วรัญญา น้อมธงไทย
ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองสระบุรี">
“เราย้ายจากเทศบาลเมืองเขาสามยอด ลพบุรี มาอยู่เทศบาลเมืองสระบุรีประมาณ 2 ปี ก็พอดีกับท่านนายกฯ คนใหม่ (ธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ปี 2564-ปัจจุบัน) ที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง วาง 4 ยุทธศาสตร์ ‘สร้างเมืองน่าอยู่ สร้างคนคุณภาพ’ ทำงานโดยการประสาน ลงพื้นที่…
“นโยบายของท่านนายกฯ (ธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี) คืออยากเพิ่มช่องทางการบริการให้ประชาชน เมื่อก่อน เวลาประชาชนมาติดต่อราชการ จะมีเสียงบ่นว่า นาน ช้า เสียเวลา ทำเรื่องยาก เอกสารเยอะ ประกอบกับช่วงนั้นมีสถานการณ์โควิด-19 การมาติดต่อราชการคือลดไปเลย จึงพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของเทศบาลเมืองสระบุรีขึ้นมา เพื่อให้บริการพี่น้องประชาชน ไม่ต้องเดินทางมาเทศบาลฯ จะได้ร้องเรียน ร้องทุกข์…
“ความเป็นเมืองสระบุรี เราเป็นเมืองผ่านไปสู่จังหวัดต่าง ๆ เป็นแหล่งอุตสาหกรรม มีโรงงานเยอะ แต่ถ้าในบริบทตำบลปากเพรียวที่เป็นเขตเทศบาลเมืองสระบุรีคือไม่มีโรงงาน ยังเป็นชุมชนชาวบ้าน มีตลาดนัด ตลาดต่าง ๆ แต่หลังจากที่มีโรคโควิด-19 คือจุดเปลี่ยน คนที่เคยอยู่ตรงนี้ ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่นมากขึ้น ทำให้สภาพบ้านเมืองเงียบเหงาลง ที่เห็นชัดคือร้านปิดตัว ห้างที่มีคือห้างทวีกิจ ห้างสุขอนันต์ ก็เริ่มดรอปลง คนที่เคยเดินเยอะก็เงียบเหงา…
“โดยหน้าที่ของผมคือประชาสัมพันธ์กิจกรรม เทศกาลต่าง ๆ ที่ทางเทศบาลเมืองสระบุรีเป็นผู้จัดขึ้น โพรโมตสถานที่ท่องเที่ยว สิ่งที่น่าสนใจในเมืองของเราให้ชาวเมืองสระบุรีรวมถึงผู้อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับรู้และอยากมาเยี่ยมเยียน เราเพิ่งจัดแคมเปญ ‘วันเดียวเที่ยว 9 วัด’ เช่น วัดศรีบุรีรตนาราม หรือวัดปากเพรียว เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง เรามีวัดใหม่ที่สร้างขึ้นมาไม่นาน คือวัดเชิงเขา มีพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก เป็นจุดแลนด์มาร์กใหม่ล่าสุด ขึ้นไปด้านบนเจดีย์มองเห็นเมืองสระบุรีได้ 360…
“ความตั้งใจคือ ถ้าจะพัฒนา หรือขับเคลื่อนเมือง ควรมีภาควิชาการมาช่วยทำให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของทั้งประชาชน ของผู้บริหาร ความใฝ่ฝัน ความต้องการในการพัฒนาเมืองของผู้บริหาร อยู่บนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริง ประกอบกับการมีเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนเป็นเครื่องมือสำคัญในการอธิบายข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งเรียกว่าเป็นวิธีการใหม่ คือโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP : The Program for…
“ครอบครัวตั้งแต่รุ่นอากงอาม่าอยู่ที่นี่กันหมด ค้าขายอยู่ตรงท่าน้ำดับเพลิง สมัยก่อนเรียก ท่าปากเพรียว คนจีนเรียก ปั๊กเพียว เป็นท่าเรือริมแม่น้ำป่าสักที่ลงของจากกรุงเทพฯ เข้ามา บ้านที่อยู่ก็โยกย้ายบ้างแต่ก็อยู่บริเวณตลาดนี่แหละ เราเคยชินกับชีวิตที่อยู่ใจกลางเมือง เราหิวเดินไปซื้อได้ เหงา ๆ ก็เดินมาหาเพื่อนในตลาด ทุกคนในตลาดก็รู้จักกันเกือบทั้งหมด เราเคยไปอยู่กรุงเทพฯ กับต่างประเทศหลายปี ช่วงโควิด-19 ก็อยากกลับบ้านมาอยู่กับครอบครัว เมื่อปีที่แล้ว…
“อธิบายความเป็นเมืองสระบุรีก่อนว่า เป็นเส้นทางที่มีถนน 2 เส้นคือถนนพหลโยธินและถนนมิตรภาพ เมืองเป็นศูนย์กลางของทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ เศรษฐกิจ สังคม ทีนี้ เกิดถนนวงแหวนเส้นเลี่ยงเมือง จากอำเภอเมืองไปเชื่อมต่ออำเภอเสาไห้เป็นเส้นเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันตก เส้นเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันออกไปทางตำบลตะกุด ทางอำเภอแก่งคอย จริง ๆ คนในเมืองคือคนในตลาด คนชุมชนเก่าแก่ชาวจีน ก็ไม่ต่างจากพฤติกรรมชุมชนตลาดของแต่ละจังหวัดนะ ที่ไม่ค่อยจับจ่ายใช้สอย แต่เมื่อมีการกระจายของเมืองเป็นวงกลมที่เส้นผ่านศูนย์กลางเป็นรัศมีกว้างขึ้น…
“การพัฒนาเมืองต้องร่วมมือกัน ถ้าปราศจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชน มันไม่เกิดขึ้น แล้วควรเป็นความร่วมมือแบบจริงใจ เอาจริง ๆ แค่ทุกคนทำตามหน้าที่ตัวเอง ผมว่าเราทำได้ ภาครัฐก็ควรเชื่อมโยงกันทุกหน่วยงาน ในยุคนายกฯ คนล่าสุด (ธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี) เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า เมืองพัฒนาไปหลายรูปแบบ ตรงโน้นตรงนี้มีการเปลี่ยนแปลง…
ผศ.สรายุทธ ทรัพย์สุข หัวหน้าโครงการวิจัย “การพัฒนาฟื้นฟูศูนย์กลางพาณิชยกรรมเมืองสระบุรีเพื่อรับมือกับสภาวะเมืองหดตัว” และ ผศ. ดร.ณัฐพงศ์ พันธ์น้อย ผู้ช่วยคณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิจัยโครงการ จังหวัดสระบุรีเป็นพื้นที่ศักยภาพในการพัฒนาเชิงเศรษฐกิจในเขตภาคกลางตอนบน เนื่องจากมีระบบโครงข่ายการคมนาคมเพียบพร้อมสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับกรุงเทพมหานครและภูมิภาคต่าง ๆ ได้สะดวก ภายในพื้นที่มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งผลิตพืชผลทางการเกษตร แหล่งผลิตอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และการก่อสร้าง และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ…
“เราเรียนจบมาด้านสิ่งแวดล้อม (ปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และปริญญาโทด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ - ผู้เรียบเรียง) จบมาเราก็ได้งานเป็นนักวิชาการสิ่งแวดล้อมที่เทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งทำต่อเนื่องมา 7 ปีแล้วถึงจะเป็นเมืองปริมณฑลขนาดใหญ่ แต่ปากเกร็ดก็ยังมีธรรมชาติที่สมดุล เมืองเราติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และยังมีชุมชนที่ยังทำเกษตรกรรมอยู่โดยรอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากขึ้นทุกทีในเมืองใหญ่แบบนี้แต่รากฐานที่ดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีการต่อยอดด้วย เทศบาลนครปากเกร็ดจึงได้ร่วมกับภาคเอกชนและเครือข่ายภาคประชาชน ผลักดันให้เกิดโครงการอนุรักษ์ทุเรียนนนท์กว่า 60 สายพันธุ์ที่สวนสมเด็จฯ…