การเรียนรู้อยู่ในทุกที่ เกิดได้ทุกเวลา แต่จะทำอย่างไรให้ทุกคนได้รู้ ได้เข้าถึงเท่าๆ กัน

“สามีเราเป็นคนออสเตรีย เปิดออฟฟิศด้านซอฟต์แวร์อยู่เชียงใหม่ เราเคยร่วมงานกัน ก่อนจะคบหาและใช้ชีวิตด้วยกัน พอมีลูกคนแรก สามีก็เปรยเรื่องการเรียนโฮมสคูลมาก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นเราอยากลองให้ลูกเข้าโรงเรียนปกติดูก่อน

เรามีลูกสองคน อายุห่างกันสามปี พอเริ่มสังเกตว่ามิคาเอลลูกคนเล็ก ไม่ค่อยมีความสุขกับการเรียนในห้องเรียนเท่าไหร่ ซึ่งก็พอดีได้รู้จากพี่ชัช (ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ) เรื่องการจัดการศึกษาทางเลือกในครอบครัว เราก็เรียนรู้เรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง ก่อนมาคุยกับลูกๆ ว่า เรามาเรียนหนังสือกันที่บ้านไหม เดี๋ยวแม่สอนเอง ลูกๆ ก็สงสัยว่าเราเรียนหนังสือแบบไม่ต้องไปโรงเรียนได้ด้วยหรือ แต่เขาก็รู้สึกโอเค ก็เลยเริ่มทำบ้านเรียนตอนมิคาเอลอยู่ ป.1 ส่วนพี่คนโต อเล็กซ์อยู่ ป.4 ตอนนี้ทำมาได้ 11 ปีแล้ว

บ้านเรียนหรือโฮมสคูล (homeschool) มันเป็นการเรียนรู้ร่วมกันนะ ไม่ใช่ว่าเราเป็นคุณครูให้ลูกอย่างเดียว แต่ลูกก็เป็นคุณครูให้เราด้วย เราก็เรียนรู้ไปจากเขาและทำการประเมินว่าขาดทักษะตรงไหน หาว่าเขาสนใจอะไร และค่อยเน้นย้ำไป แต่กว่าจะลงตัวก็ทดลองมาหลายวิธี ตอนแรกจัดการศึกษาตามโรงเรียนเลย วันละ 7 คาบ ซึ่งเราเองก็ไม่ไหว เพราะก็ต้องทำกับข้าว ดูแลบ้านด้วย ก็ค่อยๆ ปรับไป เอาที่ลูกๆ ได้เรียนไม่ตึงไป แต่ก็ไม่หย่อนไป ไม่ได้คำนึงว่าลูกจะทำคะแนนสอบได้เท่าไหร่ แต่เน้นว่าพวกเขามีพัฒนาการตรงไหน และเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นไหม ไม่ใช่ว่าเด็กเรียนคณิตศาสตร์ไม่เก่ง แล้วจะไปตัดสินเขาว่าเป็นคนหัวไม่ดีหรือเรียนไม่เก่ง เราก็ต้องหาความชอบเขากันต่อไป และขณะเดียวกันเราก็คอยส่งรายงานให้เจ้าหน้าที่เขตการศึกษาด้วย เพื่อให้เขาเห็นว่าเราเรียนกันจริงๆ นะ ไม่ใช่ว่าเอาแต่เล่นอยู่บ้าน แต่เด็กๆ มีพัฒนาการจริงๆ

ตอนที่ทำโฮมสคูลกันใหม่ๆ แม่ๆ คนอื่นก็ไม่เข้าใจเราเยอะ การเรียนนอกโรงเรียน เด็กๆ จะรู้เรื่องหรือ ไหนจะไม่มีเพื่อนอีกนะ เราก็อธิบายว่าไม่ใช่ว่าเรามองว่าการศึกษาในระบบมันไม่ดี แค่คิดว่ามันอาจไม่เหมาะกับลูกเรา ขณะเดียวกันเราก็มองว่าสำหรับเราการเรียนรู้ของเด็กก่อนวัย 18 ปี คือการอ่านออกเขียนได้ รู้จักคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง เพื่อค้นพบความสนใจที่แท้จริงเพื่อปูไปสู่การศึกษาที่สูงขึ้นต่อไป ที่สำคัญ 8 กลุ่มสาระแห่งการเรียนรู้ มันก็อยู่ในชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้ว เรามีเวลาให้ลูกมากพอ จึงจัดการเรียนการสอนเองน่าจะตอบโจทย์กว่า

