“ในฐานะที่ผมเป็นคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ จึงมีโอกาสได้รับเชิญให้เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนการพัฒนาเมืองของเราในมิติต่างๆ อยู่บ่อยๆ รวมถึงล่าสุดที่เกิดกฎบัตรนครสวรรค์ขึ้น ผมก็เข้าไปร่วมขับเคลื่อนกลไกที่จะทำให้นครสวรรค์เป็นเมืองศิลปะ
จะทำยังไงให้เมืองของเราเป็นเมืองศิลปะ? แน่นอน การนำงบประมาณมาสนับสนุนกิจกรรมให้ศิลปินท้องถิ่น หรือดึงศิลปินต่างชาติมาทำโครงการในบ้านเรา ทั้งทางด้านทัศนศิลป์ ดนตรี และการแสดง เป็นสิ่งจำเป็น หรือการมีพื้นที่ทางศิลปะอย่างหอศิลป์ก็ใช่ แต่สำคัญกว่านั้นคือ การทำให้คนในเมืองรับรู้และเห็นคุณค่าของศิลปะ ทำให้ศิลปะกลมกลืนไปกับวิถีชีวิตของพวกเขา
กลไกแห่งการเรียนรู้จึงเป็นหนึ่งในคำตอบที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ การทำให้คนนครสวรรค์เข้าถึงองค์ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และรากเหง้าทางวัฒนธรรมของตัวเอง เข้าใจความหลากหลาย และตระหนักว่าศิลปะคือสิ่งที่โอบอุ้มวัฒนธรรม โอบอุ้มวิถีชีวิตเราได้ ซึ่งถ้าทุกคนเข้าใจ จะพบว่าศิลปะมันจะสร้างประโยชน์ให้กับเราหลายทาง ทั้งทางด้านสุนทรียะในวิถีชีวิต ไปจนถึงการเป็นต้นทุนทางเศรษฐกิจของเมืองในระยะยาว
ในบทบาทของนักการศึกษา ผมก็พยายามผลักดันหลักสูตร ‘นครสวรรค์ศึกษา’ ให้เข้าไปอยู่ในหลักสูตรของมหาวิทยาลัย และผ่องถ่ายไปยังระดับมัธยมและประถมศึกษา ผ่านทางการสอนของครูบาอาจารย์ในแต่ละโรงเรียน ทั้งนี้ ผมก็เพิ่งได้เสนอกับผู้ว่าราชการจังหวัด (ชยันต์ ศิริมาศ) ไป และท่านก็มีความคิดอยากให้มีคลิปการเรียนประวัติศาสตร์เมืองเป็นเครื่องมือสนับสนุนด้วย
เช่นเดียวกับ นายก อบจ. นครสวรรค์ พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ ก็ตระหนักในเรื่องนี้ ท่านก็ให้ทางมหาวิทยาลัยเราทำวิจัยเรื่องต้นทุนเมือง หาสิ่งที่เป็น Ideal ของเมืองเพื่อจะได้นำมาพัฒนาเป็นสินค้า เป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงการทำให้เกิดสมาร์ทซิตี้ ซึ่งคณะมนุษย์ฯ ของผมก็ร่วมทำในมิติของการสร้างฐานการเรียนรู้ที่มั่นคง สร้าง Smart People ควบคู่ไปกับที่ทางคณะวิทยาศาสตร์ที่ทำเรื่องเทคโนโลยีทางอาหาร
ที่เล่ามา จะเห็นได้ว่าในภาคผู้บริหารเมือง รวมถึงเทศบาลนครนครสวรรค์ที่เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องกฎบัตร ต่างมองเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาตัวตนและความหลากหลายทางวัฒนธรรมของคนนครสวรรค์ เพื่อสกัดองค์ความรู้มาเป็นต้นทุนในการพัฒนา นี่จึงเป็นแนวโน้มที่ดี
กลับมาที่เรื่องของการทำให้เมืองของเราเป็นเมืองศิลปะ อีกมิติที่ไม่พูดไม่ได้คือมิติของศิลปิน ต้องยอมรับว่าศิลปินร่วมสมัยในบ้านเราหลายท่านมีผลงานที่ได้ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ แต่พอเราพูดถึงการขับเคลื่อนเมือง ศิลปินก็จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เรื่องเมืองของเรา และทำงานที่มีส่วนสะท้อนบริบทของเมือง เพื่อสื่อสารกับผู้คนในเมืองไปพร้อมกันด้วย
ที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่หมายความว่าศิลปินต้องเปลี่ยนแนวทางมาวาดรูปทิวทัศน์ของเมืองหรือปากแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างนั้นหรอกนะครับ เพียงแต่ถ้าศิลปินสร้างผลงานที่สามารถสื่อสารประเด็นทางสังคมเมือง ประวัติศาสตร์ หรือวิถีชีวิตของคนนครสวรรค์ เชื่อมโยงกับผู้ชม ก็จะช่วยสร้างไดนามิกของการขับเคลื่อนเมืองไปถึงเป้าหมายได้มากทีเดียว
และสำคัญที่สุดคือการสื่อสารถึงความสำคัญ เพราะเอาเข้าจริงส่วนราชการบางส่วนก็ยังไม่เข้าใจว่าเราจะเป็นเมืองศิลปะไปทำไม เพราะลำพังปากท้องของประชาชนยังไม่อิ่ม ชาวไร่ชาวนาบางส่วนก็ยังลำบากเลย
ซึ่งไม่ผิดที่เขาจะคิดแบบนั้น แต่มันไม่ใช่การเลือกจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เรื่องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาคน พัฒนาเศรษฐกิจเราก็ทำกันต่อไป ขณะเดียวกัน เราก็ขับเคลื่อนเรื่องศิลปะต่อไปได้
เพราะอันที่จริง ศิลปะก็ส่งเสริมเศรษฐกิจเมืองเราได้ อย่างเป้าหมายเบื้องต้นคือการดึงไทยแลนด์เบียนนาเล่ หรือเทศกาลศิลปะระดับนานาชาติมาจัดในเมืองของเรา นั่นก็หมายถึงงบประมาณสนับสนุนจากส่วนกลาง และเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในจังหวัด หรือการลงทุนทางพื้นที่ศิลปะอย่างหอศิลป์ มันก็ก่อให้เกิดระบบนิเวศให้กับผู้คนในเมือง ทั้งศิลปิน นักดนตรี นักแสดง ไปจนถึงนักการศึกษา สิ่งนี้จะเป็นมูลค่าเพิ่มของเมืองในอนาคต เช่นที่หลายๆ เมืองเล็กๆ ในญี่ปุ่นทำสำเร็จมาแล้ว”
รศ.ดร.สุชาติ แสงทอง
คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…