“กับองค์ความรู้บางอย่างที่คุณมั่นใจหนักหนาว่ามันสามารถเลี้ยงชีวิตคุณไปจนตาย ก็ไม่แน่ว่าเดี๋ยวนี้จะเป็นแบบนั้น”

ถ้าคนระยองเรียนจบด็อกเตอร์ แต่กลับหางานทำที่บ้านเกิดของตัวเองไม่ได้ ผมว่ามันไม่ใช่

ขณะเดียวกัน แม้เมืองของเราจะขึ้นชื่อเรื่องเศรษฐกิจที่ดี แต่เศรษฐกิจที่ดีที่ว่านี้ กลับถูกขับเคลื่อนจากคนทำงานจากจังหวัดอื่นๆ ที่ย้ายเข้ามาทำงานในเมืองเรา อันนี้ผมว่าก็ไม่ถูก

ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้ต่อต้านอะไรคนจากที่อื่นนะ เพียงแต่รู้สึกเสียดายที่คนระยองเราน่าจะมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบ้านเมืองเราให้มากกว่าที่เป็นอยู่ นั่นทำให้ผมกลับไปหาสาเหตุ จนมาพบว่าปัจจัยสำคัญคือการศึกษา ที่ผ่านมา คนระยองเรียนผิดทาง จบออกมาจึงต้องไปหางานที่อื่นหมด และนั่นทำให้ทุกภาคส่วนในจังหวัด เห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่การศึกษาระยองต้องเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของเมืองจริงๆ เสียที

ระยองมีจุดเด่นอะไร? อุตสาหกรรม ประมง การท่องเที่ยว และการเกษตร แต่เพราะเด็กระยองยังเรียนในระบบแบบเดิม ไม่ได้ถูกหล่อหลอมให้มีทักษะที่รองรับจุดเด่นเหล่านี้เลย นั่นจึงเป็นที่มาให้ภาคส่วนต่างๆ นำร่องโครงการจังหวัดนวัตกรรมการศึกษา ปรับปรุงหลักสูตรการสอนในสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้สอดคล้องกับโจทย์ในพื้นที่ ซึ่งระยองเราทำก่อนรัฐบาลประกาศพื้นที่เขตนวัตกรรมการศึกษาเสียอีก

และพอรัฐบาลประกาศ มันก็สอดคล้องตรงกันพอดี ทำไปทำมา เราก็เห็นว่ามันมีอย่างอื่นต้องส่งเสริมอีก จึงมีการตั้งสถาบันการเรียนรู้ของคนทุกช่วงวัย (RILA) ขึ้นมา ให้คนของเราได้ reskill และ upskill ได้ตลอดไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ 

ผมว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ถ้าคนรุ่นใหม่ยังตอบไม่ถูกว่าโตขึ้นจะเป็นอะไร หรือมีความสนใจอะไรเฉพาะ สิ่งสำคัญก็คือเมืองเราต้องมีพื้นที่ แพลทฟอร์ม หรือโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึงการเรียนรู้เพื่อที่จะพัฒนาและค้นพบตัวเองได้ตลอดเวลา เพราะอย่าลืมว่าเทคโนโลยีสมัยนี้มันเปลี่ยนแปลงเร็ว กับองค์ความรู้บางอย่างที่คุณมั่นใจหนักหนาว่ามันสามารถเลี้ยงชีวิตคุณไปจนตาย ก็ไม่แน่ว่าเดี๋ยวนี้จะเป็นแบบนั้น การเข้าถึงการเรียนรู้และการพัฒนา ขณะเดียวกันทุกคนก็มีความยืดหยุ่นและพร้อมจะปรับตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ

แต่ขณะเดียวกัน การรักษาต้นทุนดั้งเดิมที่คุณมีอยู่แล้วก็เป็นเรื่องจำเป็น อย่างสมมุติคุณเป็นลูกชาวสวน คุณเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่อยากทำสวนเหมือนพ่อแม่ แต่หากคุณรักษาต้นทุนนี้ไว้ เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี เรื่องการตลาด หรือการขายสินค้าออนไลน์ก็ว่ากันไป ปรับให้สวนผลไม้ของพ่อแม่คุณเป็นสมาร์ทฟาร์ม หาช่องทางการขายให้พวกเขา คุณมีต้นทุนดีอยู่แล้วนี้ คุณเสริมเข้าไป มูลค่าก็มาเอง

ผมยกตัวอย่างสวนทุเรียนแห่งหนึ่งที่ตำบลนาตาขวัญ เขามีที่ดินไม่ถึง 10 ไร่ มีข้อจำกัดด้านการผลิต แต่คุณไม่มีโอกาสได้กินทุเรียนของเขาเลย เพราะทุเรียนทุกต้นมีคนจองเต็มหมดแล้ว มันถูกจองตั้งแต่ทุเรียนยังไม่ออกผลด้วยซ้ำ เขาเปิดขายออนไลน์ ให้คนจองต้นไปเลย โมเดลนี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องเอาทุเรียนไปขายล้งให้โดนกดราคา พอสวนคุณถูกจองเต็มหมด คุณก็ไปดีลกับสวนทุเรียนเพื่อนบ้านให้เอามาขายได้อีก ตั้งกลุ่มไปเลย ใช้การตลาดนำ 

ผมถึงบอกว่าถ้าคุณเข้าถึงเทคโนโลยีและไม่หยุดเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ก็จะเจอโอกาสในเมืองนี้อีกเยอะ คุณจะค้าขายทางออนไลน์และออนไซท์ก็มี อย่างคุณขายสินค้าเกษตร อบจ.เราก็ช่วยเรื่องการหาตลาดวางขายให้ด้วย หรืออีกหน่อยสนามบินเราเปิดนานาชาติ มีแอร์พอร์ทซิตี้ตามมา ช่องทางทำมาหากินตามมาอีกเยอะ

เอาเข้าจริง แต่ไหนแต่ไรผมมองว่าคนระยองมีข้อดี คือทุกคนพร้อมปรับตัวและคุยกันเข้าใจง่าย เพราะถ้าไม่เป็นแบบนั้น นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างทุกวันนี้มันเกิดขึ้นที่เมืองนี้ไม่ได้หรอก เหมือนกับคนลงทุนเขาก็ต้องศึกษาก่อนว่าภูมิศาสตร์ตรงไหนเหมาะแก่การลงทุน ทำไมโรงแยกก๊าซต้องมาขึ้นระยอง ปิโตรเคมี อุตสาหกรรม และอื่นๆ เมื่อสิ่งเหล่านร้พุ่งตรงมาที่ระยองแล้ว พอคนระยองคุยกันเข้าใจง่าย ทุกอย่างจึงเกิดขึ้น และคนระยองก็สามารถหาประโยชน์จากการพัฒนาที่เข้ามาได้

โลกยุคหลังจากนี้ก็เช่นกัน เมื่อระยองของเรามีพร้อมหมดแล้ว การศึกษาเราก็ปรับให้เข้ากับเมืองแล้ว จากนี้ก็อยู่ที่คนระยองยุคใหม่อีกเช่นกันที่มีความสามารถปรับตัวและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อจะสร้างความมั่นคงหรือมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเมือง และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนอื่นๆ ในเมืองได้มากแค่ไหน ซึ่งถ้าถามผม ผมว่าคนของเรามีศักยภาพที่จะทำได้”

ปิยะ ปิตุเตชะ
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

4 days ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

2 weeks ago