้อยเอ็ดจะพัฒนาไปไกล แต่หลายหน่วยงานของภาครัฐก็อาจจะยังไม่มีการประสานข้อมูลเข้าด้วยกันเท่าที่ควร พื้นที่นี้และช่องทางออนไลน์จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้ผู้คนรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต เราหวังให้พื้นที่นี้ช่วยติดอาวุธให้คนร้อยเอ็ดในการยกระดับเศรษฐกิจ และตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดของหอโหวดฯ นอกเหนือไปจากการเป็นแลนด์มาร์ก หรือแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองดังที่เป็นอยู่”
ติดตามความก้าวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด https://www.facebook.com/researchreru
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…