ส่วนเรื่องเพื่อน เราพบว่าไม่มีปัญหาเลย เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่าเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งโฮมสคูล มีครอบครัวนับร้อยที่ทำบ้านเรียนเหมือนเรา และที่สำคัญคือแต่ละบ้านก็สร้างเครือข่ายทำกิจกรรมร่วมกันอยู่เสมอ มีการนัดกันชวนศิลปินมาเปิดคอร์สศิลปะให้เด็กๆ ได้เรียนด้วยกัน กิจกรรมปลูกผักปลอดสารพิษ เล่นกีฬา ทำเวิร์คช็อปต่างๆ นานา หรือมีการเรียนรู้ทางเลือกอย่างโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนาที่เน้นเรื่องศิลปวัฒนธรรม เหล่านี้แหละที่ไม่เพียงเด็กๆ จะได้มนุษยสัมพันธ์ แต่เขายังค้นพบความชอบของตัวเองจริงๆ ด้วย

ยกตัวอย่างเช่นพี่อเล็กซ์ ลูกคนโต ก่อนออกจากโรงเรียน เขาสอบได้ที่หนึ่งของห้องตลอด ครูที่โรงเรียนก็มองว่าอเล็กซ์น่าจะเรียนต่อสายวิทย์แน่นอน ตอนแรกเราก็คิดอย่างนั้น แต่พออเล็กซ์มีโอกาสไปเรียนศิลปะตามบ้านที่เขาจัดกิจกรรม ครูที่สอนศิลปะก็บอกว่าอเล็กซ์เป็นคนมีจินตนาการนะ และเขาก็มีทักษะการวาดที่ดีมากๆ จนอเล็กซ์มาค้นพบว่าเขาอยากทำงานด้านศิลปะ เราก็ส่งเสริม แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ให้เขาเรียนวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์เลย เขาก็ยังเรียนต่อไป และทำได้ดี เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มันช่วยพัฒนาเขาด้านวิธีคิดหรือการคิดอย่างเป็นระบบ ส่วนมิคาเอล เขาจะเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่เขาก็มีความสนใจเฉพาะ เขาทำโครงการเพื่อจบมัธยมปีที่ 4 ด้วยภาษาเยอรมัน สนใจในโครงสร้างอย่างพวกเลโก้ หรือการวางแผนอย่างเกม Minecraft เราก็พอเห็นทางเขาแล้วว่าควรจะหนุนเสริมเขาตรงไหนต่อที่จะเอื้ออำนวยต่อวิชาชีพในอนาคต

เราคิดว่าการเรียนรู้มันอยู่ในทุกที่และเกิดขึ้นได้ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเกิดจากห้องเรียนอย่างเดียว และเชียงใหม่ก็เป็นเมืองที่มีพื้นที่แห่งการเรียนรู้อย่างหลากหลายและเปิดให้เข้าถึงได้ง่าย ปัญหาก็คือเราจะทำยังไงให้ทุกคนได้รู้ ได้เข้าถึงเหมือนๆ กัน ด้วยเหตุนี้จึงจัดตั้งเครือข่ายบ้านเรียนล้านนา (Lanna Homeschool Network) เพื่อให้คนที่ทำบ้านเรียนเหมือนกันได้แลกเปลี่ยนข่าวสาร ได้รู้ว่าที่ไหนมีกิจกรรมอะไรจะได้ให้เด็กๆ เข้าร่วมได้ รวมถึงการแบ่งปันบทเรียนหรืออุปสรรคร่วมกัน

สำหรับเราหัวใจสำคัญของบ้านเรียนคือการจัดการศึกษาที่ตอบโจทย์ความสนใจของลูกๆ และให้พวกเขาเข้าถึงทรัพยากรแห่งการเรียนรู้หรือกิจกรรมที่เขาสนใจให้มากที่สุด นี่เป็นงานที่คนเป็นผู้ปกครองต้องให้เวลาและทุ่มเทจริงๆ ซึ่งแน่นอน เป็นงานที่เหนื่อย แต่การได้เห็นว่าลูกๆ สามารถค้นพบตัวเองได้โดยที่เราช่วยส่งเสริมอย่างไม่บังคับ เราก็รู้สึกว่านี่เป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว”

///

ธารินี ชลอร์

เครือข่ายบ้านเรียนล้านนา

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายบ้านเรียนล้านนา

Facebook : Home School Lanna

#WeCitizensTh #LearningCity #ChiangMai

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[The Insider]<br />พัชรี แซมสนธ์

“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…

2 weeks ago

[The Insider]<br />พรทิพย์ จันทร์ตระกูล

“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…

2 weeks ago

[The Insider]<br />ณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล

“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…

3 weeks ago

[The Insider]<br />นนทพัฒ ถปะติวงศ์

“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />ชวนพิศ สุริยวงค์

“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว  ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…

3 weeks ago

[The Citizens]<br />กาญจนา ใจปา และพิทักษ์พงศ์ เชอมือ

“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…

3 weeks ago