“ทุกวันนี้ป่าในเมืองใหญ่เหลือน้อยเต็มทีแล้ว
แต่ที่พิเศษคือที่นี่เป็นทั้งป่าชุมชนและแหล่งเรียนรู้
ที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน”
“ในพื้นที่ระดับเทศบาลนคร มีไม่กี่เมืองหรอกที่จะมีภูเขา ป่าชุมชน และวิถีดั้งเดิมของชาวบ้านเหลืออยู่ ชุมชนดอยสะเก็นที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของเมืองเชียงรายคือหนึ่งในนั้น
ชุมชนเราอยู่ห่างจากย่านใจกลางเมืองแค่ 5 กิโลเมตร ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและยังคงมีวิถีในการหาของป่า โดยมีดอยสะเก็นที่อยู่ติดกับหมู่บ้านเป็นแหล่งทรัพยากร และความที่เรามีเอกลักษณ์เช่นนี้ ทางชุมชนและเทศบาลนครเชียงรายจึงเห็นศักยภาพในการพัฒนาที่นี่ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้แห่งใหม่ของเมืองขึ้น
จุดเริ่มต้นมาจากเมื่อโรงเรียนบ้านทุ่งมน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่เชิงเขาในหมู่บ้านปิดตัวลงเมื่อหลายสิบปีก่อน พื้นที่โรงเรียนถูกเปลี่ยนให้เป็นสนามกีฬาของหมู่บ้าน ขณะที่อาคารเรียนก็ถูกใช้เป็นที่ประชุมเหมือนศาลาประชาคม ซึ่งเมื่อเรามีพื้นที่กลางให้ผู้คนได้พูดคุยกัน เราก็มองเห็นตรงกันกับเทศบาลฯ ว่า ป่าในชุมชนเรามันเป็นได้มากกว่าแหล่งทรัพยากร แล้วยังสามารถเป็นห้องเรียนกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมองค์ความรู้มีหลายมิติอีกด้วย
ตรงนั้นเองที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICA) เข้ามาสนับสนุนเทศบาลฯ ในการปรับปรุงพื้นที่ จนเกิดเป็นโครงการ ‘คีรีชัย ยามะ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น’ มีการทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ป้ายบอกข้อมูล และสาธารณูปโภคต่าง ๆ ขณะที่เทศบาลฯ ก็พัฒนาหอชมเมืองเป็นสกายวอล์กเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่
ส่วนชาวบ้านก็ร่วมกันตั้งคณะกรรมการเพื่อออกแบบโปรแกรมการเรียนรู้ สร้างฐานการเรียนรู้ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งครอบคลุมองค์ความรู้ตั้งแต่ความหลากหลายทางชีวภาพของป่า ศิลปวัฒนธรรมชุมชน ไปจนถึงศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรปลอดภัย เชื่อมไปกับนโยบายเมืองอาหารปลอดภัยของเทศบาลฯ โดยที่ผ่านมานักเรียนโรงเรียนเทศบาล 6 ก็มาร่วมกันทำสมาร์ทฟาร์ม และเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ทั้งการทำปุ๋ยชีวภาพ กระบวนการทำเกษตรอินทรีย์ และอื่น ๆ
เบื้องต้น ศูนย์ฯ แห่งนี้รองรับกิจกรรมออกค่ายของเด็กนักเรียนในสังกัดเทศบาลก่อน จากนั้นเมื่อเราเซ็ตอัปกิจกรรมได้สมบูรณ์ เราก็เปิดให้โรงเรียนนอกเขตมาร่วมกิจกรรม รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเดินสกายวอล์ก ก็สามารถเดินป่า ดูวิถีชุมชน หรือเรียนรู้เรื่องเกษตรปลอดภัยได้ โดยมีตัวแทนจากชุมชนเราเป็นวิทยากร
อย่างที่บอกว่าศูนย์ฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ย่านใจกลางเมืองมาก ๆ จะเรียกว่าป่าในเมืองก็ไม่ผิด ทุกวันนี้ มันหายากเต็มทีแล้ว ที่จะมีพื้นที่ในเมืองที่เราได้เดินดูผีเสื้อ นก แมลง หรือกระทั่งดูหิ่งห้อยในหน้าฝน และที่สำคัญ มันยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชน ที่มองเห็นของดีในบ้านตัวเอง และพร้อมนำเสนอออกมาด้วยความภูมิใจ”
