การศึกษาเรื่องการทำงานข้ามภาคส่วน ทำให้เข้าใจโครงสร้างของการทำงานร่วมกัน ระหว่างชุมชน ภาคเอกชน และรัฐ ซึ่งจะกลายเป็นโมเดลในการขับเคลื่อนเมืองต่อไป

“เชียงใหม่เป็นเมืองมหาวิทยาลัย เราจึงมีงานวิจัยเกี่ยวกับเมืองเยอะมากๆ ขณะเดียวกัน เมืองเรามีภาคประชาสังคมที่ทำงานครอบคลุมแทบทุกด้าน ก็เป็นเช่นที่หลายคนมองเห็นตรงกันคือ แม้เราจะมีบุคลากรและทรัพยากรที่พร้อมสรรพ แต่เราก็กลับขาดการทำงานร่วมกัน ต่างคนต่างทำงานในพื้นที่หรือศาสตร์เฉพาะของตนเองไป ซึ่งทำให้มีไม่น้อยที่เมื่อเราทำๆ ไปของเราฝ่ายเดียวเรื่อยๆ แล้วเราก็พบกับทางตัน

พออาจารย์สันต์ (รศ.ดร. สันต์ สุวัจฉราภินันท์) มาชวนเราทำโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ของเชียงใหม่ ทั้งอาจารย์และเราก็ต่างมองตรงกันว่าควรจะมีการศึกษากลไกการทำงานแบบข้ามภาคส่วน เพราะเชื่อว่าไม่ว่าเมืองจะพัฒนาเป็นอะไรสักอย่าง เป็นเมืองหัตถกรรม เมืองสร้างสรรค์ เมืองมรดกโลก หรือเมืองแห่งการเรียนรู้ สิ่งที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายได้คือการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน บุคคล หรือกลุ่มต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงหรือภาคส่วนเดียวกัน

โดยคำว่าคนละภาคส่วนนี่ไม่ใช่หมายถึงแค่รัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม หรือชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการทำงานข้ามศาสตร์หรือองค์ความรู้กันระหว่างคนทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรม ไปจนถึงงานด้านสังคม และรัฐศาสตร์ ซึ่งเราก็เข้าไปศึกษาว่าตลอด 30 ปีหลังมานี้ แต่ละกลุ่มทำงานอย่างไร เคยทำงานร่วมกันด้วยกระบวนการแบบใดบ้าง

การเลือกพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมของโครงการนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่คณะทำงานมองเห็นถึงความร่วมมือข้ามภาคส่วนดังกล่าว อย่างชุมชนควรค่าม้าที่ภาคชุมชนเป็นฝ่ายลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมเอง ก่อนที่ภาครัฐหรือภาคประชาสังคมมาร่วมสนับสนุน หรือที่ช้างม่อยที่มาจากการร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการรุ่นใหม่กับชาวบ้านในชุมชน ส่วนชุมชนป่าห้าจะแตกต่างจากสองพื้นที่หน่อย เพราะชุมชนเก่าแห่งนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงของการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ความเป็นชุมชนจึงค่อยๆ เลือนหายไป พร้อมกับกายภาพของลำเหมืองซึ่งเป็นระบบชลประทานดั้งเดิมของเมือง เราจึงโฟกัสไปที่การข้ามภาคส่วนกันระหว่างวัฒนธรรมและความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ในชุมชน กับแง่มุมด้านการเรียนรู้ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ซึ่งเราพบว่าหนึ่งในอุปสรรคสำคัญการทำงานข้ามภาคส่วนคือความต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านงบประมาณ เพราะต้องยอมรับว่ากิจกรรมใดๆ ก็แล้วแต่ เราจำเป็นต้องใช้เงิน แต่เราไม่สามารถการันตีได้เลยว่าในทุกๆ ปีภาครัฐ หรือองค์กรต่างๆ จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมภายในชุมชนได้ตลอดไหม อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคณะกรรมการชุมชนหลายแห่งที่มีระบบการจัดการกองทุนที่ดี หรือมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ดีมากๆ ก็เป็นเคสที่ดีที่จะนำมาศึกษากลไกการทำงานของพวกเขากันต่อไป

ผลจากการทำงานในปีแรก ทำให้เราได้ทราบว่าใครเป็นใครหรืออยู่ในกลไกความร่วมมือส่วนไหนของการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละชุมชนหรือพื้นที่ก็ต่างมีบริบทเฉพาะเป็นของตัวเอง แต่การศึกษาเรื่องการทำงานข้ามภาคส่วน ก็ทำให้เราเข้าใจโครงสร้างของการทำงานร่วมกัน การเข้าใจความสัมพันธ์ภายในชุมชน หรือระหว่างชุมชน ภาคเอกชน กับรัฐ ซึ่งจะกลายเป็นโมเดลต่อการทำงานวิจัยหรือการขับเคลื่อนเมืองต่อไป

ก็เหมือนที่เราเกริ่นไว้ตอนต้น พอเราจะพัฒนาให้เมืองเป็นไปตามเป้าหมายอะไรก็ตามแต่ หลายคนก็อาจสงสัยว่า เออ เป็นแล้ว จะไปต่อยังไง หรือเราจะได้ประโยชน์จากเป้าหมายนี้อย่างไร การเข้าใจการทำงาน รวมถึงการทำให้ทุกคนเข้าใจกลไกของการทำงานข้ามภาคส่วน ทำให้เรารู้ว่า อืม… ต่อไปเราให้รัฐหนุนเสริมเรื่องนี้ได้นะ หรือชุมชนไหนอยากทำกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนเมือง เขาก็จะรู้ได้ว่าควรเริ่มต้นตรงไหนและอย่างไร

ซึ่งเมื่อความเข้าใจตรงนี้มันกระจ่าง มันยังทำให้เราสามารถกำหนดยุทธศาสตร์หรือทิศทางการพัฒนาเมืองต่อไปได้ ชาวบ้านหรือเครือข่ายชุมชนตกลงร่วมกันว่าอยากให้เมืองไปทางไหน นักวิจัย และภาคประชาสังคมร่วมขับเคลื่อน ส่วนรัฐก็พร้อมสนับสนุนไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าเชียงใหม่มีเป้าหมายจะเป็นเมืองอะไร ถ้าโครงสร้างตรงนี้เข้มแข็ง มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น”

///

อจิรภาส์ ประดิษฐ์

นักวิจัยโครงการโครงข่ายท้องถิ่นกับการเรียนรู้เมืองเชียงใหม่

#WeCitizensTh  #LearningCity  #ChiangMai

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[The Insider]<br />พัชรี แซมสนธ์

“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…

2 weeks ago

[The Insider]<br />พรทิพย์ จันทร์ตระกูล

“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…

2 weeks ago

[The Insider]<br />ณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล

“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…

3 weeks ago

[The Insider]<br />นนทพัฒ ถปะติวงศ์

“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />ชวนพิศ สุริยวงค์

“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว  ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />กาญจนา ใจปา และพิทักษ์พงศ์ เชอมือ

“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…

3 weeks ago