“ในโครงการวิจัยเมืองแห่งการเรียนรู้กาฬสินธุ์ เรารับผิดชอบในการออกแบบกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่การเรียนรู้ของโครงการ โดยพื้นที่เรียนรู้ที่ว่า คือ ‘ตลาดสร้างสุข’ ซึ่งจัดขึ้นทุกวันอังคารบนถนนรอบอาคารศาลากลางหลังเก่า หรือหอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์
ตลาดนี้ (ตลาดสร้างสุข) เป็นโครงการที่ทีมวิจัยของเราต่อยอดมาจาก ‘ตลาดนัดเด็กดี’ ซึ่งเป็นพื้นที่การเรียนรู้ภายในตลาดเมืองเก่าย้อนเวลา ณ ชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ ในปี 2564 เพราะตลาดหรือถนนคนเดินคือพื้นที่จับจ่ายใช้สอยและผ่อนคลายสำหรับทุกคนในครอบครัว เราจึงเห็นว่าควรหนุนเสริมพื้นที่กิจกรรมให้เด็กๆ ที่มากับผู้ปกครอง รวมถึงวัยรุ่นได้มีสถานที่ให้พบปะและทำกิจกรรมในเชิงสร้างสรรค์
พอมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ได้งบประมาณจาก บพท. มาขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ จึงมีการจัดตั้งตลาดสร้างสุขในรูปแบบถนนคนเดินรอบหอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ เพราะนอกจากเราจะใช้หอศิลป์ฯ แห่งนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เรียนรู้ของโครงการ กิจกรรมที่เกิดขึ้นในตลาดรอบหอศิลป์ก็ควรเป็นกิจกรรมที่เชื่อมร้อยเรื่องการเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองของเราด้วย
เราจึงออกแบบกิจกรรมให้ครอบคลุมกับแทบทุกความสนใจเด็กและเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมโคเวอร์แดนซ์ การระบายสีปูนปลาสเตอร์ บอร์ดเกม ไปจนถึงสาธิตการทำธุง (ธงที่ใช้ในพิธีกรรมของอีสาน) ไปจนถึงการทำข้าวจี่ ซึ่งเราก็ได้สอดแทรกองค์ความรู้เรื่องเมืองกาฬสินธุ์ในทุกกิจกรรมที่ว่ามา อาทิ ระบายสีปูนปลาสเตอร์สัญลักษณ์ของเมือง อาทิ โปงลาง หรือไดโนเสาร์ หรือการเล่นบิงโกอาหารอีสาน เป็นต้น
ทั้งนี้ เราก็ได้ทั้งเด็กๆ ที่มาร่วมกิจกรรมกับเราเป็นขาประจำ และเด็กขาจรที่ตามผู้ปกครองมาเดินตลาด รวมถึงที่คุณครูโรงเรียนต่างๆ ชวนมาร่วมงาน ซึ่งเราก็ดีใจนะ เพราะครูจากหลายโรงเรียนก็สนใจที่จะนำกิจกรรมหนุนเสริมการเรียนรู้เหล่านี้ไปใช้กับโรงเรียนของเขาบ้าง
นอกจากนี้ ก่อนที่เราจะเริ่มโครงการตลาด ช่วงนั้นเป็นช่วงที่โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง จึงทำกิจกรรมออนไซท์ไม่สะดวกนัก เราจึงทำเส้นทางท่องเที่ยวเรียนรู้เมืองกาฬสินธุ์ผ่านทัวร์เสมือนจริงในเว็บไซต์ kalasinlearningcity.com นำเสนอ 5 สถานที่สำคัญของเมืองผ่านภาพถ่าย 360 องศา ได้แก่ วัดกลาง (พระอารามหลวง) หอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์ อนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร (ท้าวโสมพะมิตร) ศาลเจ้าโสมพะมิตร และตลาดเมืองเก่า พร้อมประวัติและข้อมูลของพื้นที่นั้นๆ
แล้วก็กลายเป็นว่าจากที่ต้องแก้ปัญหาที่ไม่สามารถทำกิจกรรมออนไซท์ได้ ภาพถ่าย 360 องศาก็ได้เปิดโอกาสให้เราได้นำเสนอสถานที่ที่ถ้าเราไปจริงๆ เจ้าของสถานที่เขาอาจไม่เปิดให้เราเข้าชม โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์วัดกลาง ซึ่งเรามองว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ลับ เพราะทางวัดจะไม่ได้เปิดให้เข้าชมตลอด ในนั้นมีโบราณวัตถุหายากของเมืองหลายชิ้น
หรืออนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร และศาลเจ้าโสมพะมิตร ที่เด็กๆ กาฬสินธุ์อาจคุ้นเคย เพราะเคยนั่งรถหรือเดินผ่าน พอเราทำภาพถ่าย 360 องศาในเว็บไซต์ ก็จะทำให้ได้เห็นรายละเอียดของสถานที่นั้นๆ พร้อมไปกับได้เรียนรู้ความสำคัญจากข้อมูลที่เราเรียบเรียงขึ้นมา ซึ่งหาอ่านไม่ได้จากสถานที่จริง เป็นต้น
ในปีต่อไป เรามีแผนจะขยายพื้นที่การเรียนรู้ไปยังริมคลองปาว บริเวณศาลเจ้าพ่อโสมพะมิตร ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ร่วมกับเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์และ บพท. นำร่องกับโครงการตลาดริมน้ำปาวฟื้นใจเมือง ภูมิถิ่น แก่งสำโรง โค้งสงเปลือย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (2566) แน่นอน ในตลาดนั้นเราก็นำกิจกรรมการเรียนรู้และการแสดงของเด็กๆ และเยาวชนกาฬสินธุ์มาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน
เราเชื่อว่าการที่เมืองมีศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กๆ เป็นเรื่องดีมากๆ แต่พอมันอยู่ในรูปแบบที่เป็นทางการ เด็กบางคนก็อาจไม่อยากไป เพราะรู้สึกเหมือนถูกครูบังคับให้ต้องไปใช้พื้นที่ จึงคิดว่าถ้าเรานำพื้นที่เรียนรู้ไปวางไว้ในพื้นที่ที่ไม่เป็นทางการ แต่เป็นพื้นที่ที่ทุกคนต้องใช้ร่วมกันในชีวิตประจำวัน เช่น ตลาดนัด แทนที่เด็กๆ จะรู้สึกว่าต้องไปเรียนรู้ กลายเป็นว่าพวกเขาได้มาเล่นสนุกกับเพื่อนๆ พร้อมทั้งได้ความรู้กลับไป มันจึงเป็นเหมือนเอาพื้นที่เรียนรู้ลงไปหากลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นธรรมชาติไปโดยปริยาย”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาริยา ป้องศิริ
อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
นักวิจัยในโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้กาฬสินธุ์
http://www.kalasinlearningcity.com/
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…
“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…
“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…
“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม) จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…
“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…