#เทศบาลนครเชียงราย #มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง #หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ #บพท #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #CIAP #wecitzens
“มหาวิทยาลัยวัยที่สามคือพื้นที่ของคนสูงวัยที่หัวใจไม่แก่ตาม” “นักศึกษาในมหาวิทยาลัยวัยที่สามของเรามีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป อาวุโสสุดนี่ก็ 80 กว่าปี ใช่ครับ… ถ้าอธิบายด้วยภาษาง่าย ๆ ที่นี่คือโรงเรียนผู้สูงอายุทำไมจึงเรียกมหาวิทยาลัย? เพราะโรงเรียนเราเริ่มต้นดำเนินการโดยอาจารย์มหาวิทยาลัย ก็เลยเรียกชื่อนั้น แต่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียนผู้สูงอายุทั่วไปก็ตรงที่ คณะกรรมการของเราเป็นประชาชนทั่วไปในชุมชนต่าง…
“เพราะไม่ใช่แค่คนในเมืองมีความสุข แต่อาชีพฐานรากของเมืองอย่างเกษตรกร ก็ต้องมีความสุขด้วย” “จริง ๆ ชุมชนป่างิ้ว และชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่บริเวณหาดเชียงราย เขาริเริ่มทำเกษตรปลอดภัยมาเกือบ 20 ปีแล้ว และเทศบาลนครเชียงรายก็เล็งเห็นว่าที่นี่คือชุมชนต้นแบบสำหรับเมืองอาหารปลอดภัย จึงนำมาสู่การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เกษตรปลอดภัยภายใต้โครงการ ‘ปลูกเพาะรักษ์’ ขึ้นเมื่อปี 2566…
“เขื่อนป้องกันน้ำท่วมเป็นการรับมือที่ปลายเหตุสำคัญกว่านั้นคือวิธีบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทาง” “พูดถึงเรื่องน้ำท่วมเชียงราย จริง ๆ แล้ว เทศบาลฯ เรามีการทำโครงสร้างพื้นฐานไว้รองรับพอสมควร แต่ต้องยอมรับว่าครั้งที่ผ่านมา (ปี 2567) เป็นครั้งที่หนักที่สุดในรอบหลายสิบปี และเราไม่อาจรับมือได้ทันการหนึ่งในข้อจำกัดของเมืองคือ พื้นที่ริมแม่น้ำกกที่พาดผ่านเมืองส่วนใหญ่เป็นที่ดินเอกชน ทำให้มีการจัดการที่ยากกว่าหลาย ๆ…
“เชียงรายเผชิญปัญหาหมอกควันจากการเผาเศษวัสดุพืชเชิงเดี่ยวมานาน เราจึงใช้สมุนไพรเป็นทางเลือกใหม่ ให้เกษตรกรค่อย ๆ เปลี่ยนผ่านสู่การปลูกพืชสมุนไพรคุณภาพสูงแทน” อาจดูเหมือนเป็นความบังเอิญ แต่ในปี 2562 ปีเดียวกับที่เทศบาลนครเชียงรายได้รับเลือกให้เป็น “เมืองแห่งการเรียนรู้” เมืองแรกของประเทศไทยในเครือข่าย UNESCO Global Network of Learning Citiesมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงก็ได้จัดตั้ง “ศูนย์นวัตกรรมสมุนไพรครบวงจร”…
พลวัตการเรียนรู้ สู่เมืองเชียงรายที่น่าอยู่ “ถามว่าเชียงรายน่าอยู่อย่างไร คำตอบมีเยอะมากครับแต่สำหรับผม เชียงรายที่น่าอยู่ คือเมืองที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้ เติบโต และใช้ศักยภาพของตัวเองสร้างชีวิตที่ดีขึ้น” ในห้องประชุมบนชั้น 2 ของสำนักงานเทศบาลนครเชียงราย นอกจากจะเห็นโล่และเหรียญรางวัลด้านการบริหารและพัฒนาเมืองที่เทศบาลฯ แห่งนี้ได้รับมากมาย เรายังเห็นแผนภาพกรอบวิสัยทัศน์การพัฒนาเมือง พร้อมภาพถ่ายการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลายเต็มสองข้างของผนัง…
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองนครสวรรค์ : เมือง Esports น่าอยู่ที่ชาญฉลาด Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/yevj/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mljGnwRM8P5LXWD.../view...…