“เราเป็นนักวิชาการสาธารณสุข ประจำกองการแพทย์ เทศบาลนครนนทบุรี งานหลักคือการดูแลแผนงานของกองการแพทย์ และรับผิดชอบโครงการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง โดยเฉพาะกลุ่มที่ติดบ้านหรือติดเตียง
บทบาทนี้ทำให้เราได้เป็นผู้ประสานงานระหว่างเทศบาลฯ กับโครงการวิจัยของ บพท.
ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาระบบและเครื่องมือดูแลสุขภาวะผู้สูงอายุ ทำให้เราเห็นภาพใหญ่มากขึ้นว่า ในเมืองของเรา — ไม่ใช่แค่นนทบุรี แต่รวมถึงทุก ๆ เมือง — ผู้สูงอายุไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มคนที่รอการดูแล แต่พวกเขาคือข้อมูลสำคัญในการออกแบบเมืองให้น่าอยู่
ปัจจุบัน กองการแพทย์ของเรามีระบบ GIS ที่บันทึกข้อมูลผู้สูงอายุแต่ละบ้าน สามารถระบุได้ว่าผู้นั้นอยู่ที่ใด อยู่ในกลุ่มใด ยังช่วยเหลือตัวเองได้ หรือจำเป็นต้องมีคนดูแลตลอดเวลา พอมีระบบนี้ ก็ช่วยในการวางแผนเยี่ยมบ้าน การจัดการทีม อสม. และยังช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงเห็นภาพรวมของศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 11 แห่งที่ครอบคลุม 93 ชุมชนในเขต
เรายังพัฒนาต่อยอดร่วมกับแอปพลิเคชันเมือง โดยเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้กับแอปฯ ‘นครนนท์’ ของเทศบาลฯ เพื่อให้คนในพื้นที่เข้าถึงการดูแลได้ง่ายขึ้น และเจ้าหน้าที่สามารถวางแผนงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การเข้าถึงและเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้ส่งผลต่อการออกแบบนโยบายของเทศบาลฯ ให้ตอบโจทย์ประชาชนได้ดีขึ้น เพราะเมื่อมีข้อมูลเฉพาะ เราก็สามารถส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ได้อย่างตรงจุด เช่น บางชุมชนที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความเสี่ยง ก็อาจเน้นกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ขณะที่บางพื้นที่อาจต้องมีกายภาพบำบัดถึงบ้าน หรือแม้แต่หน่วยบริการเคลื่อนที่
นโยบายที่ชัดเจนเช่นนี้ส่งผลต่อการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่โดยตรง เพราะไม่ใช่แค่การออกแบบแผนบริการ แต่ยังรวมถึงการลงทุนด้านกายภาพ เช่น การยกระดับศูนย์บริการเฉพาะทาง การเพิ่มพื้นที่กิจกรรม พื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่ผ่อนคลายให้ครอบคลุมชุมชน และที่สำคัญคือ การเข้าถึงข้อมูลรอบด้าน ซึ่งช่วยให้ผู้สูงวัยและผู้ป่วยไม่หลุดรอดจากระบบดูแล
เมืองน่าอยู่สำหรับเรา คือเมืองที่ผู้คนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และมีพื้นที่พักผ่อนที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของทุกคน”
#เทศบาลนครนนทบุรี #มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ #บพท #pmua #CIAP #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด“
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…