“เตี่ยพี่แกเคยอยู่ซัวเถา มีวันหนึ่งก็มีเพื่อนบ้านมาบอกว่าจีนกำลังจะมีการปฏิวัติ ถ้าเป็นได้ ให้เดินทางไปเมืองไทยดีกว่า เดี๋ยวจะหนีออกมาไม่ได้ เตี่ยก็เลยนั่งเรือหนีออกมา แกเล่าให้พี่ฟังว่าระหว่างนั่งเรืออยู่ ดันไปเจอพวกทหารญี่ปุ่นบุกยึดเรือ และเอาพวกเตี่ยไปทิ้งที่เกาะไหหลำ เตี่ยกับเพื่อนก็ต้องเดินเท้าจากไหหลำกลับมาตั้งหลักที่ซัวเถา แล้วค่อยวางแผนเดินทางใหม่ จนอายุ 12 แกถึงอพยพมาอยู่เมืองไทยได้ แกเริ่มต้นจากการเป็นลูกจ้างแถวบ้านหม้อที่กรุงเทพฯ ทำได้สักพัก ช่วงนั้นมีสงครามมหาเอเชียบูรพา ก็มีข่าวว่าที่กรุงเทพฯ จะมีระเบิดอีก ก็เลยหนีมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่แก่งคอย…
We Citizens ชวนผู้อ่านมาฟังเสียงของย่านกะดี ผ่านการอ่านย่านกะดีจีน-คลองสานใน E-Magazine ฉบับ "เสียงกะดีจีน" ที่จะพาทุกท่านไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ผู้คน สังคมพหุวัฒนธรรมของย่านที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพมหานคร อ่านนิตยสารออนไลน์ได้ที่ Wecitizens : เสียงกะดีจีน - WeCitizens Flip PDF | AnyFlip
หากคุณไม่ใช่คนในพื้นที่หรือมีโอกาสได้แวะเวียนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ่อยๆ เราค่อนข้างมั่นใจว่าคงนึกภาพเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองขอนแก่นและทางทิศเหนือของเมืองร้อยเอ็ดไม่ออก ณ ผืนดินที่ระหว่างกลางของแอ่งอารยธรรมโคราชและแอ่งอารยธรรมสกลนคร สองแอ่งอารยธรรมหลักที่รวมกันเกิดเป็นภาคอีสาน การอธิบายทัศนียภาพปัจจุบันของกาฬสินธุ์ให้ชัดเจนมากที่สุด บางทีอาจไม่ใช่ วิถีชีวิตริมเขื่อนลำปาว แหล่งขุดพบไดโนเสาร์ หรือตำนานเก่าแก่ว่าด้วยเมืองฟ้าแดดสงยาง หรือองค์ประกอบอื่นๆ ในคำขวัญจังหวัดหากเป็นความเคลื่อนไหวเล็กๆ ที่เราพบบนถนนคนเดินงานมหกรรมฟื้นใจเมือง ‘ภูมิถิ่น แก่งสำโรง โค้งสงเปลือย’ ที่ทางเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ และ…
เมื่อโครงการสร้างทางรถไฟจากกรุงเทพฯ ถึงนครราชสีมา เริ่มต้นขึ้นเป็นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2434 ก่อนจะแล้วเสร็จด้วยระยะทางทั้งสิ้น 265 กิโลเมตร โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการเดินรถเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2443 ได้ก่อสร้างทางผ่านกลางหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลขนงพระ อำเภอจันทึก จังหวัดนครราชสีมา จำเป็นต้องระเบิดภูเขาเพื่อวางทางรถไฟ ทำให้หมู่บ้านถููกระเบิดหินทำทางรถไฟเป็นช่อง จึงเรียกหมู่บ้านปากช่องเขานั้นว่า…
“หนูชื่อเด็กหญิงสุมินตรา ศรีงาม อยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนเทศบาล 6 ทุ่งศรีเมืองประชาวิทย์ ส่วนหนูชื่อเด็กหญิงยิ่งลักษณ์ ถิ่นกระไสย อยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนเดียวกัน เราสองคนอยู่ชมรมดนตรี และเป็นสมาชิกวงดอกพะยอม วงดนตรีประจำโรงเรียน มีครูเสนีย์และครูชลลดาเป็นผู้ฝึกสอนและดูแลวง วงเรามีสมาชิกประมาณ 12-13 คน เป็นวงสตริงผสมโปงลาง…
“ผมเป็นคนนครปฐม ย้ายมาตั้งครอบครัวที่กาฬสินธุ์ อยู่ที่นี่มาสามสิบกว่าปีแล้ว สมัยก่อนผมเป็นผู้จัดการบริษัทไทยสมุทรประกันชีวิต พออายุ 55 ก็เกษียณก่อนกำหนด และมาทำงานจิตอาสาจริงๆ ก็เริ่มงานจิตอาสามาก่อนเกษียณด้วยซ้ำ ที่ทำงานนี้เพราะครั้งหนึ่งผมเคยป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับปอด น้ำหนักลดเหลือไม่ถึง 50 กิโลกรัม ตอนนั้นคิดว่าเราอาจจะตายได้ แต่ก็ยังรอด ก็เลยคิดว่าเราอาจตายอีกทีเมื่อไหร่ไม่รู้ งั้นเอาเวลาที่เหลือไปช่วยคนอื่นดีกว่า ก็เลยไปทำงานมูลนิธิ ปรับปรุงรถกระบะตัวเองให้มีเครื่องอำนวยความสะดวก สำหรับรับส่งผู้ป่วยหรือคนชราที่ไม่สามารถเดินทางเองได้ไปโรงพยาบาล…
Kalasin Learning Dialogue Forumเบื้องหลังวงสนทนาขับเคลื่อนเมืองผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์ลิขิต แก้วหานาม WeCitizens พูดคุยกับ ผศ.ดร. พิมพ์ลิขิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ และนักวิจัยในโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้กาฬสินธุ์ ถึงการจัดทำ Kalasin Learning Dialogue Forum อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญของโครงการ ที่ทางมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ได้ชักชวนปราชญ์ชาวบ้าน…
WeCitizens นัดหมายกับ รศ.ดร.กตัญญู แก้วหานาม อาจารย์สาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ที่บริเวณสวนสาธารณะริมปาว ติดกับศาลเจ้าพ่อโสมพะมิตร ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์นี่เป็นการสนทนาที่อาจไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะพื้นที่แห่งนี้กำลังจัดพิธีเปิดมหกรรมฟื้นใจเมือง ‘ภูมิถิ่น แก่งสำโรง โค้งสงเปลือย’ มหกรรมทางวัฒนธรรมประจำปีของเมืองที่จัดเป็นครั้งแรก โดยต่อยอดมาจากพิธีสักการะพระยาชัยสุนทร (ท้าวโสมพะมิตร) นั่นทำให้การสนทนาของเราถูกแทรกด้วยเสียงจากกิจกรรมบนเวที และเสียงของผู้คนที่มาร่วมงานอยู่บ่อยๆแน่นอน ที่เรานัดคุยกับอาจารย์ในพื้นที่อันแสนอึกทึกขนาดนี้…
“ผมเป็นผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นอกจากดูแลโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กในสังกัดเทศบาลแล้ว พันธกิจของเราคือการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ให้กับคนทุกวัย เช่น ตลาดนัดที่มีพื้นที่กิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน หอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ที่เป็นพื้นที่จุดประกายด้านศิลปะ หรือโรงเรียนผู้สูงอายุ ที่มีหลักสูตรการเรียนรู้สำหรับคนสูงวัย และกิจกรรมให้พวกเขาได้ผ่อนคลาย เป็นต้นผมไม่เคยคิดมาก่อนว่ากาฬสินธุ์พร้อมด้วยคุณสมบัติของเมืองแห่งการเรียนรู้ เพิ่งมารู้ก็เพราะเมื่อทางอาจารย์จากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์มาสร้างความร่วมมือขับเคลื่อนกลไกเมืองแห่งการเรียนรู้นี่แหละ คือเราก็ทำของเรามาเรื่อยๆ จนทางมหาวิทยาลัยเอาหลักวิชาการเข้ามา และเชื่อมโยงกิจกรรมการเรียนรู้กับชุมชนต่างๆ จนพบว่าทางเทศบาลกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์มีเป้าหมายเดียวกัน อย่างงานตลาดสร้างสุขที่จัดทุกเย็นวันอังคารและพฤหัสบดีรอบหอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ ที่เทศบาลร่วมเป็นเจ้าภาพ นายกเทศมนตรีท่านยังมอบหมายงานนี้ให้กับสำนักงานผม ซึ่งดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับการทำตลาดเลย…
“ผมเป็นเด็กที่ไม่ชอบเรียนมากๆ ไม่ชอบวิชาการและไม่ชอบท่องจำ เอาเป็นว่าการศึกษาไทยในสมัยนั้นมันแทบไม่มีพื้นที่ให้เด็กอย่างผมเลยซึ่งแน่นอน ผมสอบเอ็นทรานซ์ไม่ติด จึงต้องสมัครเข้าเรียนภาคสมทบของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม สาขาการออกแบบ (คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมือง และนฤมิตศิลป์) จนได้พบพื้นที่ของตัวเองจากที่นั่น ทั้งการได้คิด ได้ทำโปรเจกต์ และได้ออกแบบ ช่วงเวลานั้นทำให้จากเด็กขี้เกียจคนหนึ่งกลายมาเป็นคนขวนขวายในการสร้างสรรค์ไปเลย ขณะเดียวกัน ก็อยากสื่อสารภาษาอังกฤษให้ได้ เพราะถ้าเราทำงานออกแบบได้และพูดอังกฤษได้ มันจะพาเราไปได้ไกล ก็ไปตีสนิทกับอาจารย์ที่สอนสาขาภาษาอังกฤษให้เขาสอน จะพรีเซนท์งานอาจารย์ทีก็ทำทั้งสองภาษา…