สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามาก
จนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9
คำตรัสของพระองค์ท่าน

เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง

“สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดง

เช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527 ผมติดตามพ่อไปแสดงหนังตะลุงหน้าพระพักตร์ในหลวง ร.9 ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ และมีโอกาสได้เข้าเฝ้าหลังการแสดง จำได้เลยว่าพระองค์ท่านรับสั่งว่า ‘หนังตะลุงเป็นศิลปวัฒนธรรม อยากให้ช่วยถ่ายทอด อย่าหวงวิชา’ ซึ่งสิ่งนี้เปลี่ยนมุมมองของพ่อไปอย่างสิ้นเชิง

พิพิธภัณฑ์บ้านหนังตะลุง สุชาติ ทรัพย์สิน เกิดขึ้นเพราะเหตุนี้เมื่อปี 2530 เราเปลี่ยนบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอหนังตะลุงอายุกว่า 100 ปีที่พ่อรวบรวมมาจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ มีการสาธิตการตอกตัวหนัง และการเชิดหุ่น เปิดให้ผู้ที่สนใจมาเรียนรู้

เราเริ่มต้นจากพื้นที่เล็ก ๆ ที่ดึงดูดคนที่มีความสนใจเฉพาะ กระทั่งปี 2538 พิพิธภัณฑ์เราได้รับรางวัล Thailand Tourism Award จาก ททท. เป็นครั้งแรก ก่อนจะได้รับรางวัลอื่น ๆ ตามมา อานิสงส์จากรางวัล ทำให้พิพิธภัณฑ์เราได้รับการประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลก ซึ่งก็ทำให้กลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของเมืองนครไป

คุณพ่อเสียชีวิตในปี 2558 โดยผมก็พยายามสืบสานความตั้งใจของท่านในการเผยแพร่ศิลปะหนังตะลุงให้เป็นมรดกแก่คนรุ่นหลัง ในฐานะที่เป็นทั้งคนตอก คนแสดง และคนสอน ผมก็พยายามปรับให้หนังตะลุงมันสอดรับไปกับยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งการออกแบบตัวหนังให้มีบริบทร่วมสมัย เช่น การให้ตัวละครสวมเครื่องแต่งกายสมัยใหม่ ใส่หน้ากากอนามัยในช่วงโควิด-19 หรือการทำให้ตัวหนังเป็นของที่ระลึก (คุณวาทียังแกะตัวหนังเป็นรูปตูน-บอดี้สแลม เพื่อนำไปประมูลสมทบทุนโครงการก้าวคนละก้าว—ผู้เขียน)

ทุกวันนี้หนังตะลุงยังคงเป็นมหรสพที่ได้รับความนิยมในภาคใต้อยู่ แต่คนแกะตัวหนังนี่เริ่มล้มหายตายจากกันไปพร้อมกับนายหนังรุ่นคุณพ่อกันไปพอสมควรแล้ว ก็คิดว่าอยากให้พิพิธภัณฑ์ของเราเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ช่วยสร้างสมดุลของการอนุรักษ์ และการต่อยอดเชิงความคิดสร้างสรรค์ต่อไป”

หมายเหตุ : วาที ทรัพย์สิน เป็นบุตรชายของ สุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงหนังตะลุง นายหนังชาวนครศรีธรรมราช ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านหนังตะลุง เมื่อปี 2530 และผู้มีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงหนังตะลุงให้กลายมาเป็นมรดกด้านศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้


#พิพิธภัณฑ์บ้านหนังตะลุงสุชาติทรัพย์สิน #เทศบาลนครนครศรีธรรมราช #CIAP #มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ #มหาวิทยาลัยมหาสารคาม #WECITIZENS #บพท #PMUA #เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด

Wecitizens Editor

Recent Posts

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

1 day ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

3 days ago

[The Citizens]<br />รัชฎาพร นรนวล

เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…

4 days ago

[The Citizens]<br />อัญชลี หนูรักษ์

การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…

4 days ago

[The Insider]<br />พัชรากร ขุนทอง

แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…

4 days ago

[The Insider]<br />ภูวนาถ ทีฆะ

คนจากกรมหรือเทศบาลอื่น ๆ มาเยี่ยมก็ตกใจทำไมจำนวนคนแค่นี้ระบบไอทีของเมืองนครถึงพัฒนาได้เร็วนักซึ่งจริง ๆ มันไม่มีอะไรซับซ้อนเลย “ผมเป็นคนตรัง เรียนสายไอที จบมาก็เป็นโปรแกรมเมอร์ ทำงานอยู่บริษัทใหญ่ในกรุงเทพฯ รายได้ดีเลย และมีเส้นทางที่ก้าวหน้าในอาชีพ ปัญหาก็คือ แม่ผมเขาอยากให้รับราชการและอยากให้ทำงานใกล้บ้าน แต่นั่นล่ะครับ หลายคนทราบดีว่า…

6 days